พี่เลี้ยง | (n) nurse, See also: nursemaid, governess, nanny, Syn. คนเลี้ยงเด็ก, คนดูแลเด็ก, Example: แม่ต้องจ้างพี่เลี้ยงใหม่ เพราะคนเดิมขอกลับบ้านไปทำนาที่บ้านเกิดแล้ว, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้มีหน้าที่ระวังรักษาเลี้ยงดู |
พี่เลี้ยง | น. ผู้มีหน้าที่เลี้ยงดูเด็ก |
พี่เลี้ยง | ผู้ทำหน้าที่ดูแล ให้คำปรึกษา หรือช่วยเหลือเป็นต้น เช่น พี่เลี้ยงนักมวย พี่เลี้ยงผู้เข้าประกวด. |
ตื่นตาย | ก. ตื่นเต้นอย่างยิ่ง เช่น เมื่อนั้น องค์มะเดหวีโฉมฉาย กับพี่เลี้ยงไม่แจ้งแห่งอุบาย ก็ตื่นตายยินดีเป็นพ้นนัก (อิเหนา). |
ธันยา | (ทันยา) น. นางพี่เลี้ยง. |
ว่าวอน | ก. อ้อนวอน เช่น ผ่านม่านสุวรรณซึ่งกั้นกาง เห็นนางบรรทมอยู่ในที่ พี่เลี้ยงโลมไล้ไม่ไยดี มะเดหวีจึงเข้าไปว่าวอน (อิเหนา). |
Mentoring system | ระบบพี่เลี้ยง, Example: ระบบพี่เลี้ยงเป็นระบบที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานที่มีประสบการณ์ มากกว่ากับพนักงานที่มีประสบการณ์น้อย โดยพี่เลี้ยงหรือผู้ที่มีประสบการณ์สูงจะทำหน้าที่ในการคำปรึกษา แนะนำ ผู้สอนงาน และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้กับพนักงานที่อ่อนประสบการณ์ <p>ระบบพี่เลี้ยงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของการจัดการความรู้ในแง่ของการถ่าย ทอดความรู้ระหว่างผู้ที่ประสบการณ์มากกว่าและเพื่อนร่วมงานที่มีประสบการณ์ น้อยกว่า เพื่อให้แน่ใจได้ว่า ความรู้ยังคงอยู่ในองค์กรตลอดเวลา และเป็นการดักจับความรู้ก่อนที่จะสูญหายหรือออกไปเป็นผู้แข่งขัน เนื่องจาก วิธีการถ่ายทอดความรู้ที่ดีที่สุด ก็คือ การที่บุคคลได้พูดคุยกับอีกคนหนึ่ง ดังนั้น การพูดคุยในระบบพี่เลี้ยง แท้จริงแล้ว ก็คือ การติดต่อสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงานที่ประสบการณ์มากกว่าอีกคนหนึ่งนั่น เอง การถ่ายทอดความรู้จำนวนมากจึงเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับองค์กรในปัจจุบัน ที่จะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างพนักงาน การให้ความรู้ลื่นไหลไปยังทั่วทั้งองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่ความอยู่รอดขององค์กรและธุรกิจ <p>ระบบพี่เลี้ยงได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงและนิยมใช้กัน มากในหลายๆ ปีที่ผ่านมา เป็นช่องทางที่ดีสำหรับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กร เนื่องจากระบบพี่เลี้ยงเป็นรูปแบบหนึ่งของการแลกเปลี่ยนความรู้ ที่มีจุดประสงค์พื้นฐานในการสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการระหว่างพี่ เลี้ยง (Mentor) กับพนักงานที่ถูกสอนงาน <p> การทำหน้าที่พี่เลี้ยง อาจเริ่มตั้งแต่ การทำหน้าที่พี่เลี้ยงของพนักงานใหม่ เพื่อให้พนักงานใหม่สามารถปรับตัวเข้ากับองค์กร เพื่อนร่วมงานและสภาพแวดล้อมการทำงาน ไม่เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว หรือเข้ากันไม่ได้กับเพื่อนร่วมงาน เป็นการป้องกันการลาออกจากองค์กร ให้พนักงานใหม่มีความรู้ ความเข้าใจในวัฒนธรรมองค์กร ลักษณะการทำงาน และนำไปสู่การมีทัศนคติที่ดีต่อองค์กร <p> การทำหน้าที่ให้กับพนักงานที่ถูกสอนงานจะเป็นการสร้างกลุ่มคนที่มีความ สามารถ มีศักยภาพได้เร็วกว่าพนักงานปกติ เป็นการจูงใจพนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีและมีศักยภาพในการทำงานสูงให้คง อยู่กับหน่วยงาน เป็นการกระตุ้นให้พนักงานสร้างผลงานมากขึ้น พร้อมที่จะทำงานหนักและท้าทายมากขึ้น เป็นการสร้างบรรยากาศของการนำเสนอผลงานใหม่ๆ หรือความคิดนอกกรอบมากขึ้น ซึ่งการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับพนักงานที่ถูกสอนงานหรือลูกน้อง ขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงานของลูกน้อง ถ้าลูกน้องมีผลการปฏิบัติงานที่สูงกว่ามาตรฐาน หัวหน้าจะรับบทบาทการเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring) หากลูกน้องมีผลการปฏิบัติงานตรงตามมาตรฐาน หัวหน้างาน จะรับบทบาทเป็นผู้สอนงาน (Coaching) และหากลูกน้องมีผลการปฏิบัติงานต่ำกว่ามาตรฐาน หัวหน้างานจะรับบทบาทเป็นผู้ให้คำปรึกษา (Counsleing) <p> บทบาทและความรับผิดชอบของพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน <p><p>1. ลงทะเบียนเป็นผู้รับการสอนงาน <p><p>2. เรียนรู้และทักษะจากพี่เลี้ยง <p><p>3. เสาะหาและพัฒนาทักษะใหม่และความสามารถที่ต้องการมีในอนาคต <p><p>4. มีความรับผิดชอบในการพัฒนาตนเอง <p><p>5. มีการริเริ่มในการบริหารความสัมพันธ์ <p><p>6. รักษาความลับ <p><p>7. เป็นผู้รับและมีการตอบสนองด้วยความคิดใหม่ <p><p>8. ฟังและซักถาม <p><p>9. มีเครือข่ายภายในและภายนอกองค์กร <p><p>10. มีการสื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อสัตย์ <p><p>11.มีการแลกเปลี่ยน ความคิดและสิ่งอื่นๆตามความเหมาะสม <p><p>12.เข้าร่วมการพัฒนาอย่างเป็นทางการ <p><p>13.ทำงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามความสามารถของตนเอง <p><p>14.แนะนำความคิดใหม่ๆให้กับพี่เลี้ยง <p><p>15.เคารพความแตกต่าง <p><p>16.ทำงานตามวัตถุประสงค์ที่ถูกตั้งโดยพี่เลี้ยง <p> บทบาทและความรับผิดชอบของพี่เลี้ยง <p><p>1. สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและเคารพให้กับพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน <p><p>2. รักษาความลับ <p><p>3 ดูแลพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน ดูแลเสมือนเป็นทรัพยากรอันมีค่า <p><p>4. สอนกลยุทธ์ ค่านิยม วิสัยทัศน์ และวัฒนธรรมองค์กรเป็นอันดับแรก <p><p>5. ยอมรับความสัมพันธ์ในระยะยาว <p><p>6. ปฏิบัติในฐานะที่เป็นเสียงของกรรมการและช่วยพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับ การสอนงาน ในการชี้นำและเข้าถึงวัตถุประสงค์ที่จะสามารถไปถึงได้ <p><p>7. ลงทุนในเรื่องเวลาและพลังงานในการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและความสัมพันธ์กับพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน <p><p>8. แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทักษะ ความรู้ กลยุทธ์ และบทเรียนที่เหมาะสม <p><p>9. ส่งเสริมให้มีวิจารณญาณ มุมมอง และการตอบสนองที่สร้างสรรค์ต่อพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน <p><p>10. เผชิญหน้ากับพฤติกรรมและทัศนคติในทางลบ <p><p>11. ส่งเสริมให้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อวัฒนธรรมองค์กร <p><p>12. เป็นต้นแบบที่ดีและสอนด้วยตัวอย่าง <p><p>13. ให้คำแนะนำ ความช่วยเหลือ เมื่อถูกร้องขอจากพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน ตามความเหมาะสม <p><p>14. สนับสนุนและให้คำแนะนำอย่างฉลาดตามความเหมาะสม <p><p>15. เคารพความแตกต่างของแต่ละบุคคล <p><p>16. เสนอให้พนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน ได้รับการพัฒนาความเป็นมืออาชีพ <p><p>17. เข้าร่วมการพัฒนาบุคลากร <p> บทบาทและความรับผิดชอบขององค์กร <p> ในหลายๆองค์กร ระบบพี่เลี้ยงมักจะล้มเหลว เพราะองค์กรขาดการส่งเสริม เป็นหน้าที่ขององค์กรที่จะให้มีจัดกระบวนการของการรับสมัครพี่เลี้ยงที่มี ศักยภาพและเสนอโอกาสให้ทั้งพี่เลี้ยงและพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอน งาน นอกเหนือจากนี้ องค์กรควรจะฝึกหัดและสนับสนุนระบบพี่เลี้ยง มีการฝึกอบรม และมีการให้คำแนะนำต่อพี่เลี้ยงและพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน <p> ปัจจัยที่ทำให้ระบบพี่เลี้ยงล้มเหลว <p><p>1. ขาดความผูกพันและขาดการให้คำปรึกษา เมื่อพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน ไม่มีความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมกับการวางแผนและการปฏิบัติหรือการนำไป ประยุกต์ใช้ระบบพี่เลี้ยง ระบบพี่เลี้ยงจะล้มเหลว โดยเฉพาะเมื่อจะมีการจัดการเพียงฝ่ายเดียว <p><p>2. ขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การสื่อสารเป็นทักษะที่มีความสำคัญมากที่สุดในการทำให้ระบบพี่เลี้ยงดำเนิน ไปด้วยดี กลยุทธ์ในการทำให้ระบบพี่เลี้ยงเป็นไปด้วยดีจะต้องมีการติดต่อสื่อสารทั่ว ทั้งองค์กร การขาดการติดต่อสื่อสาร การขาดการแลกเปลี่ยนความรู้ การตอบสนองต่อกลยุทธ์ของระบบพี่เลี้ยง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ระบบพี่เลี้ยงล้มเหลว <p><p>3. ขาดการฝึกอบรมที่ไม่เพียงพอ การขาดการฝึกอบรม การฝึกอบรมที่ไม่เพียงพอ และการขาดการสนับสนุนอื่นๆ ที่จะทำให้ระบบพี่เลี้ยงดำเนินไปได้ <p><p>4. มีการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ระบบพี่เลี้ยงต้องการการเปลี่ยนแปลงในการบริหาร ผู้บริหารจำนวนมาก มักจะยังคงต่อต้านโปรแกรมของระบบพี่เลี้ยง ผู้บริหารเหล่านี้รู้สึกว่าถูกยกเลิกอำนาจถ้ามีการใช้ระบบพี่เลี้ยง <p><p>5. คัดเลือกพี่เลี้ยงที่ไม่เหมาะสม หลายบริษัทเลือกพี่เลี้ยงผิด โดยคิดว่าพนักงานที่มีประสบการณ์มากจะเป็นพี่เลี้ยงที่ดีที่สุด พี่เลี้ยงควรเป็นผู้ที่คนที่มีทักษะ มีวิสัยทัศน์ที่ดีในองค์กร ในทุกฝ่ายงาน และในทุกฟังก์ชั่นการทำงาน <p><p>6. แยกโครงการพี่เลี้ยงออกมาจากการพัฒนาบุคลากร ไม่เป็นการดีที่จะบูรณาการเข้ากับการพัฒนาบุคลากรของฝ่ายบุคคล โครงการของระบบพี่เลี้ยงควรถูกจับแยกออกมา เพื่อจะได้สร้างหรือริเริ่มโดยผู้บริหารผู้มองเห็นผลประโยชน์ของระบบพี่ เลี้ยง <p> ปัจจัยที่ทำให้ระบบพี่เลี้ยงประสบผลสำเร็จ <p><p>1. การยอมรับในองค์กร ต้องมีการทำความเข้าใจกันอย่างชัดเจนว่า โครงการพี่เลี้ยงเป็นสิ่งที่ต้องการในองค์กร ผลประโยชน์ของโครงการพี่เลี้ยงควรจะได้รับการเสนอเป็นจุดเด่น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการมีส่วนร่วมของผู้บริหารระดับอาวุโส