ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*ว่าน*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ว่าน, -ว่าน-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
จากวาก(name) น. นกพวกเป็ดน้ำ ทางนิยายว่านกชนิดนี้ตัวผู้ต้องพรากตัวเมียในเวลาค่ำ จึงบินร้องหากัน, บางทีเรียก จากพราก หรือ จากวาก (เหมือน จักรพาก).
ฌาณ(n) ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ว่าน(n) general name for sedges, flags, orchids, hemp, and herbs, Example: นอกจากเลี้ยงนกแล้ว ผมยังเลี้ยงปลากัด ปลูกบอน ว่าน ตะโก ดัดข่อย ดัดบัวใส่ตุ่มด้วย, Count Unit: ต้น, Thai Definition: ชื่อพรรณไม้จำพวกหนึ่ง มีหัวบ้างไม่มีหัวบ้าง อยู่ในจำพวกหญ้าและต้นไม้
ว่าน(n) bureaucrat, See also: lord, peer, nobility, Syn. ขุนนาง, กวาน, Count Unit: คน, นาย
ว่าน(n) drill, See also: gimlet, wimble, Example: ช่างไม้กำลังใช้สว่านเจาะกำแพงเพื่อแขวนตะปู, Count Unit: ตัว, Thai Definition: เครื่องมือช่างไม้ปลายเป็นเกลียวแหลมสำหรับเจาะไช
ว่าน(v) sow, See also: scatter, Syn. โปรย, โรย, Example: ชาวนาเริ่มหว่านข้าวเมื่อต้นฤดูฝน และเก็บเกี่ยวภายหลังฤดู, Thai Definition: โปรย, ทำให้กระจาย
นาหว่าน(n) paddy-sown field, Ant. นาปัก, นาดำ, Example: ในนาหว่านจะมีวัชพืชมากกว่านาดำ, Count Unit: แปลง, Thai Definition: นาชนิดที่ใช้วิธีหว่านเมล็ดข้าวลงในนา
การหว่าน(n) sowing, See also: scattering, spreading, Syn. การโปรย, Example: เมื่อวานนี้เราไปดูการสาธิตการหว่านเมล็ดข้าวที่ฉะเชิงเทรา, Thai Definition: การทำให้กระจาย, เช่น หว่านข้าว
ควงสว่าน(v) spin down, Example: เครื่องบินควงสว่านตกลงมายังพื้นดินเสียงดั่งลั่น, Thai Definition: อาการที่หมุนเหมือนเกลียวสว่าน
ว่านล้อม(v) persuade, See also: cajole, coax, induce, influence, Syn. ชักชวน, ชักจูง, โน้มน้าว, Example: เขาหว่านล้อมให้เราเห็นดีเห็นงามไปด้วย
ว่านล้อม(v) convince, See also: persuade somebody to believe, sway, influence, induce, Syn. ชักชวน, ชักจูง, โน้มน้าว, Example: เขาหว่านล้อมให้เราเห็นดีเห็นงามไปด้วย
ยิ่งกว่านั้น(conj) moreover, See also: furthermore, Syn. อีกทั้ง, Example: ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ยิ่งกว่านั้นยังมีแคลอรี่น้อยเหมาะกับคนที่ควบคุมน้ำหนัก
ว่านอนสอนง่าย(adj) obedient, See also: docile, biddable, submissive, pliant, Syn. หัวอ่อน, ว่าง่าย, Ant. ดื้อ, ดื้อด้าน, ดื้อดึง, Example: แค่มีลูกเป็นคนว่านอนสอนง่ายก็นับว่าโชคดีแล้ว, Thai Definition: ที่อยู่ในโอวาท
ว่านอนสอนง่าย(v) be obedient, See also: be docile, be biddable, be submissive, be pliant, Syn. หัวอ่อน, ว่าง่าย, Ant. ดื้อ, ดื้อด้าน, ดื้อดึง, Example: เด็กสมัยก่อนว่านอนสอนง่ายกว่าเด็กสมัยนี้เยอะ, Thai Definition: อยู่ในโอวาท
ยิ่งไปกว่านั้น(conj) in addition, See also: moreover, besides, Syn. นอกจากนั้น, Thai Definition: นอกเหนือไปจากนั้น

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
กวาน, กว่าน(กฺวาน, กฺว่าน) น. ขุนนาง เช่น แล้วบัญชาสั่งเสียพวกเพี้ยกวาน ให้ไปเชิญสองท่านแม่ทัพใหญ่ (ขุนช้างขุนแผน), เพลี้ยกว่านบ้านท้าวไข้ ข่าวสยวน (ยวนพ่าย).
กว้าน ๑(กฺว้าน) น. ตึกแถวชั้นเดียว ส่วนใหญ่เป็นร้านค้า, มักใช้เข้าคู่กับคำ ตึก เป็น ตึกกว้าน เช่น เรือนริมรัถยาฝากระดาน ตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง (อิเหนา).
กว้าน ๒(กฺว้าน) น. เครื่องสำหรับฉุด ดึง และยกของหนัก.
กว้าน ๒(กฺว้าน) ก. ฉุดด้วยกว้าน, ขันกว้าน ก็เรียก
กว้าน ๒รวบรวมซื้อจากที่ต่าง ๆ มาไว้เป็นจำนวนมาก เช่น กว้านสินค้ามากักตุนไว้ กว้านซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร.
กว๊าน(กฺว๊าน) น. บึงขนาดใหญ่.
ขันกว้าน(-กฺว้าน) ก. ฉุดด้วยกว้าน, กว้าน ก็เรียก.
ควงสว่าน(-สะหฺว่าน) ก. อาการที่หมุนเหมือนเกลียวสว่าน เช่น เครื่องบินควงสว่าน.
คว้าน้ำเหลวก. ไม่ได้ผลตามต้องการ.
คว้าน(คฺว้าน) ก. เอาสิ่งที่มีคมแหวะให้กว้าง, แขวะให้เป็นช่องเพื่อเอาส่วนข้างในออก เช่น คว้านผลมะปราง คว้านไส้, ทำให้กว้าง เช่น คว้านคอเสื้อ.
คว้านท้องก. ฆ่าตัวตายแบบญี่ปุ่น โดยใช้มีดแทงที่ท้องแล้วคว้าน.
แต่งกว้านก. ตรวจจัดราชการ.
นาหว่านน. นาชนิดที่หว่านเมล็ดข้าวลงในนา.
เพี้ยกวาน, เพี้ยกว้านน. ตำแหน่งข้าราชการหัวเมืองสมัยโบราณทางล้านนาและล้านช้าง.
มีดคว้านน. มีดขนาดเล็ก ใบมีดรูปยาวรีคล้ายใบหญ้า มักทำด้วยทองเหลือง ปลายแหลมโค้งเล็กน้อย ด้ามมักทำด้วยไม้หรือเขาสัตว์ ใช้ปอก จัก คว้านผลไม้.
ยิ่งกว่านั้นว. มากกว่านั้น.
ลมสว้าน(-สะว่าน) ก. ลมแดกขึ้นอันเป็นอาการของไข้หนักจวนจะสิ้นใจ.
เลือดข้นกว่าน้น. ญาติพี่น้องย่อมดีกว่าคนอื่น.
ว่าง่าย, ว่านอนสอนง่ายก. อยู่ในโอวาท, เชื่อฟังคำสั่งสอนโดยดี.
ว่านน. ชื่อเรียกพืชบางชนิดที่มีหัวบ้าง ไม่มีหัวบ้าง ใช้ทำยาบ้าง หรือเชื่อกันว่าทำให้อยู่ยงคงกระพันและเป็นสิริมงคล เช่น ว่านนางล้อม ว่านเสน่ห์จันทร์แดง.
ว่านกาบหอยน. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Tradescantia spathacea Sw. ในวงศ์ Commelinaceae ลำต้นตั้งตรงอวบน้ำ ใบยาว ด้านบนสีเขียวเข้ม ด้านล่างสีม่วงแดง ช่อดอกออกที่ง่ามของลำต้น ซึ่งมีกาบรูปเรือ ๒ อันหุ้มอยู่ ดอกมีจำนวนมาก สีขาว ก้านสั้น ใช้ทำยาได้, กาบหอยแครง หรือ ว่านหอยแครง ก็เรียก.
ว่านกีบม้า, ว่านกีบแรดดู กีบแรด.
ว่านไก่ไห้ดู ไก่ไห้ (๒).
ว่านงาช้างดู งาช้าง ๑ (๒).
ว่านธรณีสารดู ธรณีสาร ๒.
ว่านนางกวักดู นางกวัก ๒.
ว่านนางล้อมดู นางล้อม.
ว่านน้ำน. ชื่อไม้ล้มลุก ๒ ชนิด ในสกุล Acorus วงศ์ Araceae คือ A. calamus L., พายัพเรียก กะส้มชื่น และ A. gramineus Sol. ex Aition ชอบขึ้นอยู่ในที่ชื้นแฉะ เหง้ามีกลิ่นฉุนแรง.
ว่านน้ำเขาดู ป้างป่า.
ว่านพระฉิมดู กลิ้งกลางดง.
ว่านพระฉิมดู ข้าวข้า.
ว่านเพชรหึงดู เพชรหึง ๒.
ว่านมหากาฬดู มหากาฬ ๒.
ว่านมหานิลดู มหานิล ๒.
ว่านมหาเมฆน. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Curcuma aeruginosa Roxb. ในวงศ์ Zingiberaceae ลักษณะคล้ายต้นกระชาย ขณะออกดอกไม่มีใบ ช่อดอกตั้ง ดอกสีเหลือง อยู่ระหว่างใบประดับสีขาวซึ่งมีปลายสีชมพู ใช้ประกอบอาหารได้, พายัพเรียก ดอกอาว.
