งอน | (v) sulk, See also: pout, Syn. โกรธ, ไม่พอใจ, Ant. พอใจ, ถูกใจ, ชอบใจ, Example: แม้เธอจะงอนบ่อยและขี้ใจน้อย แต่ผมก็รักเธอมากที่สุด, Thai Definition: แสดงอาการโกรธหรือไม่พอใจเพื่อให้เขาง้อ, ทำจริตสะบัดสะบิ้ง |
หงอน | (n) crest, See also: comb, Example: บนหัวของนกมีขนคล้ายหงอนขึ้นเป็นกระจุก ปีกเป็นสีเขียวแกมน้ำตาล, Count Unit: หงอน, Thai Definition: ขนหรือเนื้อที่งอกขึ้นบนหัวไก่และนกบางชนิด, โดยปริยายใช้เรียกของที่มีลักษณะเช่นนั้น |
งอนไถ | (n) a name of a plough-like constellation, See also: a name of a star, Example: เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครรู้จักดาวงอนไถ, Count Unit: ดวง, Thai Definition: ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฆามี 5 ดวง, ดาวงูผู้ ดาวโคมูตร ดาววานร ดาวเมฆ หรือดาวมาฆะ ก็เรียก |
ขี้งอน | (adj) peevish, See also: petulant, churlish, fractious, Example: เธอเป็นหญิงที่ประเสริฐที่สุดแม้จะขี้งอนและใจน้อยแต่เธอก็ห่วงใยและเอาใจใส่ผมยิ่งกว่าตัวเธอเสียอีก, Thai Definition: แสดงอาการโกรธหรือไม่พอใจเพื่อให้เขาง้อ, ทำจริตสะบัดสะบิ้ง |
งอนง้อ | (v) reconcile, See also: make friendly again, conciliate, Syn. ง้องอน, ขอคืนดี, ขอดีด้วย, Ant. โกรธ, Example: ถ้าหล่อนโกรธก็ไปงอนง้อเสียสิ เดี๋ยวก็ใจอ่อนยอมคืนดีเองแหล่ะ, Thai Definition: ขอคืนดีด้วยโดยไม่มีทิฐิมานะถือโกรธ, อ่อนเข้าเพื่อให้ยอมหรือช่วยเหลือ |
งามงอน | (v) be beautiful, See also: be graceful, be fair, be attractive, be pretty, be handsome, Syn. งามลออ, งามสะคราญ, งามพริ้ง, ไฉไล, งามฉาย, Example: หน้าเธองามงอนกว่าสาวใดที่ฉันเคยพบเห็น, Thai Definition: สวยงามน่าชื่นชม, ลักษณะที่เห็นแล้วชวนยินดีชวนพึงใจ |
ง้องอน | (v) reconcile, See also: make friendly again, conciliate, Syn. ง้อ, งอนง้อ, ขอคืนดี, Ant. โกรธ, ไม่สนใจ, Example: นพพรสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมกลับไปง้องอนหล่อนเด็ดขาด, Thai Definition: ขอคืนดีด้วยโดยไม่มีทิฐิมานะถือโกรธ, อ่อนเข้าหาเพื่อให้ยอมหรือช่วยเหลือ |
แง่งอน | (n) artifice, See also: stratagem, trick, ruse, Syn. ชั้นเชิง, มารยา, เกี่ยงงอน, ข้อแม้, Example: เขาลงนามในสัญญาโดยปราศจากแง่งอน, Thai Definition: อาการที่แสร้งทำชั้นเชิงเพื่อให้ผู้อื่นเอาใจหรือให้เป็นที่พอใจตน |
แตรงอน | (n) old Thai horn, Count Unit: ตัว, Thai Definition: แตรที่มีลักษณะปลายบานและโค้งงอนอย่างเขาควาย ใช้ในงานพระราชพิธี |
แสนงอน | (adj) sulky, See also: be in a huff, Syn. ขี้งอน, แง่งอน, Example: ผู้หญิงแสนงอนก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่ถ้างอนไปซะทุกเรื่องก็อาจถูกบอกเลิกได้ง่ายๆ เหมือนกัน, Thai Definition: มีแง่งอนมาก, มีมารยา |
หงอนไก่ | (n) cockscomb, Syn. ต้นหงอนไก่, ดอกหงอนไก่, Example: เธอถือช่อดอกไม้พวกใบเตย ดอกหงอนไก่ สร้อยทอง สำหรับบูชาพระ, Count Unit: ต้น, ดอก, Thai Definition: ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Celosia argentea Linn. var. cristata Kuntze ในวงศ์ Amaranthaceae ดอกสีแดงลักษณะคล้ายหงอนไก่ |
เกี่ยงงอน | (v) be unwilling, See also: contend, dispute, bargain, counterpurpose, haggle, argue, Syn. เกี่ยง, ตั้งแง่, เล่นแง่, Example: ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้มีการเจรจารอบทวิภาคีนี้ต่อไปในอนาคตอันใกล้โดยไม่เกี่ยงงอนว่าจะต้องเป็นที่ไหน, Thai Definition: เกี่ยงอย่างมีเงื่อนไข, เกี่ยงเอาเชิง |
ปลงอนิจจัง | (v) realize the transitoriness of all things, See also: be disillusioned with impermanence, meditate on the impermanency of life, be filled with r, Syn. สังเวชใจ, Example: ข่าวอุบัติเหตุใหญ่ทำให้เรารู้สึกปลงอนิจจัง, Thai Definition: รู้สึกสังเวชใจว่าไม่น่าจะเป็นถึงเช่นนั้น |
สร้างอนาคต | (v) make the future, Example: เขาทั้งสองคนหวังที่จะสร้างอนาคตร่วมกัน |
ถึงอนิจกรรม | (v) die, See also: pass away, Syn. ถึงแก่อนิจกรรม, ตาย, สิ้นชีวิต, Example: ท่านเจ้าคุณป่วยและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลก่อนถึงอนิจกรรม 3 วันเท่านั้น |
ถุงยางอนามัย | (n) condom, Syn. ถุงยาง, Example: ปัจจุบันเชื่อว่าการสวมถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะใช้ป้องกันโรคเอดส์อย่างได้ผล, Count Unit: อัน, ชิ้น, Thai Definition: อุปกรณ์คุมกำเนิดสำหรับสวมอวัยวะเพศชาย ทำด้วยยางที่มีลักษณะบางแต่เหนียว |
กุงอน | (-งอน) น. นกช้อนหอย เช่น มีกุโงกกุงานและกุงอน (สมุทรโฆษ). |
เกี่ยงงอน | ก. เกี่ยงอย่างมีเงื่อนไข, เกี่ยงเอาเชิง. |
ง้องอน | ก. อ้อนวอนขอคืนดีด้วย, อ่อนเข้าหาเพื่อให้ยอมหรือช่วยเหลือ, งอนง้อ ก็ว่า. |
งอน ๑ | น. ส่วนปลายแห่งของบางอย่างที่เป็นรูปยาวเรียวและช้อยขึ้น เช่น งอนไถ. |
งอน ๑ | ว. ช้อยขึ้น, โง้งขึ้น. |
งอน ๑ | ก. แสดงอาการโกรธเคืองหรือไม่พอใจเพื่อให้เขาง้อ, ทำจริตสะบัดสะบิ้ง. |
งอนง้อ | ก. อ้อนวอนขอคืนดีด้วย, อ่อนเข้าหาเพื่อให้ยอมหรือช่วยเหลือ, ง้องอน ก็ว่า. |
งอนไถ | น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์มฆา มี ๕ ดวง, ดาวงูผู้ ดาวโคมูตร ดาววานร ดาวมฆะ หรือ ดาวมาฆะ ก็เรียก. |
งอน ๒ | ว. งาม ในคำว่า งามงอน. |
งอนหง่อ | ว. คู้ตัวงอตัว เป็นอาการของคนที่กลัวมากหรือหนาวมากเป็นต้น. |
งามงอน | ว. สวยงาม. |
เงือกหงอน | น. พญานาค เช่น ทรงวัวเผือกเงือกหงอนสังวรสังวาล (รำพันพิลาป). |
แง่งอน | น. อาการที่แสร้งทำชั้นเชิงเพื่อให้ผู้อื่นเอาใจหรือให้เป็นที่พอใจตน. |
เจ้าแง่เจ้างอน, เจ้าแง่แสนงอน | ว. มีแง่งอนมาก. |
ตูดงอน | ดู ลี่ ๑. |
แตรงอน | น. แตรมีลักษณะปลายบานและโค้งงอน ใช้ในงานพระราชพิธี |
แตรงอน | ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์อุตราษาฒ มี ๕ ดวง, ดาวราชสีห์ตัวเมีย ดาวอุตตราอาษาฒ หรือ ดาวอุตตราสาฬหะ ก็เรียก. |
ปลงอนิจจัง | ก. รู้สึกสังเวชใจว่าไม่น่าจะเป็นถึงเช่นนั้น. |
ผงอน | (ผะหฺงอน) น. แผ่นดิน, (โบ) เขียนว่า ผงร ก็มี. |
ผงอน | (ผะหฺงอน) ก. เอี้ยว, เลี้ยว. |
แผ่นผงอน, แผ่นพก, แผ่นภพ | น. พื้นดิน. |
