ก้นปล่อง | น. ชื่อยุงในสกุล Anopheles วงศ์ Culicidae ที่พบทั่วไป เช่น ชนิด A. dirus Peyton & Harrison, A. minimusTheobald, A. maculatus Theobald ยุงเหล่านี้เวลาเกาะหรือดูดเลือดคนหรือสัตว์ หัวจะปักลง ก้นชี้ขึ้น ผนังด้านล่างของส่วนท้องไม่มีเกล็ด ทั้งเพศผู้และเพศเมียมีรยางค์ปากยื่นยาวออกมา ๑ คู่ ทำให้เหมือนกับมีปากเป็นสามแฉก เพศเมียดูดเลือดและบางชนิดเป็นพาหะในการนำโรคมาสู่คนและสัตว์ เช่น ไข้มาลาเรีย เพศผู้กินนํ้าหรือนํ้าหวานจากเกสรดอกไม้. |
ก้านปล้อง | ดู สามเหลี่ยม ๒. |
กุ้งปล้อง | ดู แสม ๔. |
ขังปล้อง | ว. ลักษณะกระบอกที่ตัดให้มีข้อติดอยู่ทั้ง ๒ ข้าง โดยฝานข้าง ๆ ทั้ง ๒ ข้างให้เป็นขาแล้วผ่าตลอดด้านหนึ่ง เพื่อทำเป็นตะขาบเป็นต้น. |
เฉาะปล่อง | ก. ทำให้เป็นช่องไป. |
ตกล่องปล่องชิ้น | ก. ตัดสินใจที่จะร่วมมือหรือร่วมชีวิตด้วย. |
ทะลุกลางปล้อง | ก. พูดสอดขึ้นมาในเวลาที่เขากำลังพูดกันอยู่. |
นกอยู่ในปล่อง | น. ชื่อหนึ่งของดาวฤกษ์อาศเลษา มี ๕ ดวง, ดาวเรือน หรือ ดาวอสิเลสะ ก็เรียก. |
ปล่อง | (ปฺล่อง) น. ช่องหรือรูที่ทะลุขึ้นจากพื้นดิน เช่น ปล่องงู ปล่องหนู, สิ่งที่เป็นช่องกลวงคล้ายท่อตั้งตรงขึ้นไปสำหรับควันขึ้นหรือรับลม, ช่องที่ทะลุขึ้นจากถํ้า. |
ปล้อง ๑ | (ปฺล้อง) น. ช่วงระยะระหว่างข้อของไม้ไผ่หรืออ้อย ฯลฯ, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น คอปล้อง คือ คอที่มีริ้วรอยเห็นเป็นปล้อง ๆ. |
ปล้องไฉน | น. ส่วนหนึ่งของพระเจดีย์ต่อบัวกลุ่มขึ้นไป. |
ปล้อง ๒ | (ปฺล้อง) น. ชื่อหญ้าชนิด Hymenachne amplexicaule (Rudge) Nees ในวงศ์ Gramineae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ต้นเป็นข้อ ๆ มีไส้ในระหว่างข้อเป็นปุยขาว. |
ปล้อง ๒ | มะเดื่อปล้อง. (ดู มะเดื่อ). |
ปล้องขน | น. หญ้าปล้องขน. (ดู ขน ๓). |
ปล้องฉนวน | น. ชื่องูขนาดกลางหลายชนิด ในวงศ์ Colubridae ลำตัวเล็กเรียว ยาว ๔๐-๑๑๐ เซนติเมตร มักมีลายเป็นปล้องสีนํ้าตาลหรือดำสลับขาว หากินตามพื้นดินในเวลากลางคืน กินสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก เช่น จิ้งจก กิ้งก่า เป็นงูไม่มีพิษ มีหลายชนิด เช่น ปล้องฉนวนหลังเหลือง [ Lycodon laoensis (Günther) ] ปล้องฉนวนบ้าน ( L. subcinctus Boie) ปล้องฉนวนอินเดีย [ Dryocalamus davisonii (Blandford) ]. |
ปล้องทอง | น. ชื่องูขนาดกลางชนิด Boiga dendrophila (Boie) ในวงศ์ Colubridae ตัวโต ยาวประมาณ ๑.๗ เมตร สีดำตลอดตัวมีลายสีเหลืองพาดขวางเป็นปล้อง ๆ อาศัยตามป่าโกงกางทางภาคใต้ของประเทศไทย หากินตามพื้นดินและบนต้นไม้ กินนก หนู ตุ๊กแก มีพิษอ่อน. |
