ศักดิ์ | (n) mightiness, See also: vigor, force, Syn. ศักดา, อำนาจ, พลัง, กำลัง |
ศักดิ์ | (n) prestige, See also: power |
ศักดิ์ | (n) ability, See also: skill, capability, potential, Syn. ความสามารถ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) |
ศักดิ์ | (n) power, See also: mighty, authority, Syn. อำนาจ, Notes: (บาลี/สันสกฤต) |
ศักดิ์ | (n) rank, See also: status, prestige, Syn. ฐานะ, สถานภาพ, Example: ในกรุงเทพฯ ทุกคนต้องแย่งกันทำมาหากิน แย่งกันมีหน้ามีตา มียศ มีศักดิ์, Notes: (บาลี/สันสกฤต) |
ยศศักดิ์ | (n) rank, See also: title, status, prestige, splendour, station, position, distinction, nobility, class, caste, Syn. ยศถาบรรดาศักดิ์, บรรดาศักดิ์, Example: ท่านได้รับการแต่งตั้งเลื่อนยศศักดิ์เป็นเจ้าพระยา, Notes: (บาลีและสันสกฤต) |
ศักดิ์ศรี | (n) honour, See also: honor, glory, fame, renown, Syn. เกียรติ, เกียรติยศ, เกียรติศักดิ์ |
ศักดิ์ศรี | (n) prestige, Syn. เกียรติศักดิ์, เกียรติยศ, Example: ศักดิ์ศรีของทหารเป็นที่น่าเชื่อถือของคนทั่วไป, Notes: (สันสกฤต) |
สมณศักดิ์ | (n) priest of rank, Syn. ยศ, ตำแหน่ง |
สมณศักดิ์ | (n) priest's ranks, See also: priest's title, Example: พระมหากษัตริย์ทรงมีสิทธิ์ที่จะแต่งตั้งพระมหาเถระ ให้มีสมณศักดิ์ตามคุณวุฒิและคุณธรรม, Count Unit: ชั้น, Thai Definition: ยศพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานมีหลายชั้น แต่ละชั้นมีพัดยศเป็นเครื่องกำหนด |
สูงศักดิ์ | (adj) noble, See also: high rank, lofty, Syn. สูงส่ง, Ant. ต่ำต้อย, Example: ระหว่างที่อยู่ในลอนดอน เขาได้พบสตรีสูงศักดิ์คนหนึ่งกำลังเดินเล่นในสวนสาธารณะ, Thai Definition: มีเกียรติ, มีเชื้อสายผู้ดี, มีสกุลรุนชาติ |
ทะนงศักดิ์ | (v) be proud, See also: be self-confident, be lordly, Syn. ทระนงศักดิ์, หยิ่งในศักดิ์ศรี, Thai Definition: ถือดีในอำนาจของตัว |
เชลยศักดิ์ | (adj) private, See also: unofficial, unregistered, Example: เขาใช้นักสืบเชลยศักดิ์สืบเรื่องนี้, Thai Definition: อยู่นอกทำเนียบนอกทะเบียน อยู่นอกทำเนียบนอกทะเบียน |
มีศักดิ์ศรี | (v) have prestige, See also: have dignity, Syn. มีเกียรติ, Example: มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน, Thai Definition: มีเกียรติตามฐานะของแต่ละบุคคล |
สมศักดิ์ศรี | (v) deserve one's dignity, See also: be suitable for one's rank, be worthy of one's dignity, Syn. สมศักดิ์, Example: เขาคิดว่านี่เป็นงานต่ำ ไม่สมศักดิ์ศรีลูกผู้ดีอย่างเขา, Thai Definition: สมควรแก่เกียรติยศชื่อเสียง |
กิตติมศักดิ์ | (adj) honorary, See also: glorious, honorable, Example: ในปีนี้ทางมหาวิทยาลัยมอบปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์แก่นายชวน หลีกภัย, Thai Definition: ยกย่องเพื่อเป็นเกียรติยศ |
ผู้สูงศักดิ์ | (n) nobleman, See also: one of high birth, Ant. ผู้ต่ำต้อย, Example: พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ทรงให้สมญาริเชอลิเยอว่าผู้สูงศักดิ์, Thai Definition: ผู้มียศศักดิ์สูง |
ศักดิ์สิทธิ์ | (adj) holy, Syn. น่าศรัทธา, น่าเลื่อมใส, น่านับถือ |
ศักดิ์สิทธิ์ | (adj) sacred, See also: holy, consecrated, Syn. ขลัง, Example: สุเหร่านั้นเป็นสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในอินเดีย สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 |
ฐานันดรศักดิ์ | (n) rank of nobility, See also: title, Syn. ยศ, บรรดาศักดิ์, Example: หม่อมเจ้าพันธุ์สวลีได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ เมื่อทำการสมรสกับผู้มิได้มีศักดิ์เป็นเจ้า, Thai Definition: ลำดับในการกำหนดชั้นบุคคล |
เกียรติศักดิ์ | (n) honor, See also: prestige, glory, Syn. เกียรติ, Example: องค์พระมหากษัตริย์ทรงต้องการใช้ความรักชาติ ความชื่นชม และการตื่นตัวในเกียรติศักดิ์ของไทยของประชาชน เพื่อแก้ปัญหาการเมือง, Thai Definition: ฐานะอันมีเกียรติ |
เสียศักดิ์ศรี | (v) lose one's honour, See also: be disgraced, be dishonoured, Example: ประธานาธิบดีโซเวียตยอมเสียศักดิ์ศรีเดินทางไปเยือนอดีตประเทศศัตรู เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ, Thai Definition: สูญเสียเกียรติศักดิ์, สูญเสียเกียรติ |
ถือยศถือศักดิ์ | (v) stand on one's dignity, See also: be pompous, esteem personal rank, put on bureaucratic airs, Syn. ถือยศ, Example: ถึงเขาจะมีเชื้อสายเจ้า แต่เขาก็ไม่ถือยศถือศักดิ์เลย |
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | (n) holy thing |
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | (n) sacred item, See also: holy object, Example: ยามมีทุกข์หลายคนจะนึกถึงวัด นึกถึงคุณพระคุณเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหาทางปลดเปลื้องทุกข์ และหาวิธีการสู่ความสุขสงบทางใจ, Thai Definition: ของเคารพซึ่งเชื่อว่าสามารถจะบันดาลผลต่างๆ ได้ |
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | (n) sacred item, See also: holy object, Example: ยามมีทุกข์หลายคนจะนึกถึงวัด นึกถึงคุณพระคุณเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหาทางปลดเปลื้องทุกข์ และหาวิธีการสู่ความสุขสงบทางใจ, Thai Definition: ของเคารพซึ่งเชื่อว่าสามารถจะบันดาลผลต่างๆ ได้ |