รังเกียจรังงอน | ก. ตั้งแง่ตั้งงอนทำเป็นรังเกียจเพราะไม่ชอบใจ. |
ลิ้นหมาหงอนยาว | ดู ตาเดียว. |
แสนงอน | ว. มีแง่งอนมาก เช่น เธอมีนิสัยแสนงอนมาตั้งแต่เด็ก. |
หงอน | (หฺงอน) น. ขนหรือเนื้อที่งอกขึ้นบนหัวไก่และนกบางชนิด, โดยปริยายใช้เรียกของที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น ค้อนหงอน ขวานหงอน. |
หงอนไก่ | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Celosia argentea L. ในวงศ์ Amaranthaceae ช่อดอกสีแดงลักษณะคล้ายหงอนของไก่, หงอนไก่ไทย ก็เรียก. |
หงอนไก่ | ชื่อไม้ต้นหลายชนิดในสกุล Heritieraวงศ์ Sterculiaceae เช่น ชนิด H. littoralis Dryand. ผลเป็นสัน, หงอนไก่ทะเล ก็เรียก. |
หงอนไก่ | ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Cnestis palala (Lour.) Merr. ในวงศ์ Connaraceae ช่อดอกสีแดง ลักษณะคล้ายหงอนของไก่. |
หงอนไก่ทะเล | ดู หงอนไก่ (๒). |
หงอนไก่ไทย | ดู หงอนไก่ (๑). |
หงอนชบา | ดู กะรางหัวขวาน. |
หัวงอน, หัวเงิน | ดู หัวตะกั่ว (๑). |
กฐิน, กฐิน- | (กะถิน, กะถินนะ-) น. ผ้าพิเศษที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแก่ภิกษุสงฆ์เฉพาะกฐินกาล, ตามศัพท์แปลว่า ไม้สะดึง คือ กรอบไม้สำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวร |
กระตั้ว | น. ชื่อนกปากขอหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Psittacidae ลักษณะคล้ายนกแก้วแต่ตัวโตกว่า พบในทวีปออสเตรเลียและบริเวณใกล้เคียง เช่น กระตั้วหงอนเหลือง [ Cacatua galerita (Latham) ] กระตั้วดำ [ Probosciger aterrimus (Gmelin) ] . |
กระแต ๔ | น. ชื่อนกขนาดเล็ก วงศ์ย่อย Charadriinae ในวงศ์ Charadriidae หัวใหญ่ ปากสั้น อาจมีเดือยที่ปีก ขายาวปานกลาง มี ๔ ชนิด คือ กระแตหาด [ Vanellus duvaucelii (Lesson) ] กระแตหัวเทา [ V. cinereus (Blyth) ] กระแตหงอน [ V. vanellus (Linn.) ] และกระแตแต้แว้ดหรือต้อยตีวิด [ V. indicus (Boddaert) ]. |
กระสง | น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Channa lucius (Cuvier) ในวงศ์ Channidae รูปร่างคล้ายปลาช่อนซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่หัวแหลมกว่าและแอ่นงอนขึ้นเล็กน้อย มีลายพาดขวางลำตัวข้างละ ๗-๑๒ แถบ ทุกครีบมีจุดประหรือริ้วสีดำ ขนาดยาวได้ถึง ๔๐ เซนติเมตร. |
กระแหน่ | น. เล่ห์กล, แง่งอน, ท่วงที, เช่น ข้ากระไดกระแหน่ แต่งแง่แผ่ตนท่า (ลอ). |
กระอาน | น. ชื่อเต่านํ้ากร่อยขนาดใหญ่ชนิด Batagur baska (Gray) ในวงศ์ Emydidae จมูกแหลมงอนคล้ายตะพาบ เมื่อยังเล็กกระดองค่อนข้างแบน เมื่อโตขึ้นกระดองโค้งรี เพศเมียหัวและกระดองสีน้ำตาล เพศผู้หัวและกระดองสีดำตาสีขาว ตีนมีพังผืดเต็ม สามารถปรับตัวอยู่ในนํ้าจืดได้ พบในบริเวณที่มีน้ำไหลทางภาคใต้โดยเฉพาะแถบจังหวัดสตูล, กะอาน ก็เรียก. |
กลมกลืนกลอน | (-กฺลอน) น. ชื่อเพลงยาวกลอักษร ตัวอย่างว่า แสนเสียดายหายห่างโอ้ แสนเสียดายกรายนาฏช่าง แสนเสียดายงอนงามเจ้า ให้อ่านว่า แสนเสียดายหายห่างโอ้ห่างหาย แสนเสียดายกรายนาฏช่างนาฏกราย แสนเสียดายงอนงามเจ้างามงอน (จารึกวัดโพธิ์). |
กลองมลายู | น. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง รูปร่างลักษณะอย่างเดียวกับกลองแขก แต่ตัวกลองสั้นและอ้วนกว่า สายโยงเร่งเสียงทำด้วยหนัง ขึ้นหนัง ๒ หน้าด้วยหนังวัว ตีด้วยไม้งอน ใช้บรรเลงในวงบัวลอยในงานศพ และใช้บรรเลงในวงปี่พาทย์นางหงส์. |
กะบอนกะบึง | ก. มีท่าทีโกรธอย่างแสนงอน เช่น คอยสะบัดปัดกรกะบอนกะบึง (อิเหนา), โดยมากใช้ กะบึงกะบอน. |
กะบึงกะบอน | ก. มีท่าทีโกรธอย่างแสนงอน, กะบอนกะบึง ก็ว่า. |
กะปะ | น. ชื่องูพิษขนาดเล็กชนิด Calloselasma rhodostoma (Boie) ในวงศ์ Viperidae ตัวยาว ๕๐-๘๐ เซนติเมตร สีน้ำตาลอมแดงลายสีนํ้าตาลเข้ม บนหลังมีลายรูปสามเหลี่ยมสีนํ้าตาลแก่เรียงสลับเยื้องกันเป็นคู่ ๆ จมูกงอน ริมฝีปากเหลือง และมีแนวสีเหลืองพาดบนลูกตาถึงมุมปาก, ตัวที่มีสีคลํ้าเรียก งูปะบุก. |
กะราง, กะลาง | น. ชื่อนกขนาดกลางหลายชนิด ใน ๒ วงศ์ ลำตัวอ้วนป้อม หากินเป็นฝูงตามพื้นดิน อาจหากินร่วมกับนกชนิดอื่น ๆ พวกที่อยู่ในวงศ์ Sylviidae มีปากหนาสั้นสีดำปลายแหลม เช่น กะรางหัวหงอก [ Garrulax leucolophus (Hardwicke) ] กะรางคอดำ [ G. chinensis (Scopoli) ] กะรางสร้อยคอเล็ก [ G. monileqer (Hodgson) ] พวกที่อยู่ในวงศ์ Upupidae ได้แก่ กะรางหัวขวาน ( Upupa epops Linn.) ปากยาวแหลมโค้งสีดำ หงอนขนสีส้มขอบดำ ลักษณะหงอนขนเหมือนหมวกของอินเดียนแดง ขนตามลำตัวสีนํ้าตาลอมเหลือง มีแถบดำขาวสลับกัน, ชนิดนี้ การางหัวขวาน หรือ หงอนชบา ก็เรียก. |
กาหล | (-หน) น. แตรงอน เช่น หมื่นกาหลวิชัยมีหน้าที่ประโคมแตรงอน. |
กำ ๑ | ก. งอนิ้วมือทั้ง ๔ ให้จดอุ้งมือ, เอานิ้วมือทั้ง ๕ โอบรอบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, อาการที่งอนิ้วมือทั้ง ๕ รวบสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้. |
กำแพงเศียร | น. ไก่พันทาง มีหงอนเป็นจัก ๆ. |
เกริน | (เกฺริน) น. ส่วนที่ต่อขึ้นไปที่หัวหรือท้ายราชรถ หรือขนาบอยู่ ๒ ข้างบุษบก มีลักษณะคล้ายโขนเรือที่งอนอ่อน. |
เกรินบุษบก | น. เกรินที่ต่อออกไปทางด้านข้างฐานบุษบกมาลาทั้ง ๒ ข้าง เพื่อส่งรูปฐานบุษบกให้งอนแอ่นขึ้นคล้ายหัวและหางเรือ. |
ไก่ | น. ชื่อสัตว์ปีกจำพวกนก มีหลายวงศ์ บินได้ในระยะสั้น หากินตามพื้นดิน ตกไข่ก่อนแล้วจึงฟักออกเป็นตัว ตัวผู้หงอนใหญ่และเดือยยาว ตัวเมียหงอนเล็กไม่มีเดือย เช่น ไก่ป่า ไก่ต๊อก ไก่ฟ้า |
particle-bed storage | ๑. ตัวสะสมแบบถังอนุภาค๒. การสะสมแบบถังอนุภาค [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] |
partial differential | ผลต่างเชิงอนุพันธ์ย่อย [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
partial differential equation | สมการเชิงอนุพันธ์ย่อย [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
loop | ห่วงอนามัยแบบห่วง [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
serial correlation | สหสัมพันธ์เชิงอนุกรม [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
order of a differential equation | อันดับของสมการเชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