ปล้องอ้อย | น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดเล็กชนิด Acanthopthalmus kuhlii (Valenciennes) ในวงศ์ Cobitidae ลำตัวยาว แบนข้าง ท้องมน คอดหางกว้าง หัวเล็กปลายทู่ ปากเล็กอยู่ตํ่า ตาเล็ก มีกระดูกเป็นหนามอยู่ใต้ตา เกล็ดเล็กมาก ครีบหลังและครีบก้นอยู่ค่อนไปทางหาง พื้นลำตัวสีเหลืองอ่อนหรือส้ม มีแถบกว้างสีดำหรือนํ้าตาลเข้มพาดขวางเป็นปล้อง ๆ โดยตลอด พบอาศัยอยู่ตามพื้นท้องนํ้าที่เป็นกรวดเป็นทรายตามลำธารเขตภูเขา เคลื่อนไหวรวดเร็วคล้ายงูเลื้อย กินสาหร่ายและเศษซาก ขนาดยาวเพียงไม่เกิน ๘ เซนติเมตร. |
หญ้าถอดปล้อง | น. ชื่อพืชไร้ดอกชนิด Equisetum debile Roxb. ex Vaucher ในวงศ์ Equisetaceae ลำต้นเป็นปล้อง ๆ ใบเป็นเกล็ดเล็กเรียงรอบข้อ มักขึ้นตามริมน้ำหรือที่ชื้นแฉะ ใช้ทำยาได้. |
เหลืองปล้องหม้อ | ดู หางเหลือง. |
กรรเชียงปู | (กัน-) น. เรียกขาคู่สุดท้ายของปูในวงศ์ Portunidae เช่น ปูม้า ปูทะเล ซึ่งปล้องปลายมีลักษณะแบนคล้ายใบพาย, กระเชียงปู ก็เรียก. |
กระบูนเลือด | น. ชื่อว่านชนิดหนึ่ง หัวและต้นดั่งขมิ้นอ้อย ต้นและใบเขียว หัวขนาดหัวเผือก กลมเกลี้ยงเป็นมัน มีปล้องห่าง ๆ เนื้อขาว ฉุนร้อน ถ้าเคี้ยวจะทำให้ฟันโยก เชื่อกันว่าใช้ฝนกับนํ้าปูนใสหรือต้มเสียก่อนก็ได้ กินแก้ดานเลือด ดานลม และกระชับมดลูกให้แห้งสนิท. |
กระแพ้ง | น. ไม้ไผ่ที่ปล้องข้างในเป็นโรค มีสีดำ ๆ กลิ่นเหม็น, กำแพ้ง ก็ว่า. |
กระสุนพระอินทร์ | น. ชื่อกิ้งกือในสกุล Sphaerotherium วงศ์ Sphaerotheriidae ยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร หัวแบนเล็ก ลำตัวโค้งนูน มี ๑๓ ปล้อง ผิวลำตัวเรียบมัน ด้านหลังสีน้ำตาล ดำ ครีม หรือเขียว เมื่อถูกกระทบจะม้วนเข้าสอดกับปล้องสุดท้ายจนกลมคล้ายลูกกระสุนดินปั้น พบชุกชุมช่วงต้นฤดูฝนตามพื้นที่สูงที่มีใบไม้ทับถมและชุ่มชื้น, ปักษ์ใต้เรียก มวนชิด. |
กั้ง ๑ | น. ชื่อสัตว์นํ้าไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Crustacea อันดับ Stomatopoda มีหลายวงศ์ ส่วนใหญ่อยู่ในวงศ์ Squillidae หายใจด้วยเหงือก ลำตัวแบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ ๕ แต่ไม่ถึงปล้องที่ ๘ กรีมีลักษณะแบนราบ มี ๖ ขา, กั้งตั๊กแตน ก็เรียก. |
ก้ามปูหลุด | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Tradescantia zebrina Hort ex Bosse ในวงศ์ Commelinaceae ลำต้นเรียว และเป็นปล้อง ๆ เลื้อยไปตามดิน ใบสีเขียวหม่น ใบด้านบนมีแถบสีเทาคาดตามยาว ด้านล่างสีม่วงแดง ดอกสีชมพู. |