เพราะไม่เพียงแต่เรื่องเงินทุนสนับสนุน แต่ยังสามารถที่จะแสดงให้องค์กรเห็นว่า จะทำให้เกิดผลประโยชน์ในการพัฒนาทางอาชีพของคนในองค์กรอีกด้วย <p><p>2. คุณลักษณะของพี่เลี้ยงที่เหมาะสม การตัดสินว่าใครจะมีความเหมาะสมในการทำหน้าที่พี่เลี้ยง ผู้บริหารควรจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการมีส่วนร่วมในกำหนดคุณลักษณะ ความเป็นพี่เลี้ยงและประเมินความสำเร็จของบทบาทและหน้าที่ของพี่เลี้ยง <p><p>3. การจับคู่ได้อย่างเหมาะสม การจับคู่ระหว่างพี่เลี้ยงและพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงานนี้มี ความสำคัญ บางครั้งพี่เลี้ยงที่สามารถให้คำปรึกษาได้ควรมีประสบการณ์ในเรื่องที่อยู่ใน ความสนใจของพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักถึงก็คือความขัดแย้งเป็นการส่วนตัว <p><p>4. การฝึกอบรมกลุ่มพี่เลี้ยง การฝึกอบรมพี่เลี้ยงสามารถเพิ่มโอกาสของความสำเร็จได้ถึง 40% แต่อย่างไรก็ตามทุกบทบาทควรได้รับการฝึกเพื่อให้เข้าใจถึงความเคลื่อนไหว ของระบบพี่เลี้ยงและบทบาท ความรับผิดชอบของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง <p><p> 5. การสื่อสาร การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญของระบบพี่เลี้ยง การขาดการสื่อสาร การขาดการแลกเปลี่ยนความรู้ และการขาดการตอบสนองเกี่ยวกับกลยุทธ์ของความเป็นพี่เลี้ยงเป็นสาเหตุสำคัญ ของความล้มเหลวในระบบพี่เลี้ยง <p><p>6. การยอมรับในความหลากหลาย เป็นลักษณะสำคัญของความสำเร็จของระบบพี่เลี้ยง หมายความว่า พี่เลี้ยงต้องทราบว่าวิธีใด/เรื่องใดที่จะส่งผลกระทบถึงภูมิหลังของความ สัมพันธ์ระหว่างพี่เลี้ยงและพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน นอกจากนี้ พี่เลี้ยงต้องเข้าใจในภูมิหลังของพนักงานใหม่/พนักงานที่ได้รับการสอนงาน <p><p>7. การติดตามและการประเมินผล เช่นเดียวกับโครงการอื่นๆ ที่ต้องมีการติดตามและประเมินผลเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ <p>บรรณานุกรม <p>Mavuso, Michael Abby. 2007. Mentoring as a Knowledge Management Tool in Organisations. Thesis (M.Phil.) -- Stellenbosch University, 2007. <p>อ่านเพิ่มเติม <p>http://www.mentoringgroup.com/html/archive.html <p>Zachary, Lois J. 2000. The Mentor's Guide: Facilitating Effecting Learning Relationships. Wiley : Jossey-Bass. [การจัดการความรู้] |
Babysitters | พี่เลี้ยงเด็ก [TU Subject Heading] |
Babysitting | การเป็นพี่เลี้ยงเด็ก [TU Subject Heading] |
Day care aides | ครูพี่เลี้ยง [TU Subject Heading] |
Cells, Nurse | เซลล์พี่เลี้ยง [การแพทย์] |
Chaperons | พี่เลี้ยง [การแพทย์] |
พี่เลี้ยง | [phīlīeng] (n) EN: nurse ; nursemaid ; governess ; babysitter ; nanny ; chaperone |
พี่เลี้ยง | [phīlīeng] (n) EN: trainer ; mentor ; coach |
พี่เลี้ยง | [phīlīeng] (n) EN: escort |
พี่เลี้ยงเด็ก | [phīlīeng dek] (n, exp) EN: babysitter FR: baby-sitter [ f ] |
ระบบพี่เลี้ยง | [rabop phīlīeng] (n, exp) EN: buddy system |
