กรุ ๑ | (กฺรุ) น. ห้องที่ทำไว้ใต้ดิน ใต้พระเจดีย์ เป็นต้น สำหรับเก็บพระพุทธรูปและสิ่งมีค่าอื่น ๆ, โดยปริยายหมายถึงกระทรวง ทบวง กรม ที่ข้าราชการในสังกัดถูกเรียกตัวเข้ามาอยู่ประจำ โดยมิได้มีตำแหน่งหน้าที่ใด ๆ เพื่อเป็นการลงโทษหรือก่อนเกษียณอายุราชการ ในความว่า เรียกเก็บเข้ากรุ. |
เฆี่ยน | ก. ตีด้วยหวายหรือไม้เรียวเป็นต้นเป็นการลงโทษ |
ทัณฑกรรม | (ทันดะ-, ทันทะ-) น. การลงโทษ, โทษที่ลงแก่สามเณรที่ประพฤติผิด |
เทวทัณฑ์ | น. การลงโทษของเทวดา, เทวดาลงโทษ, เช่น คนถูกฟ้าผ่าตายถือว่าเป็นเทวทัณฑ์. |
นิคหกรรม | น. การลงโทษที่สงฆ์ทำแก่ภิกษุที่ควรปราบเพื่อให้เข็ดหลาบ. |
โบย ๑ | ก. เฆี่ยนด้วยหวายเป็นต้นเป็นการลงโทษ. |
ใบแดง | ใบแสดงการลงโทษผู้เล่นฟุตบอลที่กระทำผิดกติกาอย่างรุนแรง โดยไล่ออกจากการแข่งขัน. |
ประชาทัณฑ์ | น. การที่ฝูงชนกลุ้มรุมทำร้าย เป็นการลงโทษบุคคลที่ตนเข้าใจหรือนึกว่ามีความผิด โดยไม่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม. |
ภาคทัณฑ์ | (พากทัน) ก. ตำหนิโทษ, คาดโทษ, ลงโทษเพียงว่ากล่าว, ลงโทษข้าราชการพลเรือนโดยตำหนิโทษเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งเป็นการลงโทษขั้นเบาที่สุด. |
ระสะเก็ด | ว. เรียกอาการลงโทษเฆี่ยนหลังซํ้าแผลเก่าที่ตกสะเก็ดแล้ว ว่า เฆี่ยนระสะเก็ด, โดยปริยายหมายความว่า พูดตำหนิซํ้าแล้วซํ้าอีก. |
ราชทัณฑ์ | น. โทษที่กระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์, โทษหลวง, เช่น ต้องราชทัณฑ์, เรียกกรมที่มีหน้าที่ลงโทษผู้กระทำผิดตามตัวบทกฎหมายควบคุมอบรมฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้กระทำผิด พักการลงโทษและคุมประพฤติ และขอพระราชทานอภัยโทษ ปลดปล่อยและสงเคราะห์ผู้พ้นโทษ เป็นต้น ว่า กรมราชทัณฑ์. |
ลงหญ้าช้าง | น. การลงโทษในสมัยก่อน คือ เอาตัวไปเป็นคนเลี้ยงช้าง. |
ไหม ๓ | น. การลงโทษปรับหรือให้จ่ายค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย. |
Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman, or Degrading Treatment or Punishment (1984) | อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ค.ศ. 1984) [TU Subject Heading] |
Punishment in crime deterrence | การลงโทษเพื่อปกป้องปรามอาชญากรรม [TU Subject Heading] |
Retribution | การลงโทษเพื่อความยุติธรรม [TU Subject Heading] |
Economic sanction | การลงโทษทางเศรษฐกิจ, Example: มาตรการทางเศรษฐกิจที่ประเทศ หรือกลุ่มประเทศหนึ่งใช้เพื่อกดดันอีกประเทศหนึ่ง ให้เปลี่ยนแปลงนโยบายบางประการ การลงโทษนี้รวมถึงการห้ามค้าขาย (ดู Embargo) และการจำกัดการลงทุนในประเทศนั้น ๆ ด้วย [สิ่งแวดล้อม] |
Amnesty International | องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว [การทูต] |
Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman and Degrading Treatment or Punishment | อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่น ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี [การทูต] |
Genocide | การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต] |
sanction | การคว่ำบาตร (ในกรอบสหประชาชาติ) " หมายถึง มาตรการลงโทษที่คณะมนตรีความมั่นคง ใช้ต่อประเทศสมาชิกที่มีการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ รวมทั้งเป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศโดยการจำกัด หรือห้ามประเทศสมาชิกอื่น ๆ ติดต่อในด้านต่าง ๆ (เช่น ด้านการค้า การคมนาคมขนส่ง) อย่างเป็นทางการกับประเทศนั้น ๆ เพื่อบีบบังคับให้มีการปฏิบัติตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคง มาตรการห้ามการ ติดต่อเหล่านี้ บางครั้งเรียกว่า ปิดล้อม (embargo) เช่น ปิดล้อมด้านอาวุธ ปิดล้อมด้านการค้า เป็นต้น " [การทูต] |
