ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*รัฐประหาร*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: รัฐประหาร, -รัฐประหาร-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
รัฐประหาร(n) coup d'etat, See also: overthrow a government, Example: การขึ้นสู่อำนาจของเขานั้นไม่ใช่ได้มาโดยการทำรัฐประหาร แต่ได้มาโดยการส่งเสริมการเคลื่อนไหวของนักศึกษาปัญญาชน, Thai Definition: การใช้กำลังยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
การรัฐประหาร(n) coup d'etat, Syn. การปฏิวัติ, Example: การรัฐประหารทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายมาก, Thai Definition: การใช้กำลังยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
คณะรัฐประหาร(n) coup d'etat council, Example: นักศึกษาเดินขบวนต่อต้านการกระทำของคณะรัฐประหาร, Count Unit: คน, Thai Definition: กลุ่มบุคคลที่ใช้กำลังยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
รัฐประหาร(รัดถะปฺระหาน, รัดปฺระหาน) น. การใช้กำลังเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาลโดยฉับพลัน.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
coup d'état (Fr.)รัฐประหาร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
coup d'état (Fr.)รัฐประหาร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Coups d'etat ; Attempted coupรัฐประหาร [TU Subject Heading]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
As today's chairman of Goodyear knows for corporations to dominate government a coup is no longer necessary.แต่ประธานของบรรษัทกู๊ดเยียร์ในปัจจุบันรู้ดีว่า การจะเข้าไปครอบงำรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องใช้การรัฐประหารอีกต่อไป The Corporation (2003)
The army's taking over. There is a coup.เพิ่งจะมีรัฐประหารค่ะ The Last King of Scotland (2006)
- A coup?- รัฐประหารรึ? The Last King of Scotland (2006)
Overpopulation, global warming, drought, famine, terrorism.ประชากรล้นโลก ภาวะโลกร้อน ความแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง รัฐประหาร Chapter Four 'Collision' (2006)
No, we can hardly be expected to do something about a coup we know nothing aboutเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับการรัฐประหารที่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย Quantum of Solace (2008)
We negotiated with the revolutionaries, Dictators or coup, that if the current president was more accessible, it would not be talking to you.เราทำงานร่วมกับคณะปฎิวัตื เผด็จการ หรือแม้แต่พวกคณะรัฐประหาร ดังนั้นถ้าหากประธานาธิบดีคนปัจจุบันยอมที่จะทำตามข้อเสนอเรา เราก้อคงไม่มีความจำเป็นต้องมาคุยกัน Quantum of Solace (2008)
And there will be a coup d'etat in North as planned.และจะมีการทำรัฐประหารที่เกาหลีเหนือตามแผน Airiseu: Deo mubi (2010)
Please return to North and stop the coup d'etat.กรุณาไปที่เกาหลีเหนือและหยุดรัฐประหาร Airiseu: Deo mubi (2010)
Michael Jackson's funeral is on 24 hours a day, and nobody finds out about the coup in Honduras.- ไมเคิล แจ็คสัน งานศพของเขาถูกรายงาน ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่มีใครสนใจ ไปค้นหาความจริง การรัฐประหารในฮอนดูรัส The Couple in the Cave (2010)
Coup d'état. The Ring is taking over the CIA and the NSA.รัฐประหาร เดอะริงครอบคลุมทั้ง CIA และ NSA Chuck Versus the Ring: Part II (2010)
I cannot believe that there was a coup on my babymoon.พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะเกิดการรัฐประหารนี้ขึ้นในวันเบบี้มูน Chuck Versus the Coup d'Etat (2010)
I mean, I knew things had cooled over the years between Hortencia and myself, but a coup d'état?ฉันรู้ว่าสิ่งต่างๆมันลดน้อยลง มาหลายปีระหว่างฉันกับฮอเต็นเซีย แต่การรัฐประหารนี่ล่ะ Chuck Versus the Coup d'Etat (2010)