ordinary differential equation | สมการเชิงอนุพันธ์สามัญ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
award | คำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
award | ๑. คำตัดสินชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ๒. รางวัลเกียรติคุณ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
arbitrament | คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
bodily exhibition | การแสดงอนาจาร (โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย) [ ดู exhibitionism ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
monumental | เชิงอนุสาวรีย์ [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
condom | ถุงยางอนามัย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
characteristic curve (of a differential equation) | เส้นโค้งลักษณะเฉพาะ (ของสมการเชิงอนุพันธ์) [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
characteristic curve (of a differential equation) | เส้นโค้งลักษณะเฉพาะ (ของสมการเชิงอนุพันธ์) [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
copper T | ห่วงอนามัยทองแดงรูปตัวที [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
conservative | เชิงอนุรักษนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
coil | ห่วงอนามัยแบบขด [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
differential analyser; differential analyzer | เครื่องวิเคราะห์เชิงอนุพันธ์ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
differential analyzer; differential analyser | เครื่องวิเคราะห์เชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
differential calculus | แคลคูลัสเชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
differential equation | สมการเชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
derived curve | เส้นโค้งอนุพัทธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
differential | ๑. เชิงอนุพันธ์๒. ผลต่างเชิงอนุพันธ์, ดิฟเฟอเรนเชียล [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
differential analyser; differential analyzer | เครื่องวิเคราะห์เชิงอนุพันธ์ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
differential analyser; differential analyzer | เครื่องวิเคราะห์เชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
differential geometry | เรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
differential thermal analysis (DTA) | การวิเคราะห์ความร้อนเชิงอนุพันธ์ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
differential topology | ทอพอโลยีเชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
degree of a differential equation | ระดับขั้นสมการเชิงอนุพันธ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
forma pauperis (L.) | อย่างอนาถา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
exhibitionism | การแสดงอนาจาร (โดยเปิดเผยของลับ) [ ดู bodily exhibition ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
exact differential equation | สมการเชิงอนุพันธ์แบบแม่นตรง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
IUD (intra-uterine device); intra-uterine device (IUD) | เครื่องสอดมดลูก, ห่วงอนามัย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
in forma pauperis (L.) | อย่างอนาถา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
infinite interval | ช่วงอนันต์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
inference engine | เครื่องอนุมาน [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
intra-uterine device (IUD); IUD (intra-uterine device) | เครื่องสอดมดลูก, ห่วงอนามัย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
transfinite | เชิงอนันต์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
transfinite number | จำนวนเชิงอนันต์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
total differential | ผลต่างเชิงอนุพันธ์รวม [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
แตรงอน | ชื่อแตรชนิดหนึ่งใช้ในพิธีหลวง; ชื่อดาวฤกษ์อุตราษาฒ [ศัพท์พระราชพิธี] |
Accelerator | เครื่องเร่งอนุภาค, เครื่องเพิ่มความเร็วและพลังงานจลน์ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า เช่น <em>โปรตอน</em>หรือ<em>อิเล็กตรอน</em> โดยใช้แรงแม่เหล็กและ/หรือไฟฟ้า ทำให้อนุภาคเหล่านั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง เครื่องเร่งอนุภาคมีหลายชนิด เช่น <em>ไซโคลทรอน</em> <em>ซิงโครทรอน เครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้น</em> และ<em>บีตาทรอน</em> [นิวเคลียร์] |
Actinium sequence | อนุกรมแอกทิเนียม, กลุ่มนิวไคลด์ที่เกิดขึ้นตามลำดับจากการสลายของยูเรเนียม-235 นิวไคลด์สุดท้ายของอนุกรมนี้คือ ตะกั่ว-207 นิวไคลด์หลายชนิดที่มนุษย์ผลิตขึ้นก็มีการสลายตามอนุกรมนี้ [นิวเคลียร์] |
Actinium series | อนุกรมแอกทิเนียม, กลุ่มนิวไคลด์ที่เกิดขึ้นตามลำดับจากการสลายของยูเรเนียม-235 นิวไคลด์สุดท้ายของอนุกรมนี้คือ ตะกั่ว-207 นิวไคลด์หลายชนิดที่มนุษย์ผลิตขึ้นก็มีการสลายตามอนุกรมนี้ [นิวเคลียร์] |
Annihilation | ประลัย, ปฏิกิริยาระหว่างอนุภาคกับปฏิยานุภาคของอนุภาคนั้นๆ แล้วอนุภาคทั้งสองหายไปกลายเป็นรังสีแกมมาพลังงานเท่ากันเคลื่อนที่ออกไปในทิศทางตรงข้ามกัน เช่นการรวมตัวของอิเล็กตรอนกับโพซิตรอน ได้รังสีแกมมาพลังงานรวม 1.02 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ (ดู Antimatter ประกอบ), Example: [นิวเคลียร์] |
Compton scattering | การกระเจิงแบบคอมป์ตัน, ปรากฏการณ์เมื่อโฟตอนวิ่งชนอิเล็กตรอนของอะตอม แล้วเกิดการกระเจิง โฟตอนที่กระเจิงออกไปจะมีพลังงานลดลงจากเดิม ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมของการกระเจิงและมวลของอนุภาคที่ถูกชน ปรากฏการณ์นี้ตั้งชื่อตามผู้ค้นพบ คือ อาร์เทอร์ ฮอลลี คอมป์ตัน (Arthur Holly Compton) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลในปี พ.ศ.2470 [นิวเคลียร์] |