baby-minder | (n) พี่เลี้ยงเด็ก, Syn. babysitter |
babysitter | (n) พี่เลี้ยงเด็ก, Syn. nanny, baby minder |
baby-sitter | (n) พี่เลี้ยงเด็ก, Syn. nanny, baby minder |
babysitting | (n) การเป็นพี่เลี้ยงเด็ก |
dry nurse | (n) พี่เลี้ยงเด็ก, See also: แม่นม |
governess | (n) พี่เลี้ยงเด็ก, See also: แม่นม |
nan | (n) พี่เลี้ยงเด็ก, Syn. nanny |
nanny | (n) พี่เลี้ยงเด็ก, Syn. nurse, nurserymaid |
nannying | (n) การเป็นพี่เลี้ยงเด็ก, See also: งานที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก |
second | (n) พี่เลี้ยง (มวย), See also: คนสนับสนุน, ผู้ช่วย, Syn. supporter, assistant, helper |
second | (vt) สนับสนุน, See also: ช่วยเหลือ, เป็นผู้ช่วย, เป็นพี่เลี้ยง, Syn. assist, back up, support |
sit in | (phrv) เลี้ยงดูเด็ก (ขณะที่พ่อแม่ไม่อยู่), See also: เป็นพี่เลี้ยงเด็ก |
big brother | n. พี่ชาย, พี่ใหญ่, พี่เลี้ยง, ระบบเผด็จการ |
escort | (เอส'คอร์ทฺ) n. ผู้ที่ไปเป็นเพื่อน, ผู้คุ้มกัน, พี่เลี้ยง, หน่วยคุ้มกัน, เรือคุ้มกันขบวนเรือ, เครื่องบินคุ้มกันขบวนเรือ. vt. (เอสคอร์ท') ไปเป็นเพื่อน, คุ้มกัน, พิทักษ์, เป็นพี่เลี้ยง |
monitor | (มอน'นิเทอะ) n. นักเรียนผู้ทำหน้าที่ช่วยครูดูแลความประพฤติของนักเรียนคนอื่น, เครื่องเตือน, เครื่องบอกเหตุ, เหี้ยหรือจะกวด, เครื่องรับการส่งวิทยุ, พี่เลี้ยง. vt. ใช้เครื่องรับฟังสัญญาณ เพื่อตรวจสอบความเหมาะสม, สังเกต, ควบคุม. vi. เป็นเครื่องเตือน, เป็นเครื่องตรวจ. ตัวจอภาพหมายถึง ตัวจอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องปลายทาง (terminal) จอภาพนั้นมีหลายชนิด เช่น สีเดียว, หลายสี มีหลายขนาด จอภาพที่ดีจะต้องมีความถี่สูง ทำให้ได้ภาพที่นิ่งสนิท (non interlaced) ทำให้ไม่มีอันตรายต่อสายตา มีความคมชัดสูง (high resolution) ขนาดมาตรฐานจะมีความละเอียด 1024 x 768 จุด แบบที่ผลิตออกมาขายใหม่ ๆ จะมีข้อดีอีกข้อหนึ่ง คือ ประหยัดไฟ โดยปิดตัวเองได้ในขณะที่ไม่ใช้งาน เรียกว่า green monitor |
nanny | (แนน'นี) n. พี่เลี้ยงของเด็ก |
escort | (n) ผู้ตามไปส่ง, ผู้ไปเป็นเพื่อน, พี่เลี้ยง, เพื่อนเที่ยว |
escort | (vt) ตามไปส่ง, ไปเป็นเพื่อน, คุ้มกัน, พิทักษ์, ปกป้อง, เป็นพี่เลี้ยง |
monitor | (n) หัวหน้านักเรียน, พี่เลี้ยง, ผู้ตักเตือน, เรือหุ้มเกราะ, สัตว์เลื้อคล |
nurse | (n) นางพยาบาล, พี่เลี้ยง, แม่นม |
nursling | (n) เด็กที่อยู่ในความดูแลของพี่เลี้ยง |
preceptor | (n) ครูใหญ่, พี่เลี้ยง, ผู้ตั้งกฎ, ผู้ชักนำ |
second | (n) วินาที, ผู้ช่วยเหลือ, พี่เลี้ยง, ผู้สนับสนุน |
second | (vt) ค้ำจุน, สนับสนุน, ช่วยเหลือ, เป็นพี่เลี้ยง |
stepbrother | (n) พี่เลี้ยง(ชาย) |
stepsister | (n) พี่เลี้ยง(หญิง) |
tutor | (n) ครูพิเศษ, ผู้ปกครอง, ผู้ดูแล, พี่เลี้ยง |
Carer | (n) ผู้ดูแล, พนักงานดูแล, พี่เลี้ยง บุคคลที่คอยดูแลให้ความช่วยเหลือผู้อื่นโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้ที่มีความผิดปรกติทางด้านร่างกาย จิตใจ หรือสติปัญญา |
nurserymaid | (n) nanny , พี่เลี้ยงเด็ก |
Erzieher(-in) | (n) พี่เลี้ยง |