หยิ่งในศักดิ์ศรี | (v) be proud of (one's achievement), Syn. ถือตัว, Example: คนเราต่างก็มีสิทธิ์หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง, Thai Definition: ไว้ตัว, ไม่ยอมลดตัว เพราะหยิ่งในเกียรติของตน |
บุญหนักศักดิ์ใหญ่ | (adj) powerful, Example: ถ้าเป็นพวกมีเงินหรือพวกบุญหนักศักดิ์ใหญ่ลูกหลานก็อาจจะฟังได้เพราะเกรงใจในสมบัติ, Thai Definition: ที่มีฐานันดรศักดิ์สูงและอำนาจวาสนายิ่งใหญ่ |
ปริญญากิตติมศักดิ์ | (n) honorary degree, Example: ปีนี้ทางมหาวิทยาลัยได้มอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่ศิษย์เก่าที่ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง, Thai Definition: ปริญญาที่ประสาทแก่ผู้ทรงวิทยาคุณ หรือผู้มีเกียรติตามที่เห็นสมควร |
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ | (n) holy place, See also: sacred place |
กรมศักดิ์ | (กฺรมมะสัก) น. ชื่อกฎหมายลักษณะหนึ่ง ซึ่งกำหนดระวางโทษปรับตามศักดินา อายุของฝ่ายที่ชนะคดีหรือฝ่ายที่แพ้คดี และความร้ายแรงหนักเบาของความผิดที่กระทำ. (สามดวง), พรมศักดิ หรือ พรหมศักดิ ก็ว่า. |
กิตติมศักดิ์ | (-ติมะ-) ว. ยกย่องเพื่อเป็นเกียรติยศ เช่น ปริญญากิตติมศักดิ์ สมาชิกกิตติมศักดิ์. |
กิตติมศักดิ์ | ดู กิตติ. |
เกียรติศักดิ์ | (เกียดติสัก) น. เกียรติ, เกียรติตามฐานะของแต่ละบุคคล. |
เชลยศักดิ์ | น. ผู้ที่อยู่นอกทำเนียบนอกทะเบียน เช่น หมอเชลยศักดิ์ นักสืบเชลยศักดิ์. |
ฐานานุศักดิ์ | ว. ตามควรแก่เกียรติศักดิ์. |
ฐานานุศักดิ์ | น. ศักดิ์ใหญ่และศักดิ์น้อย, ถ้าศักดิ์นาสูงกว่า ๔๐๐ ขึ้นไป เรียกว่า สูงนา หรือ ศักดิ์ใหญ่ ถ้าศักดิ์นาต่ำกว่า ๔๐๐ เรียกว่า ต่ำนา หรือ ศักดิ์น้อย |
ฐานานุศักดิ์ | ศักดิ์ที่พระราชาคณะมีอำนาจตั้งฐานานุกรมได้. |
ฐานานุศักดิ์ | ดู ฐาน ๒, ฐาน-, ฐานะ. |
ถือยศ, ถือยศถือศักดิ์ | ก. ไว้ยศ, ถือตัวว่ามียศมีศักดิ์. |
ทะนงศักดิ์ | ก. ถือดีในอำนาจของตัว. |
บรรดาศักดิ์ | (บันดา-) น. ฐานันดรศักดิ์ที่พระราชทานแก่ข้าราชการหรือบุคคลทั่วไป แบ่งออกเป็น เจ้าพระยา พระยา พระ หลวง ขุน หมื่น พัน และทนาย โดยมีราชทินนามต่อท้าย เช่น เจ้าพระยายมราช พระยาพลเทพ. |
บุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ว. มีฐานันดรศักดิ์สูงและอำนาจวาสนายิ่งใหญ่ (มักใช้ในความประชด) เช่น ถึงเป็นพี่น้องกัน แต่ฉันก็ไม่กล้าไปรบกวนเขา เพราะเขาบุญหนักศักดิ์ใหญ่เหลือเกิน. |
ใฝ่สูงจนเกินศักดิ์, ใฝ่สูงให้เกินศักดิ์ | ก. หวังสิ่งที่เกินฐานะของตน (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น อย่าใฝ่สูงจนเกินศักดิ์ อย่าใฝ่สูงให้เกินศักดิ์. |
มเหศักดิ์ | น. เจ้าผีซึ่งเดิมเป็นเจ้าเมืองในถิ่นนั้น. |
ศักดิ-, ศักดิ์ | น. อำนาจ, ความสามารถ, เช่น มีศักดิ์สูง ถือศักดิ์ |
ศักดิ-, ศักดิ์ | กำลัง |
ศักดิ-, ศักดิ์ | ฐานะ เช่น มีศักดิ์และสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ |
ศักดิ-, ศักดิ์ | หอก, หลาว. |
ศักดิ์ศรี | น. เกียรติศักดิ์ เช่น ประพฤติตนไม่สมศักดิ์ศรี. |
ศักดิ์สิทธิ์ | ว. ที่เชื่อถือว่ามีอำนาจอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ขลัง, เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์. |
สมณศักดิ์ | น. ยศพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานมีหลายชั้น แต่ละชั้นมีพัดยศเป็นเครื่องกำหนด. |
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | น. สิ่งหรือภาวะที่เชื่อว่ามีอำนาจเหนือธรรมชาติ สามารถบันดาลให้เป็นไปหรือให้สำเร็จได้ดังปรารถนา เช่น ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้เขาหายจากโรคร้าย. |
สูงศักดิ์ | ว. มียศศักดิ์หรือตระกูลสูง เช่น เจ้านายเป็นบุคคลที่สูงศักดิ์ เขาสืบเชื้อสายมาจากขุนนางผู้สูงศักดิ์. |
อินทรศักดิ์ | (อินทฺระ-) น. พระอินทราณี, ชายาพระอินทร์. |
กรม ๓ | (กฺรม) น. หมู่เหล่าอันเป็นที่รวมกำลังไพร่พลของแผ่นดินตามลักษณะปกครองสมัยโบราณ เพื่อประโยชน์ในราชการและเวลาเกิดศึกสงคราม จะได้เรียกระดมคนได้ทันท่วงที บรรดาชายฉกรรจ์ต้องเข้าอยู่ในกรมหรือในหมู่เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เรียกว่า สังกัดกรม มีหัวหน้าควบคุมเป็นเจ้ากรม ปลัดกรม ตามลำดับ ซึ่งเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งให้เจ้านายปกครองเป็นองค์ ๆ เรียกว่าตั้งกรม แล้ว เจ้านายพระองค์นั้นก็ ทรงกรม เป็น เจ้าต่างกรม เพราะมีกรมขึ้นต่างหากออกไปเป็นกรมหนึ่ง มีอำนาจตั้งเจ้ากรม ปลัดกรม เป็น หมื่น ขุน หลวง พระ พระยา ได้ และเรียกชื่อกรมนั้น ๆ ตามบรรดาศักดิ์เจ้ากรมว่า กรมหมื่น กรมขุน กรมหมื่น กรมขุน กรมหลวง กรมหลวงกรมพระ และกรมพระยา หรือ เมื่อจะทรงกรมสูงขึ้นกว่าเดิม ก็โปรดให้ เลื่อนกรม ขึ้น โดยเจ้ากรมมีบรรดาศักดิ์เลื่อนขึ้น เช่นจากหมื่นเป็นขุน, มาในปัจจุบันชื่อกรมเหล่านี้มีความหมายกลายเป็นพระอิสริยยศและพระนามเจ้านายเท่านั้น. |
กรมการนอกทำเนียบ | น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการเมืองในการบริหารราชการในเมืองนั้น ๆ แต่งตั้งจากบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิหรือคหบดีในเมืองนั้น ๆ โดยไม่จำกัดจำนวน และถือว่าเป็นกรมการชั้นผู้ใหญ่, กรมการพิเศษ ก็ว่า. |
กรมการพิเศษ | น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการเมืองในการบริหารราชการในเมืองนั้น ๆ แต่งตั้งจากบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิหรือคหบดีในเมืองนั้น ๆ โดยไม่จำกัดจำนวน และถือว่าเป็นกรมการชั้นผู้ใหญ่, กรมการนอกทำเนียบ ก็ว่า. |