Cyclotron | ไซโคลทรอน, เครื่องเร่งอนุภาคที่อนุภาคถูกเร่งด้วยสนามไฟฟ้าและถูกควบคุมด้วยสนามแม่เหล็ก ให้วิ่งวนเป็นวงออกไปคล้ายก้นหอย เมื่อได้ความเร็วที่ต้องการ อนุภาคจะถูกปล่อยให้ชนกับวัสดุที่ใช้เป็นเป้า เครื่องเร่งอนุภาคชนิดนี้ใช้ในการวิจัยฟิสิกส์มูลฐาน และการผลิตสารไอโซโทปรังสี ผู้ประดิษฐ์ คือ เออร์เนสต์ โอ. ลอว์เรนซ์ (Earnest O. Lawrence) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี พ.ศ. 2482 [นิวเคลียร์] |
Particle accelerator | เครื่องเร่งอนุภาค, เครื่องเพิ่มความเร็วและพลังงานจลน์ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า เช่น โปรตอนหรืออิเล็กตรอน โดยใช้แรงแม่เหล็กและ/หรือไฟฟ้า ทำให้อนุภาคเหล่านั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง เครื่องเร่งอนุภาคมีหลายชนิด เช่น ไซโคลทรอน ซิงโครทรอน เครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้น และบีตาทรอน [นิวเคลียร์] |
Elementary particles | อนุภาคมูลฐาน, อนุภาคชั้นสามัญที่สุดของสสารและรังสี ส่วนใหญ่มีอายุสั้นและไม่ปรากฏในภาวะปกติ (ยกเว้น อิเล็กตรอน นิวตรอน โปรตอน และนิวทริโน) เดิมหมายถึงอนุภาคใดๆ ที่ไม่สามารถแบ่งย่อยต่อไปได้ หรืออนุภาคที่เป็นองค์ประกอบของอะตอม ปัจจุบันหมายถึงอนุภาคโปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอน มีซอน มิวออน แบรีออน และปฏิยานุภาคของอนุภาคเหล่านี้ รวมทั้งโฟตอน แต่ไม่รวมอนุภาคแอลฟาหรือดิวเทอรอน [นิวเคลียร์] |
Van de Graaff generator | เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแวนเดอแกรฟฟ์, เครื่องผลิตประจุไฟฟ้าสถิตศักย์สูง โดยประจุไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดประจุถูกส่งผ่านโลหะปลายแหลมไปยังสายพานซึ่งทำหน้าที่พาประจุขึ้นไปสะสมไว้ที่ผิวทรงกลมจนได้ศักย์ไฟฟ้าสูง เครื่องนี้สามารถสะสมประจุจนกระทั่งมีศักย์ไฟฟ้าสูงถึง 20 ล้านโวลต์ เครื่องนี้สามารถใช้เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีประจุ มักใช้เร่งอนุภาคก่อนยิงเข้าสู่เครื่องเร่งอนุภาคแบบอื่นที่ให้พลังงานสูงขึ้น รอเบิร์ต แวน เดอ แกรฟฟ์ (Robert Van de Graaff) เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องมือนี้ในปี พ.ศ. 2474, Example: [นิวเคลียร์] |
Van de Graaff accelerator | เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแวนเดอแกรฟฟ์, เครื่องผลิตประจุไฟฟ้าสถิตศักย์สูง โดยประจุไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดประจุถูกส่งผ่านโลหะปลายแหลมไปยังสายพานซึ่งทำหน้าที่พาประจุขึ้นไปสะสมไว้ที่ผิวทรงกลมจนได้ศักย์ไฟฟ้าสูง เครื่องนี้สามารถสะสมประจุจนกระทั่งมีศักย์ไฟฟ้าสูงถึง 20 ล้านโวลต์ เครื่องนี้สามารถใช้เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีประจุ มักใช้เร่งอนุภาคก่อนยิงเข้าสู่เครื่องเร่งอนุภาคแบบอื่นที่ให้พลังงานสูงขึ้น รอเบิร์ต แวน เดอ แกรฟฟ์ (Robert Van de Graaff) เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องมือนี้ในปี พ.ศ. 2474 [นิวเคลียร์] |
Synchrotron | ซิงโครทรอน, เครื่องเร่งอนุภาค ที่อนุภาคถูกเร่งโดยสนามไฟฟ้าซึ่งเปลี่ยนแปลงด้วยความถี่ในย่านความถี่ของคลื่นวิทยุ และถูกบังคับให้วิ่งเป็นวงกลมรัศมีคงที่โดยการควบคุมของสนามแม่เหล็กที่เพิ่มขึ้น พร้อมสัมพันธ์กับความเร็วของอนุภาคที่เพิ่มขึ้น ซิงโครทรอนเครื่องแรก ชื่อ คอสโมทรอน (Cosmotron) สร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2495 ตั้งอยู่ที่ Brookhaven National Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถเร่งโปรตอนให้มีพลังงานสูงถึง 2, 300 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์, Example: [นิวเคลียร์] |
Radiation, nuclear | รังสีนิวเคลียร์, การแผ่รังสีของนิวเคลียส, รังสีในรูปของอนุภาคหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่แผ่ออกมาจากนิวเคลียสของนิวไคลด์กัมมันตรังสี เช่น อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา <br>(ดู radiation ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] |
Differential calculus | แคลคูลัสเชิงอนุพันธ์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
radiation | รังสี, การแผ่รังสี, พลังงานที่แผ่จากต้นกำเนิดรังสีผ่านอากาศหรือสสาร ในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น ความร้อน แสงสว่าง คลื่นวิทยุ รังสีเอกซ์ รังสีแกมมา หรือเป็นกระแสของอนุภาคที่เคลื่อนที่เร็ว เช่น รังสีคอสมิก รังสีแอลฟา รังสีบีตา อนุภาคนิวตรอน อนุภาคโปรตอน [นิวเคลียร์] |
Proton synchrotron | โปรตอนซิงโครทรอน, เครื่องเร่งอนุภาคที่ใช้เร่งอนุภาคโปรตอนให้มีพลังงานสูงมากในช่วงพันล้านอิเล็กตรอนโวลต์ (ดู synchrotron ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
Photon | โฟตอน, กลุ่มหนึ่งๆ ของพลังงานในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีโมเมนตัมซึ่งเป็นลักษณะของอนุภาค แต่ไม่มีมวลหรือประจุไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น รังสีแกมมา และรังสีเอกซ์ [นิวเคลียร์] |
Pair production | แพร์โพรดักชัน, การแปลงพลังงานจลน์ของโฟตอนหรืออนุภาคที่มีพลังงานสูงให้เป็นมวล เกิดเป็นอนุภาคย่อยและปฏิยานุภาคของอนุภาคนั้น เช่น การที่รังสีแกมมาหรือรังสีเอกซ์ที่มีพลังงานตั้งแต่ 1.022 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ขึ้นไป ผ่านสนามไฟฟ้ารอบนิวเคลียสแล้วกลายเป็นอิเล็กตรอนและโพซิตรอนที่มีพลังงานเท่ากัน <br>พลังงาน 1.022 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์เทียบเท่ากับมวลนิ่งของอิเล็กตรอนกับโพซิตรอนรวมกัน</br>, Example: [นิวเคลียร์] |
Nucleus | นิวเคลียส, แกนกลางของอะตอม มีประจุเป็นบวก และขนาดเล็กประมาณ 10-15 เมตร หรือประมาณ 1 ใน 10, 000 ของเส้นผ่าศูนย์กลางของอะตอม เป็นที่รวมของมวลเกือบทั้งหมดของอะตอม ทุกนิวเคลียสประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอน ยกเว้นนิวเคลียสของไฮโดรเจนธรรมดาที่มีเพียงโปรตอนหนึ่งอนุภาค [นิวเคลียร์] |