กำปั่น ๑ | น. เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง หัวเรือเรียวแหลม ท้ายเรือมนและราบในระดับเดียวกับหัวเรือ, ถ้ามีเสายาวยื่นออกไปสำหรับผูกสายใบ มีเสากระโดง ๓ เสา มีใบ เรียกว่า กำปั่นใบ, ถ้าเสากระโดงตรงกลางไม่มี มีปล่องไฟโดยใช้เดินด้วยกำลังเครื่องจักรไอนํ้า เรียกว่า กำปั่นไฟ. |
กำแพ้ง | น. ไม้ไผ่ที่ปล้องข้างในเป็นโรค มีสีดำ ๆ กลิ่นเหม็น, กระแพ้ง ก็ว่า. |
กิ้งกือ | น. ชื่อสัตว์ขาปล้อง ชั้น Diplopodae มีเปลือกตัวแข็ง ลำตัวกลมยาวแบ่งเป็นปล้อง ไม่แบ่งอกหรือท้องให้เห็น ปล้องตามลำตัวจับกันเป็นคู่ตามยาวยืดหดเข้าหากันได้ ทำให้สามารถขดตัวเป็นวงกลมได้เมื่อถูกรบกวน ปล้องแต่ละคู่จะมีขา ๒ คู่ ยกเว้นปล้องแรกไม่มีขา ปล้องที่ ๒ ถึง ๔ มีขาเพียงคู่เดียว จำนวนขาอาจมีได้ถึง ๒๔๐ คู่ ชนิดตัวโตที่พบบ่อย อยู่ในสกุล Thyropygusเช่น กิ้งกือกระบอก ชนิด T. allevatus (Karsch) วงศ์ Harpagophoridae ส่วนตัวขนาดย่อมอยู่ในสกุล Nepalmatoiulasวงศ์ Julidae. |
กุ้ง ๑ | น. ชื่อสัตว์นํ้าไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Crustacea อันดับ Decapoda มีหลายวงศ์ หายใจด้วยเหงือก ลำตัวยาว แบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ ๘ ส่วนใหญ่กรีมีลักษณะแบนข้าง ก้ามและขาอยู่ที่ส่วนหัวและอก มี ๑๐ ขา พบในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม มีหลายชนิด เช่น กุ้งก้ามกราม กุ้งก้ามเกลี้ยง กุ้งกุลาดำ กุ้งตะกาด กุ้งตะเข็บ กุ้งหัวแข็ง กุ้งแชบ๊วย. |
กุ้งเต้น ๒ | น. ชื่อสัตว์ขาปล้องหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Talitridae และ Hyalidae ลักษณะคล้ายกุ้งลำตัวขนาดเล็ก ยาว ๐.๕-๑๕.๐ มิลลิเมตร ตัวแบนทางข้าง หัวไม่มีปลอก อกปล้องแรกรวมกับหัว อกที่เหลือมี ๗ ปล้อง ท้องมี ๖ ปล้อง รยางค์ ๒ คู่แรกอยู่ติดกับหัว ใหญ่กว่าคู่อื่น บางคู่ปลายคล้ายก้ามหนีบ รยางค์ที่อกถัดมามี ๕ คู่ รยางค์ท้องมี ๖ คู่ ๓ คู่สุดท้ายสั้นแข็งใช้สำหรับดีด จึงดีดได้เก่ง อาศัยอยู่ตามฝั่งนํ้าหรือที่ชื้นแฉะ ที่พบบ่อยตามชายทะเลฝั่งตะวันออกของไทย เช่น ชนิด Orchestia floresianaWeber . |
กุลาลาย | น. ชื่อกุ้งทะเลชนิด Penaeus semisulcatus De Haan ในวงศ์ Penaeidae รูปร่างและขนาดคล้ายกุ้งกุลาดำ ลำตัวสีน้ำตาลอมแดง แต่มีลายน้อยกว่ากุ้งกุลาดำ หนวดมีลายสลับเป็นปล้อง. |
แกลบ ๒ | (แกฺลบ) น. ชื่อแมลงหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ อันดับ Blattodea ลักษณะคล้ายแมลงสาบ แต่มีขนาดเล็กกว่า คือ ยาว ๑.๐-๒.๕ เซนติเมตร ลำตัวแบน รูปไข่ ขอบหน้าด้านหลังของปล้องอกยื่นออกไปคลุมหัว หนวดยาว ขายาวปกคลุมด้วยหนาม บางชนิดอาศัยอยู่ตามขี้เลื่อย หรือกองแกลบที่ผุพัง เช่น ชนิด Pycnoscelus surinamensis (Linn.) ในวงศ์ Blaberidae บางชนิดอาศัยอยู่ในบ้านเรือน ตามกองกระดาษหรือเศษขยะมูลฝอย เช่น ชนิด Blattella germanica (Linn.), Supella supellectilium (Serville) ในวงศ์ Blattellidae. |