Good way to start a coup.วิธีที่ดีในการเริ่มรัฐประหาร Coup de Grace (2011)
Late in the war, there was a coup.ในช่วงปลายสงครามมีการทำรัฐประหาร Lange, H. (2011)
The prime Minister in exile!การทำรัฐประหาร! Geography of Global Conflict (2011)
You can't play the grieving widow and the leader of a coup at the same time.เหลวไหล คุณไม่มีทางเล่นบทแม่ม่ายผู้โศกา พร้อมกับบทหัวหน้ารัฐประหารได้หรอก In the Beginning (2012)
A 2008 coup attempt plunged them into political instability.ปี 2008 มีการพยายามทำรัฐประหาร ทำให้การเมืองไม่มั่นคง Hit (2012)
A coup?การทำรัฐประหาร? Elysium (2013)
Are you suggesting a coup?คุณบอกทำรัฐประหาร? Elysium (2013)
What if this were even a coup d'état?ถ้านี้แม้รัฐประหาร? White House Down (2013)
Well, just consider this a coup d'état. Get this trash off my lawn.ดีเพียงพิจารณานี้รัฐประหาร ได้รับถังขยะนี้ออกจากสนามหญ้าของฉัน White House Down (2013)
I thought your little pet had staged a coup d'etat.ฉันคิดว่า สัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเเกเล่นบททำรัฐประหารอยู่น่ะ Salvation (2013)
Showing up here with Changnesia after you staged a coup, almost blew up the school, and locked me in a basement for months!เสนอหน้ามาที่นี่พร้อมเรื่องแชงนีเชีย หลังจากก่อรัฐประหาร เกือบจะระเบิดวิทยาลัย Alternative History of the German Invasion (2013)
Presently in the business of toppling governments.ตอนนี้ทำธุรกิจด้านการรัฐประหาร Ant-Man (2015)
There was a coup in Georgia.มีรัฐประหารในจอร์เจีย The Six Thatchers (2017)
Then she was taken hostage in that coup.แต่เธอถูกจับเป็นตัวประกันในรัฐประหารตอนนั้น The Six Thatchers (2017)
That a coup is being articulated.ว่ารัฐประหารจะต้องเกิดแน่นอน
The idea that the protagonists of this coup are a weird mix of PMDB and PSDB, with high dosages of evangelicalism.ไอเดียที่ว่าแกนนำในการรัฐประหารครั้งนี้ เป็นส่วนผสมที่ประหลาดมากจากสองพรรคใหญ่ แถมด้วยความหมกมุ่น ในคำสอนของพระเจ้าแบบเต็มเปี่ยม
It's a coup d'etat.นี่คือ รัฐประหาร Inostranka (2011)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
รัฐประหาร[ratthaprahān] (n, exp) EN: coup ; coup d'état  FR: coup d'état [ m ] ; renversement du pouvoir [ m ]
รัฐประหาร[ratthaprahān] (v, exp) EN: make a coup d'état ; overthrow a government  FR: accomplir un coup d'état ; renverser le gouvernement

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
coup(n) รัฐประหาร, See also: ปฏิวัติ, Syn. revolution, overthrow
coup d'etat(n) การรัฐประหาร, See also: การชิงอำนาจ, การปฏิวัติ, Syn. putsch, takeover

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
coup(คู) n. การดำเนินการอย่างกะทันหัน, การกระทำที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก, รัฐประหาร -pl. coups
coup d'etat(คูเดทา') n. รัฐประหาร -pl. coups d'etat
junta(จัน'ทะ) n. กลุ่มเล็ก ๆ ที่บริหารประเทศ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการรัฐประหารและก่อนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ) , สภาการเมือง, คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเอง, Syn. clique

English-Thai: Nontri Dictionary
COUP D'coup d'etat(n) รัฐประหาร
coup(n) การตี, การทำรัฐประหาร

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
nla(abbrev, name, org) สนช. ย่อมาจากคำว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เกิดขึ้นจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร(19 กันยายน 2548)โดยภาษาอังกฤษคำเต็มคือ National Legislative Assembly

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top