ว่านมีดยับน. ว่านหางช้าง. [ ดู หางช้าง (๑) ].
ว่านเสน่ห์จันทร์ขาวดู เสน่ห์จันทร์ขาว.
ว่านเสน่ห์จันทร์แดงดู เสน่ห์จันทร์แดง.
ว่านหอมแดงดู หอมแดง.
ว่านหอยแครงดู ว่านกาบหอย.
ว่านหางช้างดู หางช้าง (๑).
ว่านเครือน. เชื้อสาย, เหล่ากอ, มักใช้เข้าคู่กับคำ วงศ์วาน เป็น วงศ์วานว่านเครือ.
ว่าน(สะหฺว่าน) น. เครื่องมือช่างไม้ปลายเป็นเกลียวแหลมสำหรับเจาะไช มี ๒ ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเป็นเหล็กปลายเป็นเกลียวแหลมในตัวสำหรับเจาะไชสิ่งเล็ก ๆ หรือบาง ๆ อีกชนิดหนึ่งมีรูปร่างคล้ายลูกดาล ๒ อันต่อกัน ปลายด้านบนมีแป้นสำหรับมือกด ตรงกลางมีที่สำหรับมือจับหมุนให้ดอกสว่านซึ่งสวมติดกับปลายอีกด้านหนึ่งเจาะไชสิ่งที่ค่อนข้างใหญ่หน้าหนา.
สว้าน(สะว่าน) ก. อาการที่ลมในท้องดันขึ้นมา เป็นอาการของไข้หนักจวนจะสิ้นใจ.
ว่านก. โปรย เช่น หว่านทาน, สาดให้กระจาย, เช่น หว่านข้าวเปลือก, โดยปริยายหมายความว่า แจกจ่ายไปทั่ว ๆ เช่น หว่านเงิน.
ว่านพืชหวังผลก. ให้ผลประโยชน์แก่ผู้อื่นเพื่อหวังผลตอบแทน.
ว่านล้อมว. ตะล่อมเข้ามาตามที่ต้องการ (มักใช้แก่กริยาพูด) เช่น พูดหว่านล้อม เจรจาหว่านล้อม.
กบิล ๒บรรดา เช่น กบิลว่าน, คำนี้บางทีเขียนเป็น กะบิล กระบิล ระบิล.
กรรโชก(กัน-) น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น.
กระจายหางดอกน. ชื่อว่านชนิดหนึ่ง ต้นและใบดังเถาผักบุ้งเทศ แต่ไม่มีหัว มีดอกและฝักอย่างผักบุ้งเทศ เชื่อกันว่าว่านชนิดนี้ใช้เมล็ดตำละลายกับเหล้าแก้พิษเสือ พิษจระเข้ และพิษสุนัขบ้า.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
a fortiori (L.)ยิ่งกว่านั้น, ยิ่งขึ้นอีก [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
inseminationการหว่านเมล็ด [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Atomic massมวลเชิงอะตอม, อัตราส่วนของมวลเฉลี่ยต่ออะตอมของธาตุใด ๆ ต่อ 1/12 ของมวลคาร์บอน-12 หนึ่งอะตอม แต่เดิมใช้คำว่าน้ำหนักเชิงอะตอม (atomic weight, A) เช่น มวลเชิงอะตอมของคลอรีน เท่ากับ 35.5 หมายถึง คลอรีน 1 อะตอม หนักเป็น 35.5 เท่าของ 1/12 ของมวลคาร์บอน-12 หนึ่งอะตอม, Example: [นิวเคลียร์]
Decay chainลูกโซ่การสลายกัมมันตรังสี , อนุกรมของนิวไคลด์ที่เริ่มต้นจากนิวไคลด์กัมมันตรังสีที่เรียกว่านิวไคลด์แม่ สลายตัวเป็นนิวไคลด์ลำดับต่อ ๆ กันไป ที่เรียกว่านิวไคลด์ลูก จนถึงผลผลิตสุดท้ายที่เป็นนิวไคลด์เสถียร [นิวเคลียร์]
Epithermal neutronเอพิเทอร์มัลนิวตรอน, นิวตรอนที่มีพลังงานสูงกว่าเทอร์มัลนิวตรอนแต่ต่ำกว่านิวตรอนเร็ว มีพลังงานในช่วง 0.5 อิเล็กตรอนโวลต์ ถึง 1 แสนอิเล็กตรอนโวลต์ คำนี้มีความหมายเหมือนกับ intermediate neutron [นิวเคลียร์]
Radioactive seriesอนุกรมกัมมันตรังสี, อนุกรมของนิวไคลด์ที่เริ่มต้นจากนิวไคลด์กัมมันตรังสีที่เรียกว่านิวไคลด์แม่ สลายตัวเป็นนิวไคลด์ลำดับต่อ ๆ กันไป ที่เรียกว่านิวไคลด์ลูก จนถึงผลผลิตสุดท้ายที่เป็นนิวไคลด์เสถียร <br> (ดู decay, radioactive ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์]
Nucleiนิวคลีไอ, พหูพจน์ของคำว่านิวเคลียส [นิวเคลียร์]
Intermediate neutronอินเทอร์มีเดียตนิวตรอน, นิวตรอนที่มีพลังงานสูงกว่าเทอร์มัลนิวตรอนแต่ต่ำกว่านิวตรอนเร็ว มีพลังงานในช่วง 0.5 อิเล็กตรอนโวลต์ ถึง 1 แสนอิเล็กตรอนโวลต์ คำนี้มีความหมายเหมือนกับ intermediate neutron [นิวเคลียร์]
Aloe veraว่านหางจระเข้ [TU Subject Heading]
Augersว่าน [TU Subject Heading]
Fertilizer spreadersเครื่องหว่านปุ๋ย [TU Subject Heading]
Sowingการหว่านเมล็ด [TU Subject Heading]
Consulข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต]
Consular Fees and Chargesค่าธรรมเนียมและค่าภาระทางกงสุล ตามข้อ 39 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ได้กำหนดไว้ว่า1. สถานที่ทำการทางกงสุล อาจเรียกเก็บในอาณาเขตของรัฐผู้รับ สำหรับการปฏิบัติงานทางกงสุลซึ่งค่าธรรมเนียม ค่าภาระตามที่ได้บัญญัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง2. จำนวนเงินที่เก็บได้ในรูปค่าธรรมเนียมและค่าภาระตามที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ ใบรับสำหรับค่าธรรมเนียมหรือค่าภาระเช่นว่านั้น จะได้รับยกเว้นจากค่าติดพันและภาษีทั้งปวงในรัฐผู้รับ [การทูต]