เกล้ากระผม | ส. คำใช้แทนตัวผู้พูด เพศชาย พูดกับผู้ใหญ่ด้วยความเคารพมากหรือกับพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์, พูดสั้น ๆ ว่า เกล้า หรือเขียนย่อว่า เกล้าฯ, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑. |
แก้บน | ก. เซ่นสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตนได้บนบานไว้, ใช้บน ก็ว่า. |
ขลัง | (ขฺลัง) ว. มีกำลังหรืออำนาจที่อาจบันดาลให้เป็นไปได้, มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่า อาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์. |
ขลัง | (ขฺลัง) น. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ในนั้นปูอิฐวางขลัง (สิบสองเดือน). |
ของ | สิ่งที่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ของขลัง ก็ว่า. |
ของขลัง | น. สิ่งที่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดังประสงค์, ของ ก็ว่า. |
ของสูง | น. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ของชิ้นนี้เป็นของสูง ต้องเก็บบูชาไว้ให้ดี, ผู้สูงศักดิ์ เช่น แม้ท่านจะไม่ถือพระองค์ แต่ท่านก็เป็นของสูง อย่าอาจเอื้อม. |
ขันสาคร | น. ขันขนาดใหญ่ทำด้วยโลหะผสม ได้แก่ สัมฤทธิ์ ทองเหลือง ตัวขันเป็นทรงลูกมะนาวตัด ก้นขันมีเชิง ข้างขันทำเป็นรูปหน้าสิงโตปากคาบห่วงซึ่งใช้เป็นหูหิ้วข้างละหู ใช้บรรจุน้ำสำหรับทำน้ำมนต์ หรือสำหรับผู้มีบรรดาศักดิ์ใช้อาบ. |
ขุน ๑ | น. ผู้เป็นใหญ่, หัวหน้า, บรรดาศักดิ์ข้าราชการรองจากหลวงลงมา เช่น ขุนวิจิตรมาตรา |
ขุนหลวง | น. คำเรียกพระเจ้าแผ่นดิน เช่น ขุนหลวงพะงั่ว ขุนหลวงหาวัด ขุนหลวงตาก ภายหลังใช้เป็นบรรดาศักดิ์ของขุนนางด้วย เช่น ขุนหลวงพระไกรศรี. |
คอหยัก ๆ สักแต่ว่าคน | น. คนที่ประพฤติตัวไม่สมศักดิ์ศรีของความเป็นคน. |
คาถา ๒, คาถาอาคม | น. คำเสกที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์. |
คำนำหน้าชื่อ | น. คำที่ใช้นำหน้าชื่อบุคคลเพื่อแสดงสถานภาพ ตำแหน่งทางวิชาการ ยศ บรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรศักดิ์, คำนำหน้านาม ก็เรียก. |
คำนำหน้านาม | น. คำที่ใช้นำหน้าชื่อบุคคลเพื่อแสดงสถานภาพ ตำแหน่งทางวิชาการ ยศ บรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรศักดิ์, คำนำหน้าชื่อ ก็เรียก. |
จ่า ๑ | ยศทหารและตำรวจชั้นประทวน เช่น จ่าตรี จ่าสิบตำรวจ, บรรดาศักดิ์ในราชสำนัก เช่น จ่าแผลงฤทธิรอนราญ จ่าเร่งงานรัดรุด, ตำแหน่งหัวหน้าธุรการบางอย่าง เช่น จ่าศาล |
จำราย | ก. กระจาย, แผ่ไป, เช่น เสด็จจรจำรายศักดิ์ โสภิต (ทวาทศมาส). |
จำหุด | ก. แม่น, ปรากฏ, เที่ยง, แข็งแรง, เปรื่องปราด, ศักดิ์สิทธิ์, สำคัญ, เช่น อันหนึ่งให้จำหุดให้กระทำบุญ (ไตรภูมิ). |
จิ้งเหลนด้วง ๑ | น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานจำพวกจิ้งเหลนที่ไม่มีขาหรืออาจมีร่องรอยของขาคู่หลังเหลืออยู่เล็กน้อย ในวงศ์ Dibamidae และวงศ์ Scincidae ลำตัวเรียวยาว ขนาดยาวตั้งแต่ ๗-๒๕ เซนติเมตร เกล็ดลำตัวเรียบ อาศัยอยู่ใต้ผิวดินที่ร่วนซุยหรือเป็นดินปนทรายซึ่งมีซากผุพังของพืชปกคลุม, ในวงศ์ Dibamidae เฉพาะเพศผู้มีร่องรอยของขาคู่หลังเป็นแผ่นแบนให้เห็นเล็กน้อย ที่พบในประเทศไทย ได้แก่ จิ้งเหลนด้วงสีม่วง ( Dibamus alfrediTaylor) ซึ่งพบทางภาคใต้ และจิ้งเหลนด้วงสมศักดิ์ ( D. somsakiHonda, Nabhitabhata, Ota & Hikida) ซึ่งพบที่เขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ส่วนในวงศ์ Scincidae ไม่มีขาทั้งเพศผู้และเพศเมีย ที่พบในประเทศไทย ได้แก่ ชนิด Isopachys anguinoides (Boulenger) พบที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ชนิด I. roulei (Angel) พบที่จังหวัดชลบุรี, ชนิด I. gydenstolpeiLönnberg และ I. borealisLang & Bohme พบทางภาคตะวันตก ชนิด Davewakeum miriamaeHeyer พบที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา. |
เจ้าคุณ | น. บรรดาศักดิ์ฝ่ายในที่ทรงแต่งตั้ง |
เจ้าคุณ | คำเรียกผู้มีบรรดาศักดิ์ตั้งแต่ชั้นพระยาขึ้นไป |
เจ้าประคู้น | น. คำเรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้มาช่วยให้สมประสงค์, เป็นคำอุทานแสดงถึงการอ้อนวอน อธิษฐาน บนบาน หรือ สาปแช่ง เป็นต้น. |
เจ้าพระยา ๑ | น. บรรดาศักดิ์ข้าราชการผู้ใหญ่ สูงกว่าพระยา ต่ำกว่าสมเด็จเจ้าพระยา เช่น เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี. |
พระเมรุ | เป็นเมรุที่ใช้สำหรับราชวงศ์ที่ทรงฐานานุศักดิ์ เมื่อตายใช้ราชาศัพท์ว่า ทิวงคต หรือสิ้นพระชนม์โดยที่ภายในพระเมรุไม่มีพระเมรุทอง [ศัพท์พระราชพิธี] |
พระโกศ | ที่ใส่พระบรมศพ และพระศพเจ้านาย ของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ กับโกศที่พระราชทานสำหรับศพข้าราชการผู้มีบรรดาศักดิ์สูง ตามคตินิยมของพราหมณ์ที่เชื่อว่า ต้องตั้งพระศพในท่ายืน, นั่ง, คุกเข่า หรือกอดเข่าประสานมือ เพื่อส่งพระศพและพระวิญญาณเสด็จกลับสู่สรวงสวรรค์ พระโกศสามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้ ๒ ประเภท ๑. พระโกศสำหรับทรงพระบรมศพหรือพระศพ ๒. พระโกศพระบรมอัฐิหรือพระอัฐิ, Example: <p><img src="http://stks.or.th/thaiglossary/sites/default/files/re-IM-2009-01.JPG" alt="พระโกศ"> <p>ที่ใส่พระบรมศพ และพระศพเจ้านาย ของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ [ศัพท์พระราชพิธี] |
พระวอสีวิกากาญจน์ | เป็นพระราชยานประทับราบสำหรับเจ้านายฝ่ายในและพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ นอกจากใช้เสด็จพระราชดำเนินในงานพระราชพิธีแล้ว ยังใช้ในงานพระบรมศพสมเด็จพระบรมราชินีด้วย คือ เชิญพระราชสรีรางคารจากพระเมรุมาศท้องสนามหลวงกลับเ้ข้าพระบรมมหาราชวัง [ศัพท์พระราชพิธี] |
พระกลด | [ กฺลด ] น. ร่มขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ขอบร่มมีระบาย คันยาวกว่าก้านร่ม ใช้ถือกั้นเจ้านาย หรือพระภิกษุที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์, ราชาศัพท์ว่า พระกลด, เรียกร่มขนาดใหญ่มีด้าม สำหรับพระธุดงค์โดยเฉพาะ, เรียกดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ที่มีแสงสีรุ้งเป็นวงกลมล้อมรอบว่า ดวงอาทิตย์ทรงกลด ดวงจันทร์ทรงกลด. (ข. กฺลส). [ศัพท์พระราชพิธี] |
Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman, or Degrading Treatment or Punishment (1984) | อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ค.ศ. 1984) [TU Subject Heading] |
Dignity | ศักดิ์ศรี [TU Subject Heading] |
Dignity in literature | ศักดิ์ศรีในวรรณกรรม [TU Subject Heading] |
Holy water | น้ำศักดิ์สิทธิ์ [TU Subject Heading] |
Titles of honor and nobility ; Titles | นามแสดงศักดิ์ [TU Subject Heading] |
Translating | การแปล, ใช้เป็นหัวเรื่องย่อยตามหลังชื่อเรื่องแบบฉบับของงานเขียนอันศักดิ์สิทธิ์ ชื่อเฉพาะของภาษา กลุ่มภาษาและหัวเรื่องตามเนื้อหา [TU Subject Heading] |
Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman and Degrading Treatment or Punishment | อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่น ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี [การทูต] |
Classes of Consuls | เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ กงสุลอาชีพ (Consules de Carriere) กับกงสุลกิตติมศักดิ์ (Honorary Consuls) กงสุลอาชีพเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง และจะประจำทำงานเต็มเวลาในที่ทำการทางกงสุล ส่วนกงสุลกิตติมศักดิ์นั้นไม่มีฐานะเป็นกงสุลอาชีพ โดยมากเป็นนักธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งจะประจำทำงานเพียงส่วนหนึ่งของวัน (ไม่ใช่เต็มวัน) ในสถานที่ทำการทางกงสุลของตน และอาจจะเป็นคนชาติของรัฐที่เขาเป็นตัวแทนอยู่ หรือไม่เป็นคนชาติของรัฐนั้นก็ได้ ความแตกต่างอื่นๆ ระหว่างกงสุลอาชีพกับกงสุลกิตติมศักดิ์ มีดังนี้1. กงสุลอาชีพจะได้รับเงินเดือนประจำ แต่กงสุลกิตติมศักดิ์ไม่มีเงินเดือน2. กงสุลอาชีพมีตำแหน่งหน้าที่ถาวร ส่วนกงสุลกิตติมศักดิ์มีตำแหน่งว่าจ้างเพียงชั่วคราว 3. ส่วนมากกงสุลอาชีพจะต้องเป็นผู้ได้รับการฝึกอบรมหรือมีประสบการณ์มาก่อน ส่วนกงสุลกิตติมศักดิ์ไม่ต้องเป็นเช่นนั้น4. กงสุลอาชีพมีสิทธิได้รับความคุ้มกัน (immunities) และการยกเว้นต่าง ๆ มากกว่ากงสุลกิตติมศักดิ์สำหรับบุคคลที่เป็นหัวหน้าในที่ทำการทางกงสุลนั้น มีตำแหน่งตามลำดับชั้น คือ1) กงสุลใหญ่ (Consuls-general)2) กงสุล (Consuls)3) รองกงสุล (Vice-consuls) [การทูต] |
Conference of Honorary Consuls-General of Thailand | การประชุมกงสุลกิตติมศักดิ์ไทย [การทูต] |
Consular Office | บุคคลรวมทั้งหัวหน้าของที่ทำการทางกงสุล ซี่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในฐานะกงสุลโดยได้รับ ภาระหน้าที่ทางกงสุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลมีอยู่ 2 ประเภทคือ 1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลอาชีพ (Career Consular Office)2. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลกิตติมศักดิ์ (Honorary Consular Office) [การทูต] |
Honorary Consul | กงสุลกิตติมศักดิ์ " ได้แก่ บุคคลในท้องถิ่นผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายให้ดูแล ส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศและคนชาติในพื้นที่ในเขตอาณา และดำเนินการตรวจลงตราหนังสือเดินทางแก่บุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศที่ กงสุลกิตติมศักดิ์เป็นผู้แทน การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ และต้องยื่นสัญญาบัตร และได้รับอนุมัติบัตรเช่นเดียวกับผู้แทนฝ่ายกงสุลอาชีพ (career consular officer) ทั้งนี้ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์จะได้รับมอบหมายให้ดูแลเขตอาณาที่ครอบคลุมพื้นที่ กว้างกว่าและสำคัญกว่า ในส่วนของไทย กงสุลกิตติมศักดิ์แตกต่างจากกงสุลอาชีพใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) กงสุลกิตติมศักดิ์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม หรือเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับไทย (2) กงสุลกิตติมศักดิ์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั้งหมด (3) กงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุลน้อยกว่ากงสุลอาชีพ ในการปฏิบัติงานของกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยจะมีคู่มือกงสุลกิตติมศักดิ์ เป็นระเบียบกฎเกณฑ์และข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงาน " [การทูต] |
New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] |