ขน ๓ | น. ชื่อหญ้าชนิด Brachiaria mutica (Forssk.) Stapf ในวงศ์ Gramineae ขึ้นในที่ชื้นและชายนํ้า ข้อ กาบใบ และใบมีขน ใช้เป็นอาหารสัตว์, ปล้องขน ก็เรียก. |
ข้อ | น. ส่วนที่อยู่ระหว่างปล้องของไม้ไผ่หรืออ้อยเป็นต้น, ส่วนตรงที่ของ ๒ สิ่งมาต่อกัน เช่น ข้อต่อท่อประปา |
เขี้ยวแก้ว | เขี้ยวของงูพิษ อยู่บริเวณส่วนหน้าของขากรรไกรบน มีขนาดใหญ่และยาว เช่น งูจงอาง งูเห่า งูเขียวหางไหม้, ถ้าอยู่บริเวณท้ายขากรรไกรบน เรียกว่า เขี้ยวแก้วใน หรือ เขี้ยวแก้วใต้ตา เช่น งูปล้องทอง งูเขียวหัวจิ้งจก |
ไข้จับสั่น | น. ไข้ที่เกิดเพราะถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อมาลาเรียกัด มีอาการหนาวและสั่น, ไข้มาลาเรีย ก็ว่า. |
จับสั่น | น. ชื่อไข้ที่เกิดเพราะถูกยุงก้นปล่องที่มีเชื้อมาลาเรียกัด มีอาการหนาวและสั่น, ไข้จับสั่น หรือ ไข้มาลาเรีย ก็เรียก. |
เจ้าฟ้า ๑ | น. ชื่อกั้งขนาดกลางชนิด Acanthosquilla sirindhorn Naiyanetr ในวงศ์ Nannosquillidae ลำตัวค่อนข้างแบนสีเหลืองนวล มีแถบสีดำพาดขวางทุกปล้องตลอดความยาวลำตัวและแพนหาง ด้านบนของหางนูนเป็น ๓ ลอน แต่ละลอนมีหนาม ๔-๖ อัน ขุดรูอยู่ตามหาดทรายปนโคลน. |
ชะมด ๑ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Viverridae หน้าแหลม รูปร่างเพรียว สีเทาหรือนํ้าตาล มีลายจุดสีดำตามยาวทั่วตัว หางและขนหางยาว มีลายเป็นปล้อง มีต่อมกลิ่นใกล้อวัยวะเพศ มักหากินในเวลากลางคืน ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น ชะมดเช็ด [ Viverricula malaccensis (Gmelin) ] เป็นชนิดที่ใช้นํ้ามันจากต่อมกลิ่นทำเครื่องหอม, ชะมดแผงหางปล้อง ( Viverra zibetha Linn.), ชะมดแผงสันหางดำ ( V. megaspila Blyth), อีสานเรียก เห็นอ้ม. |
ซาง ๑ | น. ชื่อไผ่หลายชนิดในสกุล Dendrocalamus วงศ์ Gramineae ชนิดปล้องเล็กยาว เนื้อบาง ใช้เป็นลำกล้องเป่าลูกดอกหรือลูกดินเหนียวปั้นกลมเป็นต้น เรียกว่า ไม้ซาง. |
ไซ ๒ | น. ชื่องูน้ำจืดขนาดกลางชนิด Enhydris bocourti Jan ในวงศ์ Colubridae หัวป้อมใหญ่ ปลายปากมน คอไม่คอด ลำตัวอ้วนกลมสีน้ำตาลเหลืองหรือน้ำตาลแดง บนหลังมีลายเป็นปล้องใหญ่ หางสั้น มีพิษอ่อนมาก ผู้ถูกกัดมักไม่มีปฏิกิริยาต่อพิษงูชนิดนี้. |