Nuclear radiation | รังสีนิวเคลียร์, การแผ่รังสีของนิวเคลียส, รังสีในรูปของอนุภาคหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่แผ่ออกมาจากนิวเคลียสของนิวไคลด์กัมมันตรังสี เช่น อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา <br>(ดู radiation ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] |
Neutron generator | เครื่องกำเนิดนิวตรอน, เครื่องเร่งอนุภาคชนิดหนึ่งที่ใช้ในการผลิตนิวตรอน โดยการเร่งอนุภาคที่มีประจุ เช่น ดิวเทอรอน ให้มีพลังงานระหว่าง 150-500 กิโลอิเล็กตรอนโวลต์ แล้วปล่อยให้ชนกับเป้าบางๆ ที่เหมาะสม ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นจะให้นิวตรอนที่มีพลังงานได้ถึง 17.59 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์, Example: [นิวเคลียร์] |
Neutrino | นิวทริโน, อนุภาคมูลฐานที่มีมวลน้อยมาก ไม่มีประจุไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูง และมีปฏิสัมพันธ์กับสสารน้อย ทำให้ตรวจหาได้ยาก พบได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์หลายชนิด เช่น การสลายแบบให้อนุภาคบีตา รวมทั้งอนุภาคจากดวงอาทิตย์ที่ผ่านมายังโลก, Example: [นิวเคลียร์] |
Linac | เครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้น, ไลแน็ก, มาจากคำ่ว่า Linear accelerator อนุภาคที่มีลักษณะเป็นท่อตรงยาว อนุภาคที่มีประจุซึ่งวิ่งภายในท่อจะถูกเพิ่มพลังงานด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากระแสสลับที่มีอยู่ตลอดความยาวท่อ <br>(ดู cyclotron และ accelerator ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] |
Linear accelerator | เครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้น, ไลแน็ก, เครื่องเร่งอนุภาคที่มีลักษณะเป็นท่อตรงยาว อนุภาคที่มีประจุซึ่งวิ่งภายในท่อจะถูกเพิ่มพลังงานด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากระแสสลับที่มีอยู่ตลอดความยาวท่อ <br>(ดู cyclotron และ accelerator ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] |
Kinetic energy released in matter | เคอร์มา, ผลรวมของพลังงานจลน์เริ่มต้นของอนุภาคที่มีประจุซึ่งเกิดจากรังสีชนิดก่อไอออนที่ไม่มีประจุทำปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ มีหน่วยเป็นเกรย์ [นิวเคลียร์] |
Ion | ไอออน, อะตอมหรือโมเลกุลที่มีประจุไฟฟ้าจากการสูญเสียหรือได้รับอิเล็กตรอนหนึ่งอนุภาคหรือมากกว่า อะตอมหรือโมเลกุลที่สูญเสียอิเล็กตรอนจะเป็นไอออนบวก ถ้าได้รับอิเล็กตรอนเข้ามาจะเป็นไอออนลบ [นิวเคลียร์] |
Food irradiation | การฉายรังสีอาหาร, การนำอาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งผลิตอย่างถูกสุขลักษณะและบรรจุในภาชนะหรือหีบห่อที่เหมาะสม ไปผ่านการฉายรังสีแกมมา หรือรังสีเอกซ์ หรือลำอิเล็กตรอนจากเครื่องเร่งอนุภาค ด้วยปริมาณรังสีที่เหมาะสม เพื่อฆ่าเชื้อโรคหรือพยาธิ ยับยั้งการทำลายหรือแพร่พันธุ์ของแมลง ยืดอายุการเก็บรักษา ยับยั้งการงอก และชะลอการสุก [นิวเคลียร์] |
Celosia argentea | หงอนไก่ไทย [TU Subject Heading] |
Condoms | ถุงยางอนามัย [TU Subject Heading] |
Conservation tillage | การเตรียมดินเพาะปลูกเชิงอนุรักษ์ [TU Subject Heading] |
Convention on the Recognition and Enforcement of Foreign Arbitral Award (1958) | อนุสัญญาว่าด้วยการยอมรับและใช้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ (ค.ศ. 1958) [TU Subject Heading] |
Differential calculus | แคลคูลัสเชิงอนุพันธ์ [TU Subject Heading] |
Differential equations | สมการเชิงอนุพันธ์ [TU Subject Heading] |
Differential equations, Partial | สมการเชิงอนุพันธ์ย่อย [TU Subject Heading] |
Differential topology | โทโพโลยีเชิงอนุพันธ์ [TU Subject Heading] |
Ecotourism | การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ [TU Subject Heading] |
Foreign licensing agreements | ข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิระหว่างประเทศ [TU Subject Heading] |
Gemoetry, Differential | เรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ [TU Subject Heading] |
Intrauterine devices | ห่วงอนามัย [TU Subject Heading] |
License agreements | ข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิ [TU Subject Heading] |
Particle accelerators | เครื่องเร่งอนุภาค [TU Subject Heading] |
Agency for Coordinating Mekong Tourism Activities | ศูนย์ประสานงานโครงการด้านการท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง [การทูต] |
Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] |
Conduct of Diplomatic Mission Towards the Receiving State | ในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง [การทูต] |
Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] |
Consular Fees and Charges | ค่าธรรมเนียมและค่าภาระทางกงสุล ตามข้อ 39 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ได้กำหนดไว้ว่า1. สถานที่ทำการทางกงสุล อาจเรียกเก็บในอาณาเขตของรัฐผู้รับ สำหรับการปฏิบัติงานทางกงสุลซึ่งค่าธรรมเนียม ค่าภาระตามที่ได้บัญญัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง2. จำนวนเงินที่เก็บได้ในรูปค่าธรรมเนียมและค่าภาระตามที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ ใบรับสำหรับค่าธรรมเนียมหรือค่าภาระเช่นว่านั้น จะได้รับยกเว้นจากค่าติดพันและภาษีทั้งปวงในรัฐผู้รับ [การทูต] |
Consular office Declared ?Non grata? | เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต] |
Departure of Diplomatic Agents | การออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต] |