Consular office Declared ?Non grata?เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต]
Departure of Diplomatic Agentsการออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต]
Diplomatic Pouchถุงเมล์ทางการทูตที่บรรจุหนังสือโต้ตอบทางราชการ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาล กับสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ใน ต่างประเทศ ถุงเมล์ทูตจะถูกปิดประทับตราของทางราชการ และผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจไม่ได้ คือได้รับการละเว้นจากการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้นเรื่องถุงเมล์ทางการทูตนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ว่า?1. ในรัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ทั้งมวลในการติดต่อกับคณะรัฐบาลและกับคณะผู้แทน และสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางเหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้สื่อสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการทูตของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการทูตหมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงเมล์ทางการทูตจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูตจะต้องมีเครื่องหมายติดไว้ภายนอกที่เห็น ชัดเจน แสดงลักษณะของถุงทางการทูตและอาจบรรจุเอกสารหรือสิ่งของทางการทูต ซึ่งได้เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่านั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการ แสดงสถานภาพของตนและจำนวนหีบห่อ ซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ในกรณีที่ ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการ แสดงจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุง แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางการทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรงและโดย เสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน?คำว่าถุงทางการทูตนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกว่า ?Diplomatic bag? ส่วนในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า ?Valise Diplomatique? [การทูต]
Duration of Diplomatic Privileges and Immunitiesระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต]
Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articlesการยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต]
Exequaturคำนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า ?let him perform? เป็นหนังสือหรืออนุมัติบัตรแสดงการรับรองผู้ที่ดำรงตำแหน่งกงสุลโดยประมุข หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐซึ่งกงสุลผู้นั้นได้ถูกส่งไป ประจำ Exequatur เป็นอนุมัติบัตรที่มอบให้กงสุล แสดงว่ามีอำนาจที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ของกงสุลทั้งหมด สามารถเป็นหลักฐานที่ใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นภายในเขตอาณัติของกงสุล ด้วย รัฐที่ปฏิเสธไม่ออก Exequatur ให้นั้น ไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลแก่รัฐผู้ส่งว่าเพราะเหตุผลใดจึงปฏิเสธ ในเรื่องนี้ข้อ 12 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลได้บัญญัติไว้ว่า?1. หัวหน้า สถานที่ทำการทางกงสุล จะเข้าปฏิบัติการหน้าที่ของตนได้ โดยอนุมัติจากรัฐผู้รับเรียกว่า อนุมัติบัตรไม่ว่าการให้อนุมัติจะเป็นไปในรูปใดก็ตาม 2. รัฐซึ่งปฏิเสธไม่ให้อนุมัติบัตรไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการปฏิเสธ เช่นว่านั้นแก่รัฐผู้ส่ง 3. ภายในข้อบังคับแห่งบทของข้อ 13 และ 15 หัวหน้าสถานที่ทำการทางกงสุลจะไม่เข้ารับหน้าที่ของตนจนกว่าจะได้รับอนุมัติ บัตรแล้ว? [การทูต]