Order of Precedence | หมายถึง ลำดับอาวุโสทางการทูต โดยถือยศหรือตำแหน่งเป็นบรรทัดฐาน โดยเฉพาะในโอกาสที่ไปร่วมพิธีต่าง ๆ ตลอดจนการเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการ นักการทูตทั่วโลกต่างถือลำดับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิถีพิถันกันไม่ น้อย เพราะในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ หากมีการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง เขาผู้นั้นซึ่งคำนึงถึงศักดิ์ศรีในฐานะตัวแทนของประเทศย่อมต้องรู้สึกว่า นอกจากจะไม่ได้รับความถูกต้องแล้ว ยังเป็นการดูแคลนประเทศของตนด้วยในสมัยก่อน ผู้ที่ทำหน้าที่ชี้ขาดในเรื่องลำดับอาวุโสของบรรดาประมุขของรัฐทั้งหลาย คือสมเด็จพระสันตะปาปา ต่อมาในการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1815 ที่ประชุมได้ตกลงกันให้ถือวันที่เดินทางมาถึงประเทศผู้รับ และได้แจ้งให้ทราบเป็นทางการว่าเป็นเรื่องลำดับอาวุโส ผู้ที่มาถึงก่อนย่อมมีอาวุโสกว่าผู้ทีมาทีหลัง อย่างไรก็ดี มาในทุกวันนี้มีหลายประเทศถือหลักว่า ผู้แทนทางการทูตที่ยื่นสารตราตั้งก่อนจะมีอาวุโสกว่าผู้ยื่นสารตราตั้งที หลัง และในกรณีที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างบุคคลในคณะทูตเรื่องลำดับอาวุโส ประเทศเจ้าภาพหรือประเทศผู้รับจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดอนุสัญญากรุงเวียนนาว่า ด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติเกี่ยวกับลำดับอาวุโสของผู้แทนทางการ ทูตไว้ดังนี้ ?ข้อ 16 1. ให้หัวหน้าคณะผู้แทนมีลำดับอาวุโสในแต่ละชั้นของตนตามลำดับวันและเวลาที่ เข้ารับการหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้ง หรือเมื่อได้บอกกล่าวการมาถึงของตนและได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง ต่อกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป 2. การเปลี่ยนแปลงในสารตราตั้งของหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งไม่เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงชั้นใด ๆ จะไม่กระทบกระเทือนลำดับอาวุโสของหัวหน้าคณะผู้แทน 3. ข้อนี้ไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่ทางปฏิบัติใด ซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับ ในเรื่องลำดับอาวุโสของผู้แทนของโฮลี่ซี ข้อ 17 ลำดับอาวุโสของสมาชิกคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทนนั้น ให้หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้บอกกล่าวแก่กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน? [การทูต] |
Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] |
Placement | หมายถึง วิธีจัดที่นั่งโต๊ะในการเลี้ยงอาหารสำหรับนักการทูต โดยคำนึงถึงลำดับอาวุโส เพื่อป้องกันมิให้เกิดความรู้สึกขุ่นเคืองหรือหัวเสีย เรื่องการจัดที่นั่งในการเลี้ยงอาหารโดยคำนึงถึงลำดับอาวุโสนี้ นักการทูตส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ไหน มักจะถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ ฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการจัดที่นั่งเช่นนี้ได้แก่ กรมพิธีการทูตของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนลำดับของอาวุโสก็ถือตามวันเวลาที่นักการทูตแต่ละคนได้เข้าประจำตำแหน่ง ที่ในประเทศผู้รับ กล่าวคือ ผู้ที่เข้าประจำตำแหน่งก่อนก็คือผู้ทีมีอาวุโสกว่าผู้ที่มาประจำตำแหน่ง หน้าที่ทีหลัง [การทูต] |
Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] |
appellation | (n) ชื่อ, See also: นาม, ยศ, ศักดิ์, ตำแหน่ง, นามาภิไธย, นามสมญา, Syn. designation |
begum | (n) คำเรียกอย่างให้เกียรติหญิงมุสลิมสูงศักดิ์หรือแต่งงานแล้ว |
blaspheme | (vi) พูดดูหมิ่นศาสนาหรือสิ่งศักดิ์สิทธ์, Syn. defile, desecrate, profane, Ant. honor, revere |
bless | (vt) ทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์, Syn. sanctify, hallow |
blessed | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, See also: น่าบูชา, Syn. holy, saintly |
count | (n) ตำแหน่งของขุนนางอังกฤษเทียบเท่ากับเอิร์ล, See also: บรรดาศักดิ์ทางยุโรป |
deign | (vt) ถ่อมตัวลงมา, See also: ลดตัวลงมา, ยอมลดเกียรติ / ศักดิ์ศรีลงมา, Syn. condescend, vouchsafe, stoop |
deign | (vi) ถ่อมตัวลงมา, See also: ลดตัวลงมา, ยอมลดเกียรติ / ศักดิ์ศรีลงมา, Syn. condescend, vouchsafe, stoop |
desecrate | (vt) ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, See also: ทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. defile, profane, Ant. honor, revere |
desecration | (n) การดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, See also: การทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. sacrilege, profanation |
designation | (n) ชื่อ, See also: ศักดิ์, นาม, ยศ, ชื่อเรียก, ชื่อตำแหน่ง, สมญานาม, Syn. name, label, tag |
divine | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, See also: ลึกลับ, Syn. sacred, blessed, godly, holy, Ant. defiled, desecrated |
dowager | (n) ภรรยาหม้ายของสามีสูงศักดิ์ที่ล่วงลับไปแล้ว, Syn. widow, dame, matron |
dowager | (n) หญิงสูงศักดิ์, See also: หญิงที่ได้รับความเคารพนับถือ |
enshrine | (vt) วางไว้บนหิ้งบูชา, See also: วางไว้บนที่บูชา, ตั้งไว้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ |
Ganges | (n) แม่น้ำคงคา (แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู), See also: แม่คงคา |
gentlewomen | (n) หญิงมีชาติตระกูลสูง, See also: หญิงสูงศักดิ์, หญิงผู้ดี, Syn. noblewoman |
hallow | (vt) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, Syn. consecrate, sanctify, Ant. desecrate, profane |