ด้วง ๑ | น. ชื่อแมลงในอันดับ Coleoptera มีปีก ๒ คู่ ลำตัวและปีกคู่หน้าแข็ง เมื่อพับปีกขอบปีกจะจดกันที่กึ่งกลางสันหลัง ปีกคู่หลังเป็นแผ่นใหญ่บางใสพับซ้อนอยู่ใต้ปีกคู่หน้า ปากเป็นชนิดกัดกิน อกปล้องแรกใหญ่และเห็นได้ชัดเจน เช่น ด้วงแรด ในวงศ์ Scarabaeidae ด้วงดิน ในวงศ์ Carabidae ด้วงงวง ในวงศ์ Curculionidae ด้วงบางชนิดมีชื่อเรียกต่างออกไป เช่น กว่าง ค่อม ตด ทับ แมลงพวกนี้มีมากชนิดกว่าแมลงในอันดับอื่น ๆ, แมลงปีกแข็ง ก็เรียก. |
ดับเครื่องชน | ก. ยอมสละชีวิตโดยนักบินดับเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่บรรทุกลูกระเบิดเต็มอัตรา และดิ่งลงสู่ปล่องเรือรบของข้าศึก, โดยปริยายหมายถึง สู้อย่างยอมตาย. |
ดีด ๒, ดีดขัน ๑ | น. ชื่อแมลงพวกด้วงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Elateridae ลำตัวยาว แบนเล็กน้อย และเรียวไปทางหาง สีดำ นํ้าตาล หรือเทา บางชนิดมีจุดเป็นลาย แผ่นแข็งด้านล่างของอกปล้องแรกมีแกนยาวเป็นเครื่องดีด ซึ่งยึดโดยร่องของแผ่นแข็งด้านล่างของอกปล้องที่ ๒ ทำให้สามารถดีดตัวกลับได้เมื่อถูกจับให้หงายท้อง มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น ดีดกะลา คอลั่น ชนิดที่พบบ่อย เช่น ชนิด Agrypnus aegualiaCandèze ลำตัวยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร สีดำ. |
ต่อ ๑ | น. ชื่อแมลงหลายชนิด หลายสกุล และหลายวงศ์ อันดับ Hymenoptera มีความยาว ๑.๕ เซนติเมตรขึ้นไป มีปีก ๒ คู่ ลักษณะเป็นแผ่นบางใส ปีกคู่หลังเล็กกว่าปีกคู่หน้า ปากเป็นชนิดกัดกิน ช่วงต่อระหว่างปล้องอกกับปล้องท้องคอดกิ่ว เพศเมียมีเหล็กในสำหรับต่อยปล่อยนํ้าพิษทำให้เจ็บปวดอาจถึงตายได้ และสามารถต่อยได้หลายครั้งต่างกับผึ้ง บางชนิดอยู่อย่างลำพัง แต่บางชนิดรวมกลุ่มทำรังอยู่เป็นฝูง ที่สำคัญได้แก่ วงศ์ Vespidae เช่น ต่อหัวเสือ [ Vespa affinis (Linn.) ] ต่อหลุม ( V. mandarinia Smith) นอกจากนี้ยังมีต่อในวงศ์อื่น ๆ เช่น ต่อกาเหว่า หมาร่า ต่อแมงมุม. |
ตะกาง | น. เครื่องดักจระเข้อย่างหนึ่ง ใช้เบ็ดตัวเดียวหรือหลายตัวผูกรวมกัน เบ็ดนี้เกี่ยวเหยื่อไว้ ใช้เชือกซึ่งปลายข้างหนึ่งผูกเบ็ดแล้วโยงไว้กับทุ่นซึ่งเป็นปล้องไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ปลายเชือกอีกข้างหนึ่งผูกกับหลักที่อยู่บนบก |
ตะขาบ ๑ | น. ชื่อสัตว์ขาปล้อง ชั้น Chilopoda มีเขี้ยว ๑ คู่ หัวและลำตัวยาวแบนหรือค่อนข้างแบน มีจำนวนปล้องตั้งแต่ ๑๕ ปล้องขึ้นไป แต่ละปล้องมีขา ๑ คู่ไปจนถึงปล้องสุดท้ายหรือเกือบสุดท้าย ขามี ๕-๗ ปล้อง อยู่ด้านข้างของลำตัว บางชนิดมีนํ้าพิษ ทำให้ผู้ถูกกัดเจ็บปวด เช่น ตะขาบไฟ ( Scolopendra morsitansLinn.) ในวงศ์ Scolopendridae ลำตัวยาว ๑๔-๒๐ เซนติเมตร สีน้ำตาลแดง, กระแอบ หรือ จะขาบ ก็เรียก. |