Security Council of the United Nations | คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต] |
Escape from Punishment | หลีกเลี่ยงการลงโทษ [การแพทย์] |
account for | (phrv) ชดใช้ (เงินหรือการลงโทษ) |
bastinado | (n) การลงโทษด้วยการตีเท้า |
be for it | (idm) ได้รับการลงโทษ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ได้รับโทษ, Syn. be in for |
be for the high jump | (idm) ได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง (คำไม่เป็นทางการ), See also: โดนลงโทษหนัก |
be in for it | (idm) ได้รับการลงโทษ, Syn. be for |
be in for trouble | (idm) ได้รับการลงโทษ, Syn. be for |
comeuppance | (n) การลงโทษ |
corporal punishment | (n) การลงโทษทางร่างกาย |
correction | (n) การลงโทษ |
crackdown | (n) การลงโทษขั้นรุนแรง |
face the music | (idm) ได้รับการลงโทษ (คำไม่เป็นทางการ) |
discipline | (n) การลงโทษ, Syn. punishment, correction |
electric chair | (n) การลงโทษประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า |
get away with | (phrv) ไม่ได้รับการลงโทษ, Syn. get by with |
get away with | (phrv) ไม่ได้รับการลงโทษ |
get it | (phrv) ได้รับการลงโทษ |
get off | (phrv) ไม่โดนลงโทษ, See also: รอดจากการลงโทษ, Syn. get away with, get off with |
go scot-free | (idm) รอดพ้นจากการลงโทษ |
take one's medicine | (idm) ยอมรับความผิด, See also: ยอมรับการลงโทษ |
immunity | (n) การพ้นจากภาระรับผิดชอบ, See also: การรอดพ้นจากการลงโทษ, Syn. examption, freedom |
impunity | (n) การได้รับยกเว้นจากการลงโทษ, See also: รอดพ้นจากสถานการณ์ไม่ดี, Syn. exemption |
infliction | (n) การลงโทษ, See also: การสร้างความเดือดร้อน, การสร้างความเสียหาย, Syn. punishment, imposition |
keelhaul | (vt) ลากคนด้วยเชือกไปตามใต้ท้องเรือจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง (เป็นการลงโทษชนิดหนึ่ง) |
life imprisonment | (n) การลงโทษจำคุกตลอดชีวิต, See also: การติดคุกตลอดชีวิต, Syn. life sentence |
life sentence | (n) การลงโทษจำคุกตลอดชีวิต |
nemesis | (n) การลงโทษหรือการพ่ายแพ้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ |
penal | (adj) เกี่ยวกับการลงโทษตามกฎหมาย, See also: แห่งอาญา |
penalty | (n) การลงโทษ, Syn. punishment |
penology | (n) การศึกษาเกี่ยวกับการลงโทษผู้กระทำผิด, See also: ทัณฑวิทยา, Syn. penalization |
poenology | (n) ทัณฑวิทยา, See also: การศึกษาเกี่ยวกับการลงโทษผู้กระทำผิดทางอาญา, Syn. penology |
punishment | (n) การลงโทษ, Syn. correction, discipline |
punitive | (adj) เกี่ยวกับการลงโทษ, Syn. punitory, vindictive |
time | (sl) การลงโทษจำคุก |
scot-free | (adv) อย่างไม่ได้รับการลงโทษ, See also: อย่างลอยนวล, Syn. footloose, liberated, uncontrolled, unharm, safe |
severity | (n) ความรุนแรง, See also: ความเข้มงวด, ความกวดขัน, ความเคร่ง, ความยากลำบาก, ความแม่นยำ, การลงโทษอย่างรุนแรง, Syn. asperity, sharpness, unkindness, hardheartedness, Ant. kindness, pity, softness |
vigilantism | (n) การลงโทษโดยพลการ |
warn off | (phrv) ห้าม (เพื่อเป็นการลงโทษ) |
auto-da-fe | (ออโทคะเฟ') n. การตัดสินคดีของศาสนาโรมันคาธอลิคในยุคกลางที่เผด็จการ มีการลงโทษใช้ไฟเผาพวกต่างศาสนา |
capital punishment | n. การลงโทษประหารชีวิต, Syn. execution |