hallowed | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, See also: เป็นที่เคารพนับถือ, เป็นที่สักการบูชา, Syn. sacred, sacrosanct |
holiness | (n) ความศักดิ์สิทธิ์, Syn. sacredness, sacrosanctity, sanctity |
holy | (adj) ซึ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. sacred, sacrosanct |
honor | (n) เกียรติ, See also: เกียรติยศ, เกียรติศักดิ์, Syn. honorableness, integrity, uprightness, Ant. dishonor, immorality |
honorary | (adj) ซึ่งให้เพื่อเป็นเกียรติ, See also: โดยกิตติมศักดิ์, โดยเกียรติยศ |
honorary degree | (n) ปริญญากิตติมศักดิ์ |
honour | (n) เกียรติยศ, See also: ยศศักดิ์, เกียรติ, เกียรติศักดิ์, Syn. honorableness, integrity, uprightness, Ant. dishonor, immorality |
odour of sanctity | (idm) บรรยากาศที่อบอวลด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระเจ้ามากเกินไป |
sacred cow | (idm) สิ่งหวงห้าม, See also: สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรหลบหลู่, สิ่งที่ไม่ควรพูดถึงในแง่ไม่ดี |
upper crust | (idm) สังคมระดับสูง (คำไม่เป็นทางการ), See also: ชนชั้นสูง, พวกสูงศักดิ์, พวกศักดินา |
jihad | (n) สงครามศักดิ์สิทธิ์, See also: สงครามศาสนาที่ถือเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิม |
knight | (vt) แต่งตั้งอัศวิน, See also: พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นขุนนาง |
lord | (n) ท่านลอร์ด (ใช้เรียกขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ระดับสูง) |
lord | (n) บรรดาศักดิ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในอังกฤษ |
lord | (n) บรรดาศักดิ์อย่างเป็นทางการของพระในคริสตศาสนา |
luster | (n) ความรุ่งโรจน์, See also: ความเลืองชื่อลือนาม, บารมี, เกียรติศักดิ์, Syn. excellence, glory, spendor |
milad | (n) ผู้หญิงสูงศักดิ์, Syn. miladi |
miladi | (n) ผู้หญิงสูงศักดิ์, Syn. milad |
morganatic | (adj) เกี่ยวกับการแต่งงานของชายที่สูงศักดิ์กับหญิงฐานะต่ำกว่า, Syn. plural |
morganatically | (adv) โดยการแต่งงานของชายที่สูงศักดิ์กับหญิงต่ำต้อยกว่า |
nimbus | (n) วงแหวนเรืองแสงรอบศีรษะของนักบุญหรือผู้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์, See also: ทรงกลด, รัศมี, Syn. aura, glory, halo |
nobility | (n) ความสูงส่ง, See also: ความสง่างาม, ความสูงศักดิ์, Syn. aristocracy, greatness, Ant. smallness |
noble | (adj) ชั้นสูง, See also: มีตระกูล, สูงศักดิ์, Syn. solid, upstanding, worthy, Ant. dishonorable, lowborn |
noble | (n) คนชั้นสูง, See also: คนสูงส่ง, คนสูงศักดิ์, Syn. magnanimousness, grandeur |
noblewoman | (n) คุณหญิง, See also: ผู้ดี, หญิงสูงศักดิ์, Syn. aristocrat, countess, empress |
oracular | (adj) ศักดิ์สิทธิ์ |
prestigious | (adj) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ, See also: ซึ่งมีเกียรติ, ซึ่งมีศักดิ์ศรี, Syn. famous, important |
relic | (n) พระบรมสารีริกธาตุ, See also: อัฐิ, สารีริกธาตุ, ส่วนของร่างกายผู้ศักดิ์สิทธิ์ ดับขันธ์ไปแล้ว ที่ยังหลงเหลืออยู่, Syn. holy relic, vestige |
sacramental | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, See also: น่าเลื่อมใส, น่าเคารพ, Syn. pure, sacred, solemn |
sacredness | (n) ความเป็นที่สักการะทางศาสนา, See also: ความศักดิ์สิทธิ์, Syn. divinity, holiness, sanctity |
sacrilege | (n) การลบหลู่ศาสนา, See also: การเหยียดหยามศาสนา, การดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. desecration, blasphemy, profanation |
sacrilegious | (adj) ซึ่งมีความผิดฐานล่วงเกิน, See also: ซึ่งดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. profane, sinful |
adytum | (แอด' ดิทัม) n., (pl. -ta) สถานศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระบูชาเท่านั่น, ห้องลับ |
agnomen | (แอกโน' เมน) n., (pl. -nomina) ฐานันดรศักดิ์ของชาวโรมัน, ชื่อเล่น -agnominal adj. (nickname) |
amour-propre | (อะมัวพรอ' พระ) n., fr. ความรักตัวเอง, ความหยิ่งในศักดิ์ศรี |
apis | (เอ'พิส) n. วัวศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์., Syn. Hapi, Hap |
appellation | (แอพพะเล'เชิน) n. ชื่อ, ยศ, ศักดิ์, นาม, การตั้งชื่อ, Syn. title, name |
appellative | (อะเพล'ละทิฟว) n. สามานยนาม, นาม, ยศศักดิ์, ฉายา. -adj. เกี่ยวกับสามานยนาม, เกี่ยว กับนามหรือฉายา, Syn. designative |
baronage | (บาร์'ระนิจฺ) n. บรรดาศักดิ์บารอน, ขุนนางจำพวกที่มียศชั้นบารอนทั้งหมด |
beneath | (บินีธ') adj., prep. ข้างใต้, ต่ำกว่า, ภายใต้, เลวกว่า, ไม่เหมาะ, ไม่สมควร, เสื่อมเสีย, เสียศักดิ์ศร', Syn. below |
bless | (เบลส) { blessed/blest, blessed/blest, blessing, blesses } vt. อวยพร, ให้ศีลให้พร, ให้เจริญ, ให้มีความสุข, สรรเสริญ, ให้ศักดิ์สิทธิ์, ขีดกากบาทบนหน้าอกตัวเอง, อธิษฐานให้พระเจ้าให้พรแก่, ประสาทพร, คุ้มครอง, ปกป้อง, สาปแช่ง, See also: blesser n. คำที่มีความหมาย |
blessed | (เบลส'ซิด, เบลสทฺ) adj. มีโชค, มีความสุข, ศักดิ์สิทธิ์, น่าบูชา, อัปรีย์, สาปแช่ง, See also: blessedness n., Syn. hallowed, Ant. sad |