ตะขาบ ๓ | น. เครื่องตีให้เกิดเสียง, ไม้ไผ่ที่ผ่าขังปล้องแขวนไว้ตามยอดไม้สำหรับชักให้มีเสียงดังเพื่อไล่ค้างคาวเป็นต้น และที่พวกตลกลิเกละครเป็นต้นใช้ตีกันเล่น, จะขาบ ก็เรียก |
ตะเข้ขบฟัน | น. โฉลกสำหรับนับตาแต่ละปล้องของไม้ตะพดที่ทำด้วยไม้ไผ่. |
ตะเข็บ ๑ | น. ชื่อสัตว์พวกเดียวกับกิ้งกือ แต่เรียกแยกโดยถือเอาพวกที่มีขนาดเล็ก เช่น ยาวน้อยกว่า ๕-๖ เซนติเมตร ลำตัวเล็ก มีจำนวนปล้อง ๓๑-๑๗๓ ปล้อง แต่ละปล้องมีขา ๒ คู่ และขายาวกว่าปล้องลำตัวมาก ที่แพร่หลาย เช่น สกุล Orthomorpha ในวงศ์ Paradoxsomatidae ไม่มีตา, จะเข็บ หรือ ขี้เข็บ ก็เรียก. |
ชะมดแผงหางปล้อง | [chamot phaēng hāng plǿng] (n, exp) EN: Large Indian Civet |
การกวาดปล่องไฟ | [kān kwāt plǿng fai] (n, exp) FR: ramonage [ m ] |
คนกวาดปล่องไฟ | [khon kwāt plǿng fai] (n, exp) FR: ramoneur [ m ] |
กวาดปล่องไฟ | [kwāt plǿng fai] (n, exp) FR: ramonert |
งูปล้องฉนวนอินเดีย | [ngū plǿngchanūan Indīa] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake |
งูปล้องฉนวนลายเหลือง | [ngū plǿngchanūan lāi leūang] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake |
งูปล้องฉนวนหลังเหลือง | [ngū plǿngchanūan lang leūang] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake |
งูปล้องฉนวนลาว | [ngū plǿngchanūan lāo] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake |
งูปล้องฉนวนมลายู | [ngū plǿngchanūan Malāyū] (n, exp) EN: Malayan Bridle Snake |
งูปล้องฉนวนป่าต่ำ | [ngū plǿngchanūan pā tam] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake |
งูปล้องฉนวนตับจาก | [ngū plǿngchanūan tap jāk] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake |
งูปล้องฉนวนตับคา | [ngū plǿngchanūan tap khā] (n, exp) EN: Common Bridle Snake ; Blanford‘s Bridle Snake |
งูปล้องเงิน | [ngū plǿng ngoen] (n, exp) EN: Malayan krait ; Blue krait |
งูปล้องอ้อย | [ngū plǿng-øi] (n, exp) EN: Laotian Wolf Snake ; Indo-chinese Wolf Snake |
งูปล้องทอง | [ngū plǿng thøng] (n, exp) EN: Banded Krait |
งูปล้องหวายแดง | [ngū plǿng wāi daēng] (n, exp) EN: Small-spotted Coral Snake ; Speckled Coral Snake |
งูปล้องหวายหางวงแหวน | [ngū plǿng wāi hāng wongwaēn] (n, exp) EN: Ring-tailed Coral Snake |
งูปล้องหวายหัวดำ | [ngū plǿng wāi hūa dam] (n, exp) EN: Small-spotted Coral Snake ; Speckled Coral Snake |