Freedom of Communicationเสรีภาพในการติดต่อและสื่อสาร ถือเป็นสิทธิทางกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงเอกสิทธิ์เท่านั้น) ที่สำคัญอันหนึ่งของนักการทูตย่อมจะเห็นได้ชัดว่า คณะทูต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างพึงพอใจ นอกจากจะมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการที่จะมีหนังสือหรือวิถีทางอื่นๆ เพื่อติดต่อกับรัฐบาลของตน หรือจะส่งและรับจดหมาย หรือหนังสือต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ถือสารพิเศษ หรือโดยถุงทางการทูต (Diplomatic pouch) สำหรับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ดังนี้?1. ให้รัฐผู้รับอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ในทางการทั้งมวลเพื่อการติดต่อกับรัฐบาล และกับคณะผู้แทนและสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่ง ไม่ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางที่เหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้ถือสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการ หมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงทางการทูต (Diplomatic Pouch) จะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูต จะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ชัดเจน สามารถแสดงลักษณะของถุงทางการทูต ซึ่งอาจบรรจุเพียงเอกสารหรือสิ่งของทางการทูตที่เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่า นั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการแสดงสถานภาพของตน และจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ ในกรณีที่ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการแสดงจำนวนหีบห่อซึ่ง รวมเป็นถุง แต่ไม่ใช่ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรง และโดยเสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน? [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Multiple Representationคือการเป็นตัวแทนประจำประเทศต่าง ๆ มากกว่าหนึ่งแห่ง ตามหลักทั่วไป รัฐหนึ่งจะแต่งตั้งบุคคลหนึ่งให้ไปประจำเพียงรัฐเดียวในตำแหน่งเอกอัคร ราชทูต แต่มาในทุกวันนี้ เนื่องจากงบประมาณของประเทศมีจำกัด จึงเป็นธรรมเนียมแพร่หลายที่จะตั้งให้เอกอัครราชทูตคนเดียวไปประจำปลาย ประเทศได้ในเวลาเดียวกัน ยกเว้นแต่ว่ารัฐผู้รับหนึ่งใดจะแสดงการคัดค้านอย่างแจ้งชัดเอกอัครราชทูตคน เดียวกัน ซึ่งไปประจำอยู่หลายประเทศนั้น จะมีถิ่นพำนักถาวร (Permanent Residence) อยู่ในนครหลวงของเพียงประเทศหนึ่ง ส่วนในประเทศที่เหลือที่เขาเป็นเอกอัครราชทูตประจำอยู่ด้วยนั้น เขาไปพำนักอยู่เพียงระยะเวลาจำกัดเป็นพัก ๆ รัฐผู้ส่งจะมีคณะผู้แทนทางการทูตของตนไปประจำ ณ นครหลวงของแต่ละประเทศเหล่านั้น ตัวหัวหน้าคณะแต่ละแห่งจะมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Charge d? Affaires ad interim)เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 5 ดังนี้ ?1. หลังจากที่ได้บอกกล่าวแก่รัฐผู้รับที่เกี่ยวข้องตามสมควรแล้ว นอกจากจะมีการคัดค้านอย่างชัดแจ้งโดยรัฐผู้รับรัฐใดรัฐหนึ่ง รัฐผู้ส่งอาจแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้แทน หรือแต่งตั้งบุคคลใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการทูตแล้วแต่กรณี ไปยังมากกว่ารัฐหนึ่งก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้แทนไปยังรัฐอื่นหนึ่งรัฐหรือมากกว่านั้น รัฐผู้ส่งอาจสถาปนาคณะผู้แทนทางการทูตโดยมีอุปทูตชั่วคราวเป็นหัวหน้าในแต่ ละรัฐที่หัวหน้าคณะผู้แทนไม่มีที่นั่งทำงานของตนเป็นประจำก็ได้ 3. หัวหน้าคณะผู้แทน หรือบุคคลใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการทูตของคณะผู้แทน อาจกระทำการในฐานะเป็นผู้แทนของรัฐผู้ส่งในองค์การระหว่างประเทศใดก็ได้" [การทูต]
North Atlanitc Treaty Organizationองค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต]
Pacific Settlement of International Disputesหมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต]