blessing | (เบลส'ซิง) n. การให้พร, การทำให้ศักดิ์สิทธิ์, ผลประโยชน์, ความกรุณา, ของขวัญ, สิ่งทำให้โชคดีหรือมีความสุข, การสรรเสริญบารมี, การบูชา, การเห็นด้วย, Syn. grace, benediction |
blest | (เบลส'ซิด, เบลสทฺ) adj. มีโชค, มีความสุข, ศักดิ์สิทธิ์, น่าบูชา, อัปรีย์, สาปแช่ง, See also: blessedness n., Syn. hallowed, Ant. sad |
bushido | (บุ'ชิโด) n. หลักเกณฑ์หรือสิทธิของนักสู้ซามูไรที่ยืนหยัดในความรักภักดีและถือเกียรติศักดิ์เหนือชีวิต |
canonise | (แคน'นะไนซ) { canonized, canonised, canonizeingcanonising, canonizes, canonises } vt. ประกาศให้เป็นนักบุญ (saint) , ยกย่องว่าประเสริฐ, ถือว่าศักดิ์สิทธิ์, ถือว่าถูกต้องแท้จริง, จัดอยู่ในบทหนังสือฉบับแท้ของพระคัมภีร์ไบเบิล., See also: canonisation n. ดูcanoniz |
canonize | (แคน'นะไนซ) { canonized, canonised, canonizeingcanonising, canonizes, canonises } vt. ประกาศให้เป็นนักบุญ (saint) , ยกย่องว่าประเสริฐ, ถือว่าศักดิ์สิทธิ์, ถือว่าถูกต้องแท้จริง, จัดอยู่ในบทหนังสือฉบับแท้ของพระคัมภีร์ไบเบิล., See also: canonisation n. ดูcanoniz |
character | (แค'ริคเทอะ) n. ตัวอักษร, อักขระ, อุปนิสัย, คุณสมบัติ, ลักษณะพิเศษ, หลักความประพฤติ, ความรักหรือหยิ่งในศักดิ์ศรี, ชื่อเสียงที่ดี, เกียรติคุณ, ฐานะตัวในเรื่อง, บทบาทในละครหรือภาพยนตร์, สัญลักษณ์, See also: characterisation, characterization n. |
cist | (ซิสท) n. กล่องหรือหีบใส่ของศักดิ์สิทธิ์ |
consecrate | (คอน'ซิเครท) vt., n. (การ) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, อุทิศให้, อุทิศตัว., See also: consecratedness n. ดูconsecrat consecrator n. ดูconsecrat, Syn. bless, hallow |
consecration | (คอนซิเคร'เชิน) n. การทำให้ศักดิ์สิทธิ์, การอุทิศตัวและบูชาพระเจ้า |
cow | (คาว) n. วัวตัวเมีย, แม่วัว, สัตว์ตัวเมียจำพวก Bos, สัตว์ตัวเมียขนาดใหญ่ (เช่นช้าง ปลาวาฬ แรด แม่น้ำ) , หญิงอ้วนพุงพลุ้ย -Phr. (a sacred cow วัวในอินเดีย (ถือเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์) , บุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หาอาจล่วงละเมิดได้.) -Phr. (till the cows come home นาน |
dame | (เดม) n. คุณนาย, คุณหญิง, มาดาม, สตรี, ผู้สูงศักดิ์, ผู้หญิง, แม่บ้าน, นาง |
deific | (ดีอิฟ'ฟิค) adj. ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, ทำให้เป็นพระเจ้าหรือเทวดา |
deonsecrate | (ดีคอน'ซีเครท) vt. ทำให้ไม่ศักดิ์สิทธิ์, See also: deconsecration n. การทำให้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ |
diadem | (ได'อะเดม) n., vt. (ใส่) มงกุฎ, รัดเกล้า, พระราชอำนาจ, พระฐานันดรศักดิ์., Syn. crown |
dignitary | (ดิก'นิทารี) n. บุคคลที่ตำแหน่งสูง, ผู้มีฐานันดรศักดิ์., See also: dignitarial adj. -pl. dignitaries |
dignity | (ดิก'นิที) n. ความมีเกียรติ, ฐานันดรศักดิ์, ความสูงศักดิ์, ตำแหน่งสูง, ความคุ้มค่า, ผู้มีตำแหน่งสูง -S.loftiness |
disgrace | (ดิสเกรส') n. การเสียหน้า, ความเสื่อมเสีย, การถอดถอนยศฐาบรรดาศักดิ์, ความอัปยศอดสู vt. ทำให้เสียหน้า, ทำให้ขายหน้า, ทำให้เสื่อมเสีย., See also: disgracer n., Syn. shame, dishonour, Ant. honour, credit |
divine | (ดิไววนฺ') adj. เกี่ยวกับพระเจ้า, ศักดิ์สิทธิ์, เคร่งศาสนา, เกี่ยวกับเทววิทยาดีเลิศ, ยอดเยี่ยม, เหนือมนุษย์, เป็นพรสวรรค์n. นักศาสนศาสตร์, ผู้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนา, พระ, See also: the Divine พระเจ้า, เทพเจ้า, จิตวิญญาณ vi., vt. ทำนาย, คาดการณ์, พยากรณ์. divin |
divinity | (ดิวิน'นิที) n. ความศักดิ์สิทธิ์, ความเป็นเทพเจ้า, พระเจ้า, เทพเจ้า, สิ่งที่มีลักษณะเป็นพระเจ้า, |
dowager | (เดา'อะเจอะ) n.หญิงที่ได้รับทรัพย์สินจากสามีที่ตาย, หญิงสูงอายุที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ |
eclat | (เอคลา') n. เกียรติศักดิ์, ชื่อเสียง, ความเอิกเกริก, ความชื่นชมยินดี, Syn. fame |
elevation | (เอลลิเว'เชิน) n. การยกให้สูงขึ้น, สิ่งปลูกสร้างที่สูงเด่น, ที่สูง, ความสูงส่ง, ความสูงศักดิ์, ความภูมิฐาน, Syn. height |
fame | (เฟม) n. ชื่อเสียง, กิตติศัพท์, เกียรติยศ, เกียรติคุณ, ศักดิ์ศรี, ข่าวลือ, การเล่าลือ. vt. ทำให้มีชี่อเสียง, เลื่องลือ. |
genealogy | n. การลำดับศักดิ์ของวงค์ตระกูล |
grandeur | (แกรน'เจอะ) n. ความสูงศักดิ์, ความสง่างาม, ความผึ่งผาย, ความยิ่งใหญ่, ความน่ากลัว. n. สิ่งที่ใหญ่โต, สิ่งที่สูงศักดิ์, Syn. magnificence, glory, pomp |
halidom | n. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, ปูชนียสถาน. |
hallow | (แฮ'โล) vt. ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, สักการบูชา, ดูhallo, Syn. consecrate |
hallowed | (แฮล'โลด์) adj. ศักดิ์สิทธิ์, เป็นที่เคารพนับถือ, เป็นที่สักการบูชา, See also: hallowedness n., Syn. consecrated |
hiero- | Pref. "ศักดิ์สิทธิ์" |
hierology | n. วรรณคดีหรือวิชาที่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์, การศึกษาเกี่ยวกับ ชีวิตและวรรณกรรมของนักบุญ., See also: hierologic al adj. hierologist n. |
holily | (โฮ'ลิลี่) adj. ศักดิ์สิทธิ์, น่าเคารพ, เคร่งศาสนา, Syn. self-righteous |
holiness | (โฮ'ลิเนส) n. ความศักดิ์สิทธิ์, คำเรียกสันตะปาปา, Syn. piety, sanctity |
holism | (โฮ'ลิสซึม) n. ทฤษฎีความศักดิ์สิทธิ์ |