Diplomatic Privilege of Accommodation | มาตรา 21 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตบัญญัติไว้ว่า ?1. รัฐผู้ต้อนรับจะต้องอำนวยความสะดวกตามบทกฎหมายของประเทศของตน ในการจัดการให้ได้มาซึ่งดินแดนของตนให้แก่รัฐผู้ส่ง ซึ่งจำเป็นแก่การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐนั้น หรือช่วยเหลือให้รัฐผู้ส่งได้รับอาคารที่พำนักด้วยวิธีการหนึ่งใด 2. ในกรณีจำเป็น รัฐผู้รับจะต้องช่วยให้คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ได้มีสถานที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม?เมื่อตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่ง ตั้งได้เดินทางไปถึงประเทศที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่ง ณ ที่นั้นมีคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลของเขาประจำทำงานอยู่แล้ว ตามปกติตัวแทนทูตดังกล่าวจะมีสำนักงานทางการทูตตั้งอยู่แล้วในสถานที่เหมาะ สม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการปฏิบัติงานโดยครบครัน และผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขาหรืออุปทูตชั่วคราวมักจะเตรียมการไว้ก่อน แล้วเกี่ยวกับที่พักอาศัย เรียกว่าทำเนียบ นอกจากว่าจะมีทำเนียบตั้งอยู่ภายในบริเวณตึกสถานเอกอัครราชทูตซึ่งรัฐบาลของ เขาเป็นเจ้าของเองแต่ถ้าหากตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ จะต้องตั้งคณะผู้แทนทางการทูตในประเทศที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ก็จะต้องประสบกับปัญหาเรื่องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งสถานเอกอัคร ราชทูตขึ้น ในกรณีเช่นนี้จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคำแนะนำและความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ กระทรวงการต่างประเทศของบางประเทศจะมีแผนกหนึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คณะทูตต่างประเทศโดยเฉพาะ เป็นแผนกหนึ่งในกรมพิธีการทูต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว [การทูต] |
Exclusive Economic Zone | เขตเศรษฐกิจจำเพาะ คือ บริเวณที่อยู่เลยไปจากและประชิดกับทะเลอาณาเขต สิทธิและเขตอำนาจของรัฐชายฝั่งและสิทธิเสรีภาพของรัฐอื่นถูกกำหนดโดยบท บัญญัติที่เกี่ยวข้องของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล พ.ศ. 2525 [การทูต] |
ใบรับรองอนามัย | [bairaprøng anāmai] (n, exp) EN: health certificate |
จมูกงอน | [jamūk ngøn] (n, exp) FR: nez en trompette [ m ] |
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ | [kān thøngthīo choēng anurak] (n, exp) EN: ecotourism ; conservation tourism FR: écotourisme [ m ] |
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเล | [kān thøngthīo choēng anurak thāng thalē] (n, exp) EN: marine ecotourism |
แคลคูลัสเชิงอนุพันธ์ | [khaēnkhūlat choēng anuphan] (n, exp) EN: Differential Calculus FR: calcul différentiel [ m ] |
คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ | [khamchīkhāt khøng anuyātōtulākān] (n, exp) EN: arbitration award |
ขี้งอน | [khī-ngøn] (adj) EN: peevish ; petulant ; churlish ; fractious |
เกี่ยงงอน | [kīeng-ngøn] (v) EN: be unwilling ; contend ; dispute ; bargain ; counterpurpose ; haggle ; argue FR: rechigner ; renâcler |
แง่งอน | [ngaē-ngøn] (n) EN: artifice ; stratagem ; trick ; ruse FR: ruse [ f ] ; astuce [ f ] ; artifice [ m ] ; stratagème [ m ] |
งามงอน | [ngām-ngøn] (v) EN: be beautiful ; be graceful ; be fair ; be attractive ; be pretty ; be handsome |
งอน | [ngøn] (v) EN: sulk ; pout FR: bouder ; faire la tête ; faire la moue |
งอน | [ngøn] (v) EN: curve ; bend ; be tilted ; turn up FR: courber |
งอน | [ngøn] (adj) EN: liable to take offense ; petulant ; peevish FR: grincheux ; grognon ; maussade ; de mauvaise humeur ; fâché |
งอน | [ngøn] (adj) EN: tilted ; curving FR: recourbé ; crochu |
หงอน | [ngøn] (n) EN: crest ; comb FR: crête [ f ] |
ง้องอน | [ngø-ngøn] (v) EN: reconcile ; make friendly again ; conciliate |
หงอนไก่ | [ngøn kai] (n, exp) EN: Common cockscomb ; Crested celosin |
งอนขึ้น | [ngøn kheun] (v, exp) FR: retrousser |
นกแอ่นฟ้าหงอน | [nok aen fā ngøn] (n, exp) EN: Crested Treeswift FR: Hémiprocné couronné [ m ] ; Hémiprocné huppé [ m ] |
นกชายเลนปากงอน | [nok (chāilēn) pāk ngøn] (n, exp) EN: Pied Avocet FR: Avocette élégante [ f ] ; Avocette à nuque noire [ f ] ; Avocette à manteau noir [ f ] ; Avocette à tête noire [ f ] |
นกหัวขวานเล็กหงอนเหลือง | [nok hūa khwān lek ngøn leūang] (n, exp) EN: Lesser Yellownape FR: Pic à huppe jaune [ m ] |
นกหัวขวานใหญ่หงอนเหลือง | [nok hūa khwān yai ngøn leūang] (n, exp) EN: Greater Yellownape FR: Pic à nuque jaune [ m ] ; Pic à nuque d'or [ m ] |
นกเอี้ยงหงอน | [nok īeng ngøn] (n, exp) EN: White-vented Myna FR: Grand Martin [ m ] ; Mainate à ventre blanc [ m ] ; Grand Mainate [ m ] |
นกจาบปีกอ่อนหงอน | [nok jāp pīk øn ngøn] (n, exp) EN: Crested Bunting FR: Bruant huppé [ m ] |
นกกาน้อยหงอนยาว | [nok kā nøi ngøn yāo] (n, exp) EN: Crested Jay FR: Geai longup [ m ] ; Geai huppé [ m ] ; Platylophe longup [ m ] |
นกคัคคูหงอน | [nok khakkhū ngøn] (n, exp) EN: Chestnut-winged Cuckoo FR: Coucou à collier [ m ] ; Coucou à ailes marron [ m ] ; Coucou de Coromandel [ m ] |
นกกระแตหงอน | [nok krataē ngøn] (n, exp) EN: Northern Lapwing FR: Vanneau huppé [ m ] ; Pivite |
นกนางนวลแกลบหงอนเล็ก | [nok nāng-nūan klaēp ngøn lek] (n, exp) EN: Lesser Crested Tern FR: Sterne voyageuse [ f ] ; Sterne du Bengale [ f ] |
นกนางนวลแกลบหงอนใหญ่ | [nok nāng-nūan klaēp ngøn yai] (n, exp) EN: Great Crested Tern ; Crested Tern FR: Sterne huppée [ f ] |
นกปรอดหงอนหลังลาย | [nok parøt ngøn lang lāi] (n, exp) EN: Puff-backed Bulbul FR: Bulbul laineux [ m ] |
นกปรอดหงอนปากหนา | [nok parøt ngøn pāk nā] (n, exp) EN: Crested Finchbill FR: Bulbul à gros bec [ m ] |
นกปรอดหงอนตาขาว | [nok parøt ngøn tā khāo] (n, exp) EN: Buff-vented Bulbul FR: Bulbul de Charlotte [ m ] ; Bulbul à ventre cannelle [ m ] |
นกปรอดโอ่งไร้หงอน | [nok parøt ōng rai ngøn] (n, exp) EN: Yellow-bellied Bulbul FR: Bulbul à calotte grise [ m ] |