งูปล้องหวายข้อดำ | [ngū plǿng wāi khø dam] (n, exp) EN: McClelland's Coral Snake |
งูปล้องหวายลายขวั้นดำ | [ngū plǿng wāi lāi khwan dam] (n, exp) EN: McClelland's Coral Snake |
งูปล้องหวายหลังเส้น | [ngū plǿng wāi lang sen] (n, exp) EN: Stripe-backed Coral Snake |
งูปล้องหวายเหลือง | [ngū plǿng wāi leūang] (n, exp) EN: Stripe-backed Coral Snake |
งูปล้องหวายมลายู | [ngū plǿng wāi Malāyū] (n, exp) EN: Gray Coral Snake ; Spotted Coral Snake |
งูปล้องหวายเทา | [ngū plǿng wāi thao] (n, exp) EN: Gray Coral Snake ; Spotted Coral Snake |
งูปล้องหวายเทาจุดดำ | [ngū plǿng wāi thao jut dam] (n, exp) EN: Gray Coral Snake ; Spotted Coral Snake |
ปากปล่องภูเขาไฟ | [pāk pløng phū khao fai] (n) EN: crater (of a volcano) FR: cratère (de volcan) |
ปล่อง | [plǿng] (n) EN: chimney ; funnel FR: cheminée [ f ] ; conduit [ m ] |
ปล่อง | [plǿng] (n) EN: vent ; hole ; opening FR: trou [ m ] |
ปล้อง | [plǿng] (n) EN: segment ; section ; internode FR: section [ f ] |
ปล่องบันได | [plǿng bandai] (n) EN: stairwell FR: cage d'escalier [ f ] |
ปล่องไฟ | [plǿng fai] (n, exp) EN: chimney FR: cheminée [ f ] |
ปล่องควัน | [plǿng khwan] (n, exp) EN: chimney |
ปล้องกระดูกสันหลัง | [plǿng kradūk sanlang] (n, exp) EN: vertebra FR: vertèbre [ f ] |
ปล้องไม้ไผ่ | [plǿng māi phai] (n, exp) EN: bamboo internode |
ปล่องภูเขาไฟ | [plǿng phūkhaofai] (n, exp) EN: crater FR: cheminée d'un volcan [ f ] |
ทะลุกลางปล้อง | [thaluklāngplǿng] (v, exp) EN: interrupt ; cut in ; be saucy ; break into the middle of a conversation impolitely ; chip in FR: interrompre la conversation |
ยุงก้นปล่อง | [yung konplǿng] (n, exp) EN: malaria mosquito ; malaria-carrying mosquito ; anopheles mosquito FR: anophèle [ m ] ; moustique vecteur du paludisme [ m ] |
air shaft | (แอร์' ชาฟท) ปล่องที่มีอากาศเข้า |
anopheles | (อะนอฟ' ฟะลิส) n. (pl. -les) ยุงกันปล่องซึ่งเป็นพาหะนำไข้มาลาเรีย |
bonnet | (บอน'นิท) { bonnetted, bonnetting, bonnets } n. หมวกสตรีรูปฝาชีมักมีริบบิ้นผูกใต้คาง, หมวกเด็ก, ฝาครอบเครื่องจักร, ฝาครอบเครื่องจักร, ฝาครอบปล่องไฟ, หน้าม้าในวงพนัน, ผู้ร่วมมือ vt. ใส่หมวก, ใส่ฝาครอบ, สมคบหลอกลวง, Syn. hat |
chimney | (ชิม'นี) n. ปล่องไฟ, ฝาครอบกระจกตะเกียงน้ำมัน, หลอดตะเกียง, เตาผิง, เตาฝาผนัง, คนติดบุหรี่ |