holy | (โฮ'ลี) adj. ศักดิ์สิทธิ์, เป็นที่เคารพบูชา, เคร่งศาสนา, ใจบุญอย่างยิ่ง, อย่ายิ่ง, เหลือเกิน, น่ากลัว. n. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, สิ่งศักดิ์สิทธิ์, สิ่งศักดิ์สิทธิ์, Syn. pious, consecrated |
holy city | นครศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา, สวรรค์, กรุงเยรูซาเลม |
honor | (ออน'เนอะ) n. เกียรติยศ, ชื่อเสียง, ศักดิ์ศรี, เกียรติศักดิ์, ความเคารพ, ความนับถือ, เหรียญตรา, ปริญญาขั้นเกียรตินิยม. vt. เคารพ, นับถือ, ให้เกียรติแก่กัน, จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงิน |
honorable | (ออน'เนอะระเบิล) เกี่ยวกับเกียรติยศ, น่าเคารพนับถือ, ซื่อตรง, น่าเชื่อถือ, มีหน้ามีตา, มีศักดิ์ศรี., See also: honourableness, honorbleness n., Syn. virtuous, ethical |
honorary | (ออน'นะระรี) adj. เป็นเกียรติ, เป็นเกียรติยศ, เกี่ยวกับกิตติมศักดิ์ |
honoree | (ออนนะรี) n. ผู้ได้รับเกียรติ, ผู้ได้รับรางวัล, ผู้ได้รับเกียรติศักดิ์หรือยศศักดิ์ |
honour | (ออน'เนอะ) n. เกียรติยศ, ชื่อเสียง, ศักดิ์ศรี, เกียรติศักดิ์, ความเคารพ, ความนับถือ, เหรียญตรา, ปริญญาขั้นเกียรตินิยม. vt. เคารพ, นับถือ, ให้เกียรติแก่กัน, จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงิน |
abase | (vt) ลดต่ำ, ถ่อมตัว, น้อม, เสื่อมศักดิ์ |
abasement | (n) การลดตัว, การถ่อมตัว, การน้อม, การเสื่อมศักดิ์ |
consecrate | (vt) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, ถวาย, อุทิศ, ฉลอง |
consecration | (n) การทำให้ศักดิ์สิทธิ์, การถวาย, การอุทิศ |
coronet | (n) มงกุฎเล็ก, ยศ, บรรดาศักดิ์, รัดเกล้า |
dame | (n) สตรีสูงศักดิ์, คุณผู้หญิง, คุณนาย, คุณท้าว, นาง, แม่บ้าน |
desecrate | (vt) ทำให้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์, ทำลายศาสนา, ดูหมิ่นศาสนา |
desecration | (n) การทำให้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์, การทำลายศาสนา, การดูหมิ่นศาสนา |
dignitary | (n) ผู้ทรงเกียรติ, ผู้สูงศักดิ์, ผู้มีฐานันดรศักดิ์ |
dignity | (n) ความสง่างาม, ความสูงศักดิ์, ฐานันดรศักดิ์, ความมีเกียรติ |
divine | (adj) เกี่ยวกับพระเจ้า, เกี่ยวกับเทพเจ้า, ศักดิ์สิทธิ์ |
divinity | (n) ศาสนศาสตร์, พระเจ้า, เทพเจ้า, เทววิทยา, ความศักดิ์สิทธิ์ |
dowager | (n) สตรีหม้ายสูงศักดิ์ |
ennoble | (vt) ทำให้สูงศักดิ์, ทำให้มีศีลธรรม, ทำให้สูงส่ง |
fame | (n) กิตติศัพท์, ชื่อเสียง, เกียรติศักดิ์, ศักดิ์ศรี |
gentlewoman | (n) สุภาพสตรี, หญิงสูงศักดิ์ |
glorification | (n) เกียรติศักดิ์, ชื่อเสียง, การสรรเสริญ, การสดุดี |
hallow | (vt) ทำให้ศักดิ์สิทธิ์, สักการะบูชา, บูชา |
holiness | (n) ความศักดิ์สิทธิ์ |
holy | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, ใจบุญ, เป็นที่เคารพบูชา, เป็นที่สักการะบูชา |
honorary | (adj) กิตติมศักดิ์, ให้เป็นพิเศษ, เป็นเกียรติ |
honour | (n) เกียรติยศ, เกียรติศักดิ์, ชื่อเสียง, เหรียญตรา, เกียรตินิยม |
honourable | (adj) น่าเคารพนับถือ, มีศักดิ์ศรี, มีหน้ามีตา, น่ายกย่อง |
knightly | (adj) แบบขุนนาง, แบบอัศวิน, สูงส่ง, สูงศักดิ์, กล้าหาญ |
lordly | (adj) สง่างาม, หยิ่ง, เลิศ, ใหญ่โต, สูงศักดิ์, สูงส่ง |
noble | (n) พวกผู้ดี, คนสูงศักดิ์, คนชั้นสูง |
nobleman | (n) ขุนนาง, พวกผู้ดี, คนสูงศักดิ์, คนชั้นสูง |
nobleness | (n) ความสง่างาม, ความเป็นผู้ดี, ความสูงศักดิ์ |
nobly | (adv) อย่างสง่างาม, อย่างสูงศักดิ์, ดีเลิศ, มีคุณธรรมสูง |
oracular | (adj) เป็นการพยากรณ์, เป็นการทำนาย, เป็นปริศนา, ศักดิ์สิทธิ์ |
patrician | (n) ขุนนาง, ผู้สูงศักดิ์, ผู้ดี |
prestige | (n) ชื่อเสียง, อิทธิพล, ศักดิ์ศรี, บารมี, รัศมี, เกียรติยศ |
profanation | (n) การดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, การทำลายความบริสุทธิ์ |
profane | (vt) ทำลายความบริสุทธิ์, ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
profanity | (n) ความหยาบคาย, การดูหมิ่น, การทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
sacramental | (adj) ศักดิ์สิทธิ์, เกี่ยวกับศีล |
sacred | (adj) เป็นที่สักการะ, ศักดิ์สิทธิ์, เป็นที่เคารพบูชา |
sacrilege | (n) การล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
sacrilegious | (adj) ซึ่งล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
sainted | (adj) คล้ายนักบุญ, เป็นนักบุญ, ศักดิ์สิทธิ์, มีใจสะอาด |
sanctification | (n) การล้างบาป, การทำให้ศักดิ์สิทธิ์ |
sanctify | (vt) ล้างบาป, ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ |
sanctimonious | (adj) แสดงให้เห็นว่าศักดิ์สิทธิ์ |
sanctity | (n) ความมีศีลธรรม, ความศักดิ์สิทธิ์, ความน่าเคารพบูชา |
sanctuary | (n) ปูชนียสถาน, สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, โบสถ์, วิหาร, ที่ลี้ภัย |
SELF-self-respect | (n) การหยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเอง, ความนับถือตัวเอง |
sepulchre | (n) สุสาน, หลุมศพ, ที่ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
title | (n) ชื่อ, สิทธิความเป็นเจ้าของ, ตำแหน่ง, บรรดาศักดิ์, ชื่อเรื่อง |
unhallowed | (adj) ชั่วช้า, ต่ำช้า, ไม่ศักดิ์สิทธิ์ |
unholy | (adj) ไม่บริสุทธิ์, ชั่วร้าย, เลวทราม, ไม่ศักดิ์สิทธิ์ |