นกภูหงอนหัวน้ำตาลแดง | [nok phū ngøn hūa nāmtān daēng] (n, exp) EN: Striated Yuhina FR: Yuhina à tête marron [ f ] ; Yuhina à oreilles rouges [ f ] |
นกภูหงอนพม่า | [nok phū ngøn Phamā] (n, exp) EN: Burmese Yuhina FR: Yuhina de Birmanie [ f ] ;Yuhina des montagnes [ f ] ; Yuhina birmane [ f ] |
นกภูหงอนท้องขาว | [nok phū ngøn thøng khāo] (n, exp) EN: White-bellied Yuhina FR: Yuhina à ventre blanc [ f ] |
นกภูหงอนวงตาขาว | [nok phū ngøn wong tā khāo] (n, exp) EN: Whiskered Yuhina FR: Yuhina à cou roux [ f ] ; Yuhina à collier jaune [ f ] ; Yuhina à nuque jaune [ f ] |
นกแซงแซวหงอนขน | [nok saēng-saēo ngøn khon] (n, exp) EN: Spangled Drongo ; Hair-crested Drongo FR: Drongo à crinière [ m ] ; Drongo soyeux [ m ] |
สมการเชิงอนุพันธ์ | [samakān choēng anuphan] (n, exp) EN: differential equation FR: équation différentielle [ f ] |
ตั้งอนุสาวรีย์ | [tang anusāwarī] (v, exp) EN: erect a monument FR: ériger un monument |
ถุงยางอนามัย | [thungyāng anāmai] (n, exp) EN: condom |
ถุงยางอนามัย | [thung yāng anāmai] (n) EN: condom FR: préservatif [ m ] ; condom [ m ] ; capote (anglaise) (fam.) [ f ] |
แตรงอน | [traē ngǿn] (n) EN: old Thai horn |
เหยี่ยวหงอนสีน้ำตาลท้องขาว | [yīo ngøn sī nāmtān thøng khāo] (n, exp) EN: Wallace's Hawk Eagle FR: Aigle de Wallace [ m ] ; Spizaëte de Wallace [ m ] ; Petit Aigle de Wallace [ m ] |
เหยี่ยวนกเขาหงอน | [yīo nok khao ngøn] (n, exp) EN: Crested Goshawk FR: Autour huppé [ m ] ; Épervier casqué [ m ] |
cockscomb | (n) หงอนไก่ |
comb | (n) หงอนไก่ |
coxcomb | (n) หงอนไก่, Syn. cockscomb |
crest | (n) หงอน |
crown | (n) หงอนไก่ |
deductive | (adj) ซึ่งหักลบไป, See also: ซึ่งอนุมานได้ |
deductively | (adv) แบบอนุมาน, See also: เชิงอนุมาน |
deferent | (adj) ซึ่งอนุโลมได้, See also: เกี่ยวกับการคล้อยตาม, ซึ่งยอมให้ได้ |
electrophoresis | (n) การเคลื่อนไหวของอนุภาคคอลลอยด์ที่แขวนอยู่ในของเหลวเนื่องจากอิทธิพลของสนามไฟฟ้าในของเหลวนั้น, See also: วิธีการวิเคราะห์ประเภทของสารโดยการวัดอัตราการเคลื่อนที่ของแต่ละสารประกอบในคอลลอยด์ข |
permissive | (adj) ซึ่งอนุญาต, Syn. easygoing, restrictive, Ant. strict, intolerant |
prophylactic | (n) ถุงยางอนามัย, Syn. condom |
pug nose | (n) จมูกงอนสั้น |
racy | (adj) ซึ่งค่อนข้างอนาจาร, See also: ซึ่งค่อนข้างหยาบคาย, Syn. risque' |
right wing | (n) พรรคการเมืองอนุรักษ์นิยม |
rubber | (n) ถุงยางอนามัย, See also: ถุงยาง, Syn. condom |
safe sex | (n) การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เช่นใช้ถุงยางอนามัย |
safety | (n) ถุงยางอนามัย (คำสแลง) |
shall | (aux) จะ (คำกริยาช่วยแสดงถึงอนาคต), See also: จะต้อง, น่าจะ, ควรจะ, อยากจะ, Syn. be going to, must, be about to, will |
shalt | (aux) จะ (คำกริยาช่วยแสดงถึงอนาคต มักใช้กับ thou) (คำโบราณ), Syn. shall |
sheath | (n) ถุงยางอนามัย |
suggestive | (adj) เป็นนัยถึงเรื่องทะลึ่ง, See also: ซึ่งชวนให้นึกถึงเรื่องอนาจาร, Syn. indecent, provocative, vulgar |
suspension | (n) การลอยตัวของอนุภาคในของเหลว, Syn. dispersion of particles |
topknot | (n) หงอนบนหัวนก |
wet | (adj) ซึ่งอนุญาตหรือสนับสนุนให้ผลิตหรือ่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (คำไม่เป็นทางการ) |
yaffle | (n) นกหัวขวานชนิดหนึ่งที่มีขนสีเขียวและมีหงอนสีแดงอยู่บนหัว |
anadiplosis | (แอนนะไดโพล' ซิส) n. การซ้ำคำของอนุประโยคหรือประโยค |
bluejay | (บลู'เจย์) n. ชื่อพันธ์นกมีหงอน |
caruncle | n. ส่วนยื่นของเนื้อเยื่อ, หงอน, หงอนไก่, เนื้องอก, See also: caruncular adj. ดูcaruncle carunculous adj. ดูcaruncle |
cockscomb | (คอค'สโคม) n. ต้นหงอนไก่, หงอนไก่, คนขี้โอ่, คนหยิ่ง |
condom | (คอน'เดิม) n. ถุงอนามัย |
conservative | (คันเซอ'วะทิฟว) adj. ซึ่งอนุรักษ์ไว้, ซึ่งสงวนไว้, เกี่ยวกับการเก็บรักษา, ซึ่งมีขอบเขต, รอบคอบ, เกี่ยวกับพรรคConservative. n. นักอนุรักษ์นิยม, นักจารีตนิยม, ผู้รักษาสิ่งเก่า ๆ , สมาชิกพรรคคอนเซอวาตีฟ, ตัวกันบูด., See also: conservativeness n. คำที่มีความ |
coxcomb | (คอคซฺ'โคม) n. หงอนไก่, คนขี้โอ่หรือคนสำรวยที่โง่และหยิ่ง, ศรีษะ, See also: coxcombic adj. ดูcoxcomb coxcombical adj. ดูcoxcomb, Syn. popinjay |
crest | (เครสทฺ) { crested, cresting, crests } n. หงอน, หงอนไก่, ยอด, สิ่งประดับบนยอด, ยอดเขา, ยอดคลื่น, ยอดหมวก, ขนแผงคอม้าหรือสิงโต, โหนก, ส้น, ลายประดับ, ตราประจำตระกูล vi. เกิดเป็นยอด, บรรลุถึงจุดสุดยอด. -Phr. (on the crest of the wave ในสมัยรุ่งเรืองที่สุด) คำศัพท์ย่อย: |
cristate | (คริส'เทท) adj. มีหงอน, มีสิ่งประดับบนยอด, เป็นส่วนยอด |
deferent | (เดฟ'เฟอเรินทฺ) adj. เกี่ยวกับการยอมตาม, เกี่ยวกับการคล้อยตาม, ซึ่งอนุโลม, ซึ่งนำส่ง, เกี่ยวกับการส่งออก, เกี่ยวกับท่อน้ำกาม |
deferential | (เดฟฟะเริน'เชิล) adj. น่าเคารพนับถือ, ซึ่งอนุโลม |
electrophoresis | (อีเลคโทรฟะรี'ซีส) n. การเคลื่อนไหวของอนุภาคคอลลอยด์ที่แขวนอยู่ในของเหลวเนื่องจากอิทธิพลของสนามไฟฟ้าใน ของเหลวนั้น., See also: electrophoretic adj., Syn. cataphoresis. |
gamma | (แกม'มะ) พยัญชนะกรีกตัวที่2 (r) , ลำดับที่ 3 ของอนุกรม, หน่วยน้ำหนัก ที่เท่ากับหนึ่งไมโครกรัม, หน่วยกำลังสนามแม่เหล็กที่เท่ากับ10-5 gauss |
ground state | ภาวะที่มีพลังงานน้อยที่สุด ของอนุภาค |
hoar | (ฮอร์) n. ภาวะขนหงอน, ความขาว, ผมหงอกขาว. adj. หงอกขาว, Syn. hoary |
hood | (ฮูด) n. หมวกครอบ, ผ้าคลุมศีรษะ, หมวกปริญญาของเสื้อชุดปริญญาของมหาวิทยาลัย, ฝาครอบเครื่องยนต์, ฝาครอบปล่องไฟ, คอแผ่แม่เบี้ยของงูเห่า, หงอนขนบนหัวของนกหรือสัตว์บางชนิด, Syn. cowl, bonnet |
hoopoe | (ฮูพ'พู) n. นกที่มีหงอนขนตั้งตรงคล้ายพัดบนศีรษะ |
horned | (ฮอร์นด) adj. ซึ่งมีเขา, ซึ่งมีส่วนที่เป็นหงอน., See also: hornedness n. |