conviction | (คันวิค'เชิน) n. การลงโทษ, การตัดสินว่ากระทำผิด, ภาวะที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด, ความมั่นใจ, ความเชื่อมั่นใจ, Syn. faith, Ant. unbelief |
corporal punishment | n. การลงโทษทางกายของผู้กระทำผิด |
correction | (คะเรค'เชิน) n. การแก้ไข, การตรวจแก้, สิ่งที่ได้แก้ไข, การลงโทษ, การตำหนิ, Syn. rectification |
crackdown | (แครค'คาวน์) n. การลงโทษอย่างรุนแรง, การปราบปรามอย่างรุนแรง, Syn. discipline |
crucifixion | (ครูซะฟิค'เชิน) n. การตรึงกางเขน, การตายของพระเยซูคริสต์โดยถูกตรึงบนกางเขนจนตาย, การลงโทษอย่างรุนแรง |
death sentence | n. การลงโทษประหารชีวิต |
discipline | (ดิส'ซะพลิน) n. วินัย, ระเบียบวินัย, การฝึกฝน, การลงโทษ, สาขาวิชา, ศิลปปฎิบัติ, วินัยทางศาสนา vt. ฝึกฝน, ทำให้มีวินัย, ลงโทษ, แก้ไข., See also: discipliner n., Syn. order |
infliction | (อินฟลิค'เชิน) n. การลงโทษ, การทำโทษ, การทำให้ได้รับความทุกข์ |
life sentence | n. การลงโทษจำคุกตลอดชีวิต, โทษจำคุกตลอดชีวิต |
medicine | (เมด'ดิซิน) n. ยา, สารที่ใช้เป็นยา, สิ่งที่ใช้ในการบำบัดโรค, แพทย์ศาสตร์, เวชกรรม, อายุรกรรม, การบำบัดโรคด้วยยา (ไม่รวมศัลยกรรมและสูติกรรม) vt. ให้ยา, เยียวยา -Phr. (to take one's medicine รับการลงโทษ (โดยเฉพาะสำหรับการกระทำความผิดที่ตนกระทำ) . |
penal | (เพน'เนิล) adj. เกี่ยวกับการลงโทษตามกฎหมาย, เกี่ยวกับอาญา, เกี่ยวกับการปรับไหม., See also: penality n. |
penalty | (เพน'เนิลที) n. การลงโทษ, การลงทัณฑ์การลงโทษทางอาญา, ค่าสินไหมทดแทน, ค่าปรับ, ข้อเสียเปรียบ, อุปสรรค, ผลร้าย, Syn. forfeit |
punishment | (พัน'นิชเมินทฺ) n. การทำโทษ, การลงโทษ, การทำให้เจ็บปวด, การทารุณ, การใช้สิ้นเปลือง, Syn. penalty |
punitive | (พิว'นิทิฟว) adj. เป็นการลงโทษ, เป็นการทำโทษ., See also: ness n., Syn. punitory |
rap | (แรพ) vt., vi., n. (การ) เคาะ, ตี, เคาะหรือตีเป็นจังหวะ, พูดโผงผาง, พูดโพล่ง, ด่าว่า, ตำหนิ, โทษสำหรับการกระทำความผิด, เสียงเคาะ, เสียงตี, การลงโทษ, การคุย, See also: rapper n., Syn. strike, hit |
sanction | (แซงคฺ'เชิน) n. การลงโทษ, การอนุญาตเป็นทางการ, สิ่งที่สนับสนุนการกระทำ, บทลงโทษ, การให้สัตยาบัน. vt. ลงโทษ, อนุญาต, อนุมัติ, เห็นด้วย, ยอมให้, ให้สัตยาบัน., See also: sanctionable adj. sanctioner n. |
sentence | (เซน'เทินซฺ) n. ประโยค, การตัดสิน, การตัดสินลงโทษ, การพิพากษา, การลงโทษ, คติพจน์, คำคม, สุภาษิต. vt. ตัดสิน, พิพากษา., See also: sentencer n., Syn. judgment, opinion, verdict |
severity | (ซีเวีย'ริที) n. ความรุนแรง, ความเข้มงวด, ความกวดขัน, ความเคร่ง, การเอาจริงเอาจัง, ความยากลำบาก, ความแม่นยำ, การลงโทษอย่างรุนแรง, การเหน็บแนม, การเสียดสี |
chastisement | (n) การลงโทษ, การสั่งสอน, การเฆี่ยนตี |
condemnation | (n) การกล่าวโทษ, การประณาม, การตำหนิ, การลงโทษ, การตัดสินความ |
conviction | (n) ความมั่นใจ, ความเชื่อมั่น, ความแน่ใจ, การลงโทษ, การตัดสินว่าผิด |
discipline | (n) ระเบียบข้อบังคับ, ระเบียบวินัย, การลงโทษ, การฝึกฝน |
imposition | (n) การก่อกวน, การลงโทษ, การหลอกลวง, การเอาเปรียบ, การเก็บภาษี |
penalty | (n) การลงโทษ, การลงทัณฑ์, อาญา, โทษทัณฑ์, ค่าปรับ |
punishment | (n) การลงโทษ, การลงทัณฑ์, การต่อย, การทำทารุณ |
punitive | (adj) เป็นการลงโทษ, เป็นการลงทัณฑ์ |
rap | (n) การตี, การเคาะ, การตำหนิ, การลงโทษ, การด่าว่า |
sanction | (n) การอนุญาต, การอนุมัติ, การรับรอง, การลงโทษ |
sentence | (n) คำตัดสิน, ประโยค, การพิพากษา, การลงโทษ, คติพจน์ |