Persona non grataเป็นศัพท์ที่ใช้กับนักการทูตหรือผู้แทนทางการทูต ที่ประจำอยู่ในประเทศซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นไม่ปรารถนาให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้ไปประจำทำงานในตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้น หรือก่อนหน้าที่นักการทูตผู้นั้นจะเดินทางไปถึงดินแดนของประเทศผู้รับ (Receiving State) นักการทูตที่ถูกประกาศเป็น persona non grata หรือ บุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ กล่าวคำดูหมิ่นรัฐบาลของประเทศที่ตนไปประจำอยู่ ละเมิดกฎหมายของบ้านเมืองนั้น แทรกแซงในการเมืองภายในของเขา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของเขา ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวต่อประเทศนั้น วิพากษ์ประมุขแห่งประเทศของเขากระทำการอันเป็นที่เสียหายต่อประโยชน์หรือต่อ ความมั่นคงของประเทศ และกระทำการอื่น ๆ ในทำนองนั้นตามปกติรัฐบาลของประเทศเจ้าภาพที่เป็นฝ่ายเสียหายจะขอร้องให้ รัฐบาลผู้ส่ง (Sending government) เรียกตัวนักการทูตผู้กระทำผิดกลับประเทศ ซึ่งตามปกติรัฐบาลผู้ส่งมักจะปฏิบัติตาม รัฐบาลของประเทศผู้เสียหายจะแจ้งให้นักการทูตผู้นั้นทราบว่า รัฐบาลจะไม่ทำการติดต่อเกี่ยวข้องเป็นทางการกับเขาอีกต่อไป หรืออาจจะบอกให้นักการทูตผู้นั้นออกไปจากประเทศโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใดก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 9 ดังต่อไปนี้ ?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ และโดยมิต้องชี้แจงถึงการวินิจฉัยของตนว่า หัวหน้าคณะผู้แทนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่พึงโปรด หรือว่าบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ของคณะผู้แทนเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีใดเช่นว่านี้ ให้รัฐผู้ส่งเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นกับคณะผู้แทนเสียก็ได้ตามที่เหมาะสมบุคคลอาจจะ ถูกประกาศให้เป็นผู้ไม่พึงโปรด หรือไม่พึงยอกรับได้ก่อนที่จะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธ หรือไม่นำพาภายในระยะเวลาอันสมควร ที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันของคนภายใต้วรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับสามารถปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นว่าเป็นบุคคล ในคณะผู้แทนก็ได้? [การทูต]
Persons Entitled to Diplomatic Privileges and Immunitiesบุคคลทีมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้ม ครองกันทางการทูต มาตรา 37 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ว่า ?1. คนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ระบุไวในข้อ 29 ถึง 36 2. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการของคณะผู้แทน รวมทั้งคนในครอบครัวของตน ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตน ตามลำดับ ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ระบุไว้ในข้อ 29 ถึง 35 เว้นแต่ว่าความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่งและทางปกครองของรัฐผู้รับ ที่ได้ระบุไว้ในวรรค 1 ของข้อ 31 นั้น ไม่ให้ขยายไปถึงการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปเกินภารกิจหน้าที่ของตน ให้บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการได้อุปโภคเอกสิทธิ์ ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 36 วรรค 1 ในส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งของที่ได้นำเข้าเมื่อเข้ารับหน้าที่ครั้งแรกด้วย 3. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการของคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้ รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับให้ได้อุปโภคความคุ้มกัน ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่ตน การยกเว้นจากค่าภาระผูกพันรวมทั้งภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่ตนได้รับโดยเหตุผล จากการรับจ้างของตน และการยกเว้นที่ได้บรรจุไว้ในข้อ 33 4. คนรับใช้ส่วนตัวของบุคคลในคณะผู้แทน ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ประจำในรัฐผู้รับ ให้ได้รับการยกเว้นจากค่าภาระผูกพัน หรือภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่เขาได้รับโดยเหตุผลจากการรับจ้างของตนในส่วน อื่น คนรับใช้ส่วนตัวเช่นว่านี้ อาจได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเท่าที่รัฐผู้รับยอมให้เท่านั้น อย่างไรก็ดี รัฐผู้รับต้องใช้อำนาจของตนเหนือบุคคลเช่นว่านี้ ในการที่จะไม่แทรกสอดโดยไม่สมควรในการปฏิบัติการหน้าที่ของคณะผู้แทน [การทูต]