chimney cap | n. หมวกครอบปล่องไฟ |
cowl | (คาวล์) { cowled, cowling, cowls } n. เสื้อพระที่มีส่วนคลุมศีรษะ, ส่วนคลุมศีรษะของเสื้อคลุมดังกล่าว, ฝาครอบ, ที่ครอบ, ยอดปล่องไฟ, ส่วนหน้าของรถยนต์ที่อยู่ใต้กระจกหน้าเป็นส่วนที่อยู่ของคันเหยียบคันเร่งและคลัตซ์. vt. ส่วนที่คลุมศีรษะ, ครอบ คำที่มีความหมายเหมือนกั |
crater | (เคร'เทอะ) n. ปากปล่องภูเขาไฟ, แอ่งบนพื้นผิวดาวนพเคราะห์ที่เกิดจากลูกอุกกาบาตชนหลุมกระสุนปืนใหญ่ |
flue | (ฟลู) n. ปล่องควัน, ท่ออากาศ, ช่องอากาศ, ท่อไอน้ำร้อน |
fumarol | n. ปล่องภูเขาไฟ., See also: fulmarolic adj. |
funnel | (ฟัน'เนิล) n. กรวย, ปล่อง, สิ่งที่เป็นรูปกรวย, ท่อระบายลม, คนขี้เมา |
hood | (ฮูด) n. หมวกครอบ, ผ้าคลุมศีรษะ, หมวกปริญญาของเสื้อชุดปริญญาของมหาวิทยาลัย, ฝาครอบเครื่องยนต์, ฝาครอบปล่องไฟ, คอแผ่แม่เบี้ยของงูเห่า, หงอนขนบนหัวของนกหรือสัตว์บางชนิด, Syn. cowl, bonnet |
hurricane lamp | ตะเกียงปล่องแก้วกันลม |
lava | (ลา'วะ, แลฟ'วะ) n. หินละลายที่พ่นออกจากปล่องภูเขาไฟ |
moulin | (มูแลน') n. โพรง, ช่อง, รู, ปล่อง, โรงสี |
shaft | (ชาฟทฺ, แชฟทฺ) n. ด้าม, คัน, คาน, เพลา, คันศร, ด้ามหอก, ด้ามค้อน, ด้ามหลาว, คานรถ, ก้าน, กิ่ง, ที่ตั้งเทียน, ด้ามธง, ลำ, แกน, แสง, ปล่อง, เพลารถ, ก้านพืช, ก้านของขน, สิ่งที่เป็นลำ, ลำต้น, การกระทำที่ไม่ยุต'ธรรม, ช่องลิฟต์, น่อง, ขาอ่อน vt. ถ่อด้วยคานไม้, ดันด้วยไม้ยาว, กระทำอย่างไม่ |
smokestack | n. ปล่องไฟ, ปล่องไฟใหญ่, ปล่องควัน., Syn. stack |
stack | (สแทคฺ) n. กองที่ซ้อนกัน, ซุ้มปืน, สุม, จำนวนมากมาย, กลุ่มปล่องไฟบนหลังคา vt., vi. กอง, ลุม, ก่ายขึ้น, จัดไพ่เพื่อโกง เรียงทับซ้อนใช้ในเรื่องโครงสร้างการเก็บข้อมูล หมายถึง การเก็บข้อมูลโดยเรียงทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ การเรียงทับแบบนี้จะทำให้เกิดภาวะเข้าก่อน ออกหลัง เพราะกว่าจะออกมาได้ ก็ต้องรื้อกองที่ทับซ้อนอยู่ ออกไปให้หมดเสียก่อน, Syn. bundle, pile, gather |
stalk | (สทอลคฺ) n. ก้านพืช, ลำต้น, ก้าน, แกน, ปล่องไฟสูง, ขาแก้วเหล้า, ลำเนื้อสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง vi., vt., n. (การ) ไล่ตาม, ไล่ตามสัตว์, ย่องเข้าใกล้, เดินเขย่งเท้าเข้าใกล้, ย่างลามขุม, ย่าง., Syn. axis, stem, peduncle, pedicel |
tunnel | (ทัน'เนิล) n., vt., vi. (ทำ, ขุด) อุโมงค์, ปล่องระบายอากาศ, ท่อปล่องไฟ, โพรงที่สัตว์ขุดขึ้น, กรวย, See also: tunneler n. tunneller n., Syn. subway, tube, underground, dig |