130 ผลลัพธ์ สำหรับ *ลงคะแนน*
หรือค้นหา: ลงคะแนน, -ลงคะแนน-

NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
ลงคะแนน(v) vote, See also: elect, ballot, Example: ในการเลือกตั้ง ส.ข. ครั้งนี้ คนในชุมชนมาลงคะแนนแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น
บัตรลงคะแนน(n) ballot box
ลงคะแนนเสียง(v) vote for, See also: elect, cast one's vote, ballot, opt, Syn. ลงคะแนน, โหวต, Example: ผู้ที่รับเงินเพื่อลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร เป็นพวกเห็นแก่เงิน, Thai Definition: แสดงความเห็นโดยนับความเห็นของผู้ออกเสียงคนหนึ่งเป็นหนึ่งคะแนน
ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง(n) elector, See also: qualified voter

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ลงคะแนนก. แสดงความเห็นโดยลงเป็นคะแนน.
คูหาโดยอนุโลมใช้เรียกช่องที่กั้นไว้เป็นสัดส่วนสำหรับใช้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น คูหาลงคะแนนในที่เลือกตั้งสำหรับใช้ในการกาบัตรออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง.
ประชามติมติของประชาชนที่รัฐให้สิทธิออกเสียงลงคะแนนรับรองร่างกฎหมายสำคัญที่ได้ผ่านสภานิติบัญญัติแล้ว หรือให้ตัดสินในปัญหาสำคัญในการบริหารประเทศ. (อ. referendum)
ฝักถั่วน. การแสดงความอ่อนน้อม อ้อนวอน หรือขอร้องโดยวิธียกมือไหว้ เช่น มืออ่อนเป็นฝักถั่ว, การพลอยยกมือแสดงความเห็นชอบตามเขาไป มักใช้พูดตำหนินักการเมืองในเวลาลงคะแนนเสียง.
ไพ่ไฟน. บัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ลงด้วยวิธีการทุจริต
มติพิเศษน. มติของที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัด ที่ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากไม่ต่ำกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน.
เลือกตั้งก. เลือกสรรบุคคลให้เป็นผู้แทนหรือให้ดำรงตำแหน่งด้วยการออกเสียงลงคะแนน เช่น เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลือกตั้งกรรมการ.
สังเกตการณ์ก. เฝ้าดูหรือศึกษาเหตุการณ์หรือเรื่องราวพอรู้เรื่อง. น. เรียกผู้เข้าร่วมประชุมที่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ว่า ผู้สังเกตการณ์.
โหวต(โหฺวด) ก. ออกเสียงลงคะแนน.
ออกเสียงลงคะแนนเสียง
ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง

ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
poll๑. การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง๒. การหยั่งเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
poll๑. การหยั่งเสียง (ก. ปกครอง)๒. การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง (ก. ปกครอง)๓. การลงคะแนนลับ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
pooling placeที่ลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
protest voteการออกเสียงลงคะแนนคัดค้าน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
plural votingการออกเสียงลงคะแนนได้หลายเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
paradox of votingผลการออกเสียงลงคะแนนที่แย้งกันในตัว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
long ballotการลงคะแนนเลือกตั้งหลายตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
limited voteการลงคะแนนเสียงแบบจำกัด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
record vote๑. การออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีเรียกชื่อ๒. การได้คะแนนเสียงมากเป็นประวัติการณ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
repeaterผู้เวียนลงคะแนนเลือกตั้ง (หลายครั้ง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
show of handsการลงคะแนนโดยวิธีชูมือ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
secret ballotการลงคะแนนเลือกตั้งลับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
short ballotการลงคะแนนเลือกตั้งน้อยตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
absentee votingการลงคะแนนเสียงโดยไม่ต้องไปที่หน่วยเลือกตั้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
absentee votingการลงคะแนนเลือกตั้งของผู้ไม่สามารถไป ณ ที่เลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
advisory ballotการลงคะแนนหยั่งความนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
alternative voteการออกเสียงลงคะแนนหลายรอบ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballot, advisoryการลงคะแนนหยั่งความนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballot, longการลงคะแนนเลือกตั้งหลายตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballot, secretการลงคะแนนเลือกตั้งลับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
behaviour, votingพฤติกรรมการลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballot๑. บัตรเลือกตั้ง๒. การลงคะแนนโดยใช้บัตร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballotการออกเสียงลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ballot, shortการลงคะแนนเลือกตั้งน้อยตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballotage (Fr.)การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งหลายรอบ (ก. ฝรั่งเศส) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
manageable voterผู้ออกเสียงลงคะแนนที่จัดมา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cross-votingการลงคะแนนให้ฝ่ายอื่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cumulative voting๑. การออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม๒. การทุ่มคะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cumulative votingการออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม, การทุ่มคะแนนเสียง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
challenge, votingการคัดค้านการออกเสียงลงคะแนน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
compulsory votingการออกเสียงลงคะแนนโดยบังคับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
complimentary voteการลงคะแนนเพื่อให้เกียรติ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
division๑. กอง (หน่วยงาน)๒. กองพล๓. การแบ่งพวก (ลงคะแนนเสียง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
division๑. กอง, กองพล (ทหาร) (ก. ปกครอง)๒. การแบ่งพวก (ลงคะแนนเสียง) (ก. รัฐธรรมนูญ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
free voteการลงคะแนนโดยเสรี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
independent voterผู้ออกเสียงลงคะแนนอิสระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
vote๑. การออกเสียงลงคะแนน๒. การลงมติ, การออกเสียงลงมติ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
vote, complimentaryการลงคะแนนเพื่อให้เกียรติ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voting, absenteeการลงคะแนนเลือกตั้งของผู้ไม่สามารถไป ณ ที่เลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voting, compulsoryการออกเสียงลงคะแนนโดยบังคับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voting, cumulative๑. การออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม๒. การทุ่มคะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voting, cumulativeการออกเสียงลงคะแนนแบบสะสม, การทุ่มคะแนนเสียง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
voting, pluralการออกเสียงลงคะแนนได้หลายเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
vote๑. การออกเสียง, การออกเสียงลงคะแนน, การลงคะแนนเสียง๒. การลงมติ, มติ๓. คะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voter, independentผู้ออกเสียงลงคะแนนอิสระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voter, manageableผู้ออกเสียงลงคะแนนที่จัดมา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voting behaviourพฤติกรรมการลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
voting by ballotการลงคะแนนโดยใช้บัตร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
voting challengeการคัดค้านการออกเสียงลงคะแนน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
vote, protestการออกเสียงลงคะแนนคัดค้าน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Votingการลงคะแนนเสียง [TU Subject Heading]
Amendments to the Charter of the United Nationsการแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่ [การทูต]
Commission on Human Rightsคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต]
negative voteลงคะแนนเสียงคัดค้าน [การทูต]
Voting Procedure in the United Nationsวิธีการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในเรื่องนี้ สมาชิกแต่ละประเทศมีคะแนนเสียง 1 คะแนน ข้อมติของสมัชชาในปัญหาสำคัญ (Important Questions) จะกระทำโดยถือคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียง ที่เรียกว่าปัญหาสำคัญนั้นได้แก่ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การเลือกตั้งสมาชิกไม่ประจำของคณะมนตรีความมั่นคง การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีเศรษฐกิจและการสังคม การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีภาวะทรัสตี การรับสมาชิกใหม่ของสหประชาชาติ การงดใช้สิทธิและเอกสิทธิแห่งสมาชิกภาพ การขับไล่สมาชิก ปัญหาการดำเนินงานของระบบภาวะทรัสตี และปัญหางบประมาณ คำวินิจฉัยปัญหาอื่น ๆ รวมทั้งการกำหนดประเภทแห่งปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เพิ่มเติมนั้น จัดกระทำโดยอาศัยคะแนนเสียงข้างมากของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียงอนึ่ง ในการเลือกตั้งผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจักต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute majority) ในที่ประชุมของสมัชชาและในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงด้วย นอกจากนี้สมาชิกสหประชาชาติที่ค้างชำระค่าบำรุงแก่องค์การ ย่อมไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในสมัชชา ถ้าหากจำนวนเงินที่ค้างชำระเท่าหรือมากกว่าจำนวนเงินค่าบำรุงที่ถึงกำหนด ชำระสำหรับ 2 ปีเต็มที่ล่วงมา อย่างไรก็ตาม สมัชชาอาจอนุญาตให้สมาชิกเช่นว่านั้นลงคะแนนเสียงก็ได้ ถ้าทำให้เป็นที่พอใจได้ว่า การไม่ชำระนั้น เนื่องมาจากภาวะอันอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของสมาชิกนั้น [การทูต]

Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
บัตรลงคะแนน[bat long khanaēn] (n, exp) EN: ballot ; voting slip ; ballot paper  FR: bulletin de vote [ m ]
จำนวนผู้ออกมาลงคะแนน[jamnūan phū øk mā long khanaēn] (xp) EN: turnout  FR: taux de participation (électorale) [ m ]
การลงคะแนนเสียง[kān long khanaēnsīeng] (n, exp) EN: voting  FR: vote
การสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนที่เพิ่งลงคะแนนเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ[kān samrūat khwām khithen jāk prachāchon thī phoeng longkhanaēn set sot-sot røn-røn] (xp) EN: exit poll  FR: sondage effectué à la sortie des bureaux de vote [ m ]
ลงคะแนน[longkhanaēn] (v) EN: vote ; ballot ; elect ; cast a ballot  FR: voter ; élire ; exprimer son suffrage
ลงคะแนนเลือกตั้ง[longkhanaēn leūaktang] (v) EN: vote ; ballot  FR: voter
ลงคะแนนเสียง[long khanaēnsīeng] (v, exp) EN: vote for ; elect ; cast one's vote ; ballot ; opt  FR: voter pour ; élire ; choisir
ไม่ลงคะแนน[mai long khanaēn] (v, exp) EN: cast a blank vote  FR: voter blanc ; ne pas exprimer de vote
ออกเสียงลงคะแนน[øksīeng longkhanaēn] (v, exp) FR: voter
ออกไปลงคะแนน[pai longkhanaēn] (v, exp) EN: go to the polls  FR: aller voter ; se rendre aux urnes
ผู้ลงคะแนน[phū long khanaēn] (n) EN: voter  FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ] ; votant [ m ] ; votante [ f ]
ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน[phū mī sit longkhanaēn] (n, exp) EN: constituent  FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ]
ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง[phū mī sit long khanaēnsīeng leūaktang] (xp) EN: elector ; qualified voter ; constituent  FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ]

Longdo Approved EN-TH
ballot(n) บัตรลงคะแนน เช่น Use these ballots when students are voting in a mock election or classroom election.

NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
abstain(vi) ไม่ลงคะแนนเสียง, See also: นอนหลับทับสิทธิ์
ballot(n) วิธีลงคะแนนเสียงแบบลับ, Syn. election
ballot(vi) ลงคะแนน, See also: ออกเสียงลงคะแนน, จับสลาก, Syn. vote
ballot box(n) หีบหรือกล่องใส่บัตรลงคะแนน, Syn. polling place, polling booth
ballot paper(n) ใบลงคะแนน
ballot for(phrv) ออกเสียงให้, See also: ลงคะแนนเสียงให้
casting vote(n) การลงคะแนนตัดสินโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการประชุมเนื่องจากแต่ละฝ่ายมีคะแนนเท่ากัน
caucus(n) การประชุมของสมาชิกหรือกลุ่มผู้นำของพรรคการเมืองเพื่อลงคะแนนเลือกหรือวางแผนทางการเมือง
go to the polls(idm) ลงคะแนนเสียง
show of hands(idm) ลงคะแนน
plebiscite(n) การลงคะแนนเสียงชี้ขาดโดยประชาชนทั่วไป, Syn. poll, referendum, vote
poll(vt) ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, See also: ออกเสียงเลือกตั้ง, ออกเสียงลงคะแนน, Syn. ballot
poll(vi) ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, See also: ออกเสียงเลือกตั้ง, ออกเสียงลงคะแนน, Syn. ballot
put in(phrv) เลือกตั้ง, See also: ลงคะแนนเลือก, Syn. get in
scorecard(n) บัตรลงคะแนน, See also: บัตรบันทึกคะแนน, บัตรบันทึกผู้เข้าร่วมแข่งขัน
suffrage(n) การออกเสียงเลือกตั้ง, See also: การลงคะแนนเสียง, Syn. election, vote
suffragette(n) ผู้หญิงที่ปลุกระดมให้คนอื่นไปลงคะแนนเสียง
vote through(phrv) ออกเสียงให้ผ่าน, See also: ลงคะแนนเสียงผ่าน, ยอมให้ผ่าน
vote with(phrv) ออกเสียงเหมือน, See also: ลงคะแนนให้ บางคน / บางกลุ่ม เหมือนกับ
vote(n) การลงคะแนนเสียง, See also: การออกเสียง, Syn. polling, referendum
vote(vt) ลงคะแนน, See also: ออกเสียง, ลงคะแนนเสียง
vote(vi) ลงคะแนน, See also: ออกเสียง, ลงคะแนนเสียง
voter(n) ผู้ออกเสียง, See also: ผู้ลงคะแนนเสียง, Syn. electorate, elector
write-in(n) การลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ, See also: ทางการเมือง