Sanctionsการบังคับตามกฎระหว่างประเทศ หมายถึงการที่หลาย ๆ ชาติได้ลงมติใช้มาตรการบังคับหรือจูงใจพร้อม ๆกันเพื่อบังคับให้ชาติหนึ่งที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทำการยับยั้ง (Desist) หรือยินยอมให้มีการชี้ขาดตัดสิน (Adjudication) หรือกล่าวอย่างสั้น ๆ แซ็งชั่นก็คือ หนทางที่บังคับพันธกรณีทางกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายเรื่องแซ็งชั่นนี้ กฎบัตรสหประชาชาติได้กล่าวไว้ในบทที่ 7 ข้อ 41 และ 42 มีข้อความดังนี้ ?ข้อ 41 คณะมนตรีความมั่นคงอาจวินิจฉัยว่า จะต้องใช้มาตรการอันใดอันไม่มีการใช้กำลังอาวุธ เพื่อยังผลให้เกิดแก่คำวินิจฉัยของคณะมนตรี และอาจเรียกร้องให้สมาชิกแห่งสหประชาชาติใช้มาตรการเช่นว่านั้น มาตรการเหล่านี้อาจรวมถึงการตัดสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการคมนาคมทางรถไฟ ทางทะเล ทางอากาศ ทางไปรษณีย์โทรเลข ทางวิทยุ และวิถีทางคมนาคมอย่างอื่นโดยสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วน และการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อ 42 หากคณะมนตรีความมั่นคงพิจารณาเห็นว่ามาตรการที่บัญญัติไว้ในข้อ 41 น่าจะไม่เพียงพอ หรือได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ คณะมนตรีก็อาจดำเนินการใช้กำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้ หรือสถาปนากลับคืนมาซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การดำเนินการเช่นว่านี้ อาจรวมถึงการแสดงแสนยานุภาพ การปิดล้อม และการปฏิบัติอย่างอื่นโดยกำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินของบรรดาสมาชิกแห่งสหประชาชาติ [การทูต]
Security Council of the United Nationsคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต]
Voting Procedure in the United Nationsวิธีการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในเรื่องนี้ สมาชิกแต่ละประเทศมีคะแนนเสียง 1 คะแนน ข้อมติของสมัชชาในปัญหาสำคัญ (Important Questions) จะกระทำโดยถือคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียง ที่เรียกว่าปัญหาสำคัญนั้นได้แก่ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การเลือกตั้งสมาชิกไม่ประจำของคณะมนตรีความมั่นคง การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีเศรษฐกิจและการสังคม การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีภาวะทรัสตี การรับสมาชิกใหม่ของสหประชาชาติ การงดใช้สิทธิและเอกสิทธิแห่งสมาชิกภาพ การขับไล่สมาชิก ปัญหาการดำเนินงานของระบบภาวะทรัสตี และปัญหางบประมาณ คำวินิจฉัยปัญหาอื่น ๆ รวมทั้งการกำหนดประเภทแห่งปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เพิ่มเติมนั้น จัดกระทำโดยอาศัยคะแนนเสียงข้างมากของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียงอนึ่ง ในการเลือกตั้งผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจักต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute majority) ในที่ประชุมของสมัชชาและในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงด้วย นอกจากนี้สมาชิกสหประชาชาติที่ค้างชำระค่าบำรุงแก่องค์การ ย่อมไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในสมัชชา ถ้าหากจำนวนเงินที่ค้างชำระเท่าหรือมากกว่าจำนวนเงินค่าบำรุงที่ถึงกำหนด ชำระสำหรับ 2 ปีเต็มที่ล่วงมา อย่างไรก็ตาม สมัชชาอาจอนุญาตให้สมาชิกเช่นว่านั้นลงคะแนนเสียงก็ได้ ถ้าทำให้เป็นที่พอใจได้ว่า การไม่ชำระนั้น เนื่องมาจากภาวะอันอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของสมาชิกนั้น [การทูต]
ดัชนีความหนืดดัชนีความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นเป็นตัวบ่งชี้ว่าน้ำมันหล่อลื่นชนิดนี้จะมี ความหนืดเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิอย่างไร ถ้าน้ำมันหล่อลื่นมีค่าดัชนีความหนืดมาก แสดงว่าน้ำมันหล่อลื่นชนิดนี้ความหนืดจะเปลี่ยนแปลงน้อยเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน ในขณะที่น้ำมันหล่อลื่นที่มีค่าดัชนีความหนืดต่ำ แสดงว่าน้ำมันหล่อลื่นชนิดนั้น ความหนืดจะเปลี่ยนแปลงมากเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน น้ำมันที่มีดัชนีความหนืดสูงจะเป็นน้ำมันคุณภาพดี สามารถใช้งานได้ดี แม้มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมาก [ปิโตรเลี่ยม]