improvident | (อิมพรอฟ' วิเดินทฺ) adj. เลินเล่อ, ไม่ได้ตระเตรียมมาก่อน, ไม่ระวัง, ไม่คิดถึงอนาคต, ไม่ประหยัด., See also: improvidence n. improvidently adv., Syn. thoughtless, careless, Ant. careful |
inference engine | เครื่องอนุมานเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในระบบผู้เชี่ยวชาญ ระบบผู้เชี่ยวชาญนั้นจะประกอบไปด้วยสามส่วนคือ 1. ตัวประสานกับผู้ใช้ (user interface) 2. ฐานความรู้ (knowledge based) และ3. ส่วนอนุมาน ส่วนอนุมานนั้นจะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่คำนวณหาผลลัพธ์จากข้อเท็จจริงและข้อสนเทศที่ได้เก็บเอาไว้แล้ว โดยผู้ใช้เป็นผู้จัดหาข้อสนเทศนั้นให้อีกชั้นหนึ่ง |
knuckle | (นัค'เคิล) n.ข้อนิ้วมือ, มะเหงก, ข้อเท้าสัตว์, ส่วนที่ยื่นหัวกลมของข้อที่ v. งอนิ้วมือ, มะเหงก |
letter | (เลท'เทอะ) n. จดหมาย, อักษร, ตัวหนังสือ, ตัวพยัญชนะ, แบบ, ตัวพิมพ์, ตัวเรียงพิมพ์, ศัพท์, สาส์น, หนังสือ, หนังอนุญาต, See also: letters n. วรรณคดี, อาชีพนักประพันธ์, ความรู้ เครื่องหมาย |
moratory | (มอ'ระโทรี, -ทอรี) adj. ซึ่งอนุญาตให้เลื่อนการชำระหนี้, Syn. delaying |
pappus | n. ขนอ่อน ขนหงอน pl. pappi |
parallel port | ช่องขนานหมายถึง ช่องที่ใช้เสียบสายไฟต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นตัวว่าเครื่องพิมพ์ การถ่ายโอนข้อมูลผ่านทางช่องขนานนี้ ข้อมูลจะเดินทางไปตามวงจรขนานภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำให้ไปได้เร็วกว่าช่องอนุกรมที่เรียกว่า serial port ดู serial port เปรียบเทียบ |
peevish | (พี'วีช) adj. โกรธง่าย, เจ้าอารมณ์, ฉุน, งอนเก่ง., See also: peevishly adv. peevishness n., Syn. fretting, fretful |
permissive | (เพอมิส'ซิฟว) adj. ซึ่งอนุญาต, ซึ่งอนุมัติ, ซึ่งยินยอม, ตามใจ, ตามแต่เห็นสมควร, See also: permissiveness n., Syn. tolerant, lenient, lax |
pettish | (เพท'ทิช) adj. เจ้าอารมณ์, เจ้าโทสะ, มีอารมณ์ขุ่นเคือง, งอน |
petulance | (เพค'ชะเลินซฺ) n. ความเจ้าอารมณ์, การมีอารมณ์โกรธง่าย, ความงอน, การพูดหรือการกระทำที่เง้ากระงอด, Syn. anger |
petulant | (เพช'ชะเลินทฺ) adj. เจ้าอารมณ์, โกรธง่าย, ใช้อารมณ์, งอน, กระเง้ากระงอด, Syn. fretful, peevish |
pug nose | n. จมูกงอนที่สั้นและกว้าง, จมูกสิงโตหรือหมาจู., See also: pugnosed adj. |
relic | (เรล'ลิค) n. ของที่ระลึก, ของที่ตกทอด, สิ่งตกทอดที่เป็นอนุสรณ์, , See also: relics n. พระธาตุ ซากของคนตาย ของตกทอดของระลึกของอนุสรณ์ ซากสัตว์หรือพืช, Syn. relique |
rostrum | (รอส'ทรัม) n. จะงอนปาก, ปุ่มหรือหัวที่คล้ายของ, พลับพลา, ยกพื้น, เวทีพูด pl. rostra, rostrums, Syn. platform |
sans serif | แซนเซอริฟ <คำอ่าน>เป็นแบบอักษร (font) ภาษาอังกฤษแบบหนึ่งที่ไม่มีส่วนงอนโค้งของส่วนปลายสุดของตัวอักขระ ส่วนงอนโค้งนี้ในภาษาอังกฤษ เรียกกันว่า serif ฉะนั้น sans serif ก็หมายความว่าปราศจากส่วนนี้ (sans เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ปราศจาก) แบบอักษรชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นตัวตรง ๆ เหมาะสำหรับใช้พิมพ์ชื่อเรื่อง พาดหัวตัวโต ๆ ว่ากันว่าให้อ่านง่าย ในระบบวินโดว์ของพีซี กรอบสนทนาทั้งหมดใช้แบบอักษรนี้ ฉะนั้น ต้องระวังอย่าลบแบบอักษรนี้ออกจากหน่วยความจำโดยเด็ดขาด ดู serif เปรียบเทียบ |
serial port | ช่องอนุกรมหมายถึง ช่องที่อยู่ด้านหลังของเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ ที่มีไว้สำหรับเสียบสายไฟ ต่อไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เมาส์ การถ่ายโอนข้อมูลผ่านทางช่องนี้ จะช้ากว่าผ่านทางช่องขนาน (pararell port) มาก เพราะจะสามารถส่งถ่ายข้อมูลได้ครั้งละ 1 บิตเท่านั้น ดู pararell port เปรียบเทียบ |
shall | (แชล, ชึล) auxv. กริยาช่วยที่มักใช้กับบุรุษที่1เพื่อแสดงถึงอนาคต และใช้กับบุรุษที่ 2 เฉพาะในประโยคคำถาม, จะ, พึงจะ, จักต้อง, จะต้อง, น่าจะ, ควรจะ, อยากจะ |
venereal wart | หูดหงอนไก่ |
will | (วิล) auxiliary v. ใช้แสดงอนาคตกับบุรุษที่ 1 และ 3 (ช่อง 2เป็น would) , จะ, อาจจะ, ควรจะ, ย่อมจะ vt. vi., n. (ความ) ประสงค์, ปรารถนา, พึงจะ, ชอบ, พอใจ, อยากจะ, พินัยกรรม, ความกระตือรือร้น vt. ตัดสินใจ, ทำพินัยกรรมยกให้, ใช้อำนาจจิตบังคับ vi. ตั้งใจ, ตัดสินใจ |
allowable | (adj) ซึ่งอนุญาตได้, ซึ่งยอมได้, ซึ่งอภัยได้ |
cockscomb | (n) ดอกหงอนไก่, คนหยิ่ง, คนขี้โอ่ |
conditional | (adj) โดยมีข้อแม้, เล่นแง่, เกี่ยงงอน, ขึ้นอยู่กับ |
condom | (n) ถุงยางอนามัย |
conservative | (adj) ซึ่งสงวนไว้, ซึ่งอนุรักษ์เอาไว้, ซึ่งรักษาไว้ |
coxcomb | (n) คนขี้โอ่, คนสำรวย, หงอนไก่ |
crest | (n) ยอด, ปลาย, หงอน, โหนก, ตราประจำตระกูล |
deferential | (adj) ซึ่งยอมตาม, ซึ่งอนุโลม, ว่าง่าย, นอบน้อม, น่าเคารพ |
huffy | (adj) โกรธง่าย, อารมณ์ไม่ดี, งอน, ฉุน |
peevish | (adj) งอน, ฉุนเฉียว, โกรธขึ้ง, เจ้าอารมณ์ |
pettish | (adj) บูดบึ้ง, ขุ่นเคือง, โกรธ, ขี้งอน, เจ้าโทสะ |
petulant | (adj) หงุดหงิด, ใจน้อย, ขี้งอน, เจ้าอารมณ์ |
touchy | (adj) ใจน้อย, งอน, อารมณ์เสีย, ขี้โมโห |
unconditional | (adj) ไม่มีเงื่อนไข, ไม่เกี่ยงงอน, ไม่จำกัด |
particulate | (n) การยิงอนุภาค |
拗ねる | [すねる, suneru] (vi) งอน |
拗ねる | [すねる, suneru] (vi) งอน |
Goldkehlpitta [ ornith. ] | (n) นกชนิดหนึ่งขนาดกลาง หัวสีดำ มีหงอนสีน้ำเงิน ใต้ท้องสีดำสลับเหลือง ส่วนหลังสีน้ำตาลอ่อน ตัวเมียมีหงอนสีน้ำตาล สวยงามมาก เรียกชื่อตาม English ornithologist ชื่อ John Henry Gurney |
aller | (vi) |je vais, tu vas, il va, nous allons, vous avez, ils vont| (1) ไป เช่น aller à pied ไปด้วยเท้า, aller à l'étranger ไปต่างประเทศ (2) ใช้เป็นกิริยาช่วยในประโยคที่บ่งอนาคตอันใกล้รูป futur proche โดย aller + infinitif เช่น Je ne vais pas sortir ce soir. เย็นนี้ฉันจะไม่ออกจากบ้าน (3) ในประโยคทักทาย แปลว่า สบายดีหรือเป็นเช่นใด เช่น Comment vas-tu? = (Comment) ca va? เธอสบายดีไหม หรือ เธอเป็นอย่างไรบ้าง |
accélérer | (vt) เร่งความเร็ว, ไปได้เร็วมากขึ้น accélérateur(n) = เครื่องเร่งความเร็ว ex: accélérateur de particule (Chim, Phys) = เครื่องเร่งอนุภาค |