Hope Dictionary
absentee voteการลงคะแนนของผู้ไม่อยู่ (ทางไปรษณีย์) -absentee voter., n.
abstain(แอบสเทน') vt. ละเว้น, ไม่ลงคะแนนเสียง, ไม่ฟุ่มเฟือยในการกินและดื่ม, อดเหล้า, สละสิทธิ์ -abstainer n., Syn. forbear, desist
ballot(แบล'เลิท) n. บัตรเลือกตั้ง, จำนวนผู้ลงคะแนน, รายชื่อคนลงคะแนน vi. ลงคะแนนด้วยบัตรลับ, จับฉลาก, See also: balloter n.
cloture(โคล'เชอะ) { clotured, cloturing, clotures } n. วิธีการปิดการอภิปรายและให้มีการลงคะแนนเสียงทันที vt., vi. ปิดการอภิปราย
plebiscite(เพลบ'บิไซทฺ) n. การลงคะแนนเสียงโดยประชาชนทั่วไป, See also: plebiscitary adj.
poll(โพล) n. การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, รายชื่อผู้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง, บุคคลที่ปรากฎในรายชื่อ, การสำรวจความคิดเห็นของคนจำนวนมาก -vi., vi. ได้รับคะแนนเลือกตั้ง, ออกเสียงลงคะแนน, สำรวจความคิดเห็น,
votable(โว'ทะเบิล) adj. ลงคะแนนได้, มีสิทธิเลือกตั้ง, นำไปลงมติได้.
vote(โวทฺ) n. การออกเสียง, การเลือกตั้ง, คะแนนเสียง, บัตรคะแนนเสียง, สิทธิการออกเสียง, จำนวนคะแนนเสียง, มติ vt., vt. ออกเสียง, ลงคะแนนเสียง, เลือกตั้ง, ลงมติ, เสนอ
voter(โว'เทอะ) n. ผู้ลงคะแนนเสียง, ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
write-in(ไรทฺ'อิน) n., adj. การลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ใช่คนเดิมในรายชื่อ

Nontri Dictionary
ballot(n) บัตรลงคะแนน, บัตรเลือกตั้ง, การลงคะแนนเสียง
ballot(vt) ลงคะแนน
constituency(n) ผู้ลงคะแนนเสียง, ผู้เลือกตั้ง, เขตเลือกตั้ง
franchise(n) สิทธิลงคะแนนเสียง, สัมปทาน, สิทธิพิเศษ
plebiscite(n) การลงคะแนนเสียงทั้งประเทศ
poll(vi) ลงคะแนนเสียง, ออกเสียงเลือกตั้ง
polls(n) คอกลงคะแนน
tally(vt) นับ, ลงคะแนน, ตรงกัน
vote(vi, vt) ลงคะแนนเสียง, ลงมติ, เลือกตั้ง
voter(n) ผู้ลงคะแนนเสียง, ผู้เลือกตั้ง

Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
voting capitalเงินทุนที่เจ้าของมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

Time: 0.0419 seconds, cache age: 1.529 (clear)Longdo Dict -- https://dict.longdo.com/