Mechanical stability timeความเสถียรเชิงกลของน้ำยาง หมายถึง ความเสถียรของน้ำยางต่ออิทธิพลทางกล เช่น การกวน การปั๊ม การเคลื่อนย้าย หรือการกระทำทางกลโดยวิธีอื่นๆ สามารถทำได้โดยวัดระยะเวลาที่เริ่มปั่นกวนน้ำยางจนกระทั่งสังเกตเห็นน้ำยาง เริ่มจับตัวเป็นเม็ดเล็กๆ ในหน่วยของวินาที ค่า MST สูงจะบ่งชี้ว่า น้ำยางมีความเสถียรต่ออิทธิพลทางกลได้สูง แต่ถ้าค่า MST ต่ำแสดงว่าน้ำยางนั้นจะสูญเสียความเสถียร สามารถจะจับเป็นเม็ดได้ง่าย เมื่อน้ำยางถูกกระทบกับอิทธิพลทางกล [เทคโนโลยียาง]
Potassium hydroxide numberจำนวนโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ หมายถึง จำนวนกรัมของโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ที่สมมูลย์พอดีกับอนุมูลของกรดทั้งหมดที่ รวมกับแอมโมเนียในน้ำยาง ที่มีปริมาณของแข็งทั้งหมด 100 กรัม นั่นคือ จำนวนโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์เป็นตัวระบุปริมาณของสบู่แอมโมเนียมที่เกิดขึ้น ระหว่างการเปลี่ยนแปลงในน้ำยาง การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดจากการกระทำของแบคทีเรียต่อสารที่ไม่ใช่เนื้อยาง ในขณะก่อนการใส่แอมโมเนียลงในน้ำยาง และเกิดขึ้นจากการไฮโดรไลซิสของโปรตีนในระหว่างการเก็บน้ำยาง ค่า KOH ที่สูงแสดงถึง ความเปลี่ยนแปลงมากและอาจบ่งชี้ว่าน้ำยางข้นมีอายุหลังการผลิตนานอีกด้วย [เทคโนโลยียาง]
Specific gravityความถ่วงจำเพาะ สามารถคำนวนได้จากอัตราส่วนของความหนาแน่นของสารหรือวัสดุหารด้วยความหนา แน่นของน้ำ ปกติจะเท่ากับความหนาแน่นของสารนั้น แต่ไม่มีหน่วย (เนื่องจากสมมติฐานที่ว่าน้ำมีความหนาแน่นเท่ากับ 1.00 g/mL) [เทคโนโลยียาง]
Volatile fatty acid numberจำนวนกรดไขมันระเหย หมายถึง ปริมาณของกรดไขมันระเหยที่เกิดขึ้นโดยการไฮโดรไลซิสของคาร์โบไฮเดรตในเซรุ่ม ของน้ำยาง กรดเหล่านี้ประกอบด้วยกรดแอซิติก กรดฟอร์มิก และกรดพรอพิโอนิก เป็นส่วนใหญ่ หรือหมายถึง จำนวนกรัมของโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ที่ทำให้กรดไขมันระเหยทั้งหมดในน้ำยางที่ มีปริมาณของแข็งทั้งหมด 100 กรัม เป็นกลาง ค่า VFA No. เป็นค่าที่บ่งชี้ถึงสถานะการเสียสภาพ ถ้าค่า VFA No. สูง แสดงว่าน้ำยางถูกเชื้อจุลินทรีย์เข้าทำลายมาก เกิดกรดไขมันระเหยมาก ทำให้สูญเสียสภาพการเป็นคอลลอยด์ เกิดการบูดเน่าและจับเป็นก้อนได้ [เทคโนโลยียาง]
Acorus Gramineus Solandว่านน้ำเล็ก [การแพทย์]
Araceaeว่านคางคก [การแพทย์]
Auger Typeแบบสว่าน [การแพทย์]
Augersว่าน [การแพทย์]
Belamcanda Chinensisว่านหางช้าง [การแพทย์]
Drill Tipsว่านสำหรับเจาะ [การแพทย์]
Dumbeaneว่านหมื่นปี [การแพทย์]
Evidences, Probableสิ่งตรวจพบที่แสดงว่าน่าจะเป็นการตั้งครรภ์ [การแพทย์]
augerauger, สว่านเจาะดิน [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
open sentenceประโยคเปิด, ประโยคที่มีตัวแปร 1 ตัว หรือมากกว่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า ประโยคนี้มีค่าความจริง เป็นจริงหรือเป็นเท็จ เช่น x>2 ไม่สามารถบอกได้ว่าประโยคนี้เป็นจริงหรือเท็จ ถ้าแทน x ด้วย 3 ประโยคนี้เป็นจริง ถ้าแทน x  ด้วย 0 ประโยคนี้เป็นเท็จ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
critical temperatureอุณหภูมิวิกฤต, อุณหภูมิต่ำสุดที่สารหนึ่งจะอยู่ได้ในสถานะของแก๊ส โดยถ้าอุณหภูมิสูงกว่านี้ แม้ว่าจะเพิ่มความดันให้สูงขึ้นเท่าใดก็ไม่สามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
broadcasting rice cultivationการทำนาหว่าน, การปลูกข้าวโดยเอาข้าวเปลือก หรือข้าวงอกหว่านลงไปในนาที่เตรียมไว้ ปล่อยให้ต้นข้าวเจริญเติบโตในนานั้นโดยไม่มีการย้ายกล้า [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
floating riceข้าวขึ้นน้ำ, ข้าวที่ปลูกได้ในที่ลุ่มที่มีระดับน้ำในนาลึกเกิน 80 เซนติเมตรขึ้นไป  ส่วนมากปลูกแบบหว่าน เช่น พันธุ์ข้าวปิ่นแก้ว 56 ข้าวขาวพลวง 32 เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
lowland riceข้าวนาสวน, ข้าวที่ปลูกกันได้ในที่ลุ่มและมีระดับน้ำในนาลึกไม่เกิน 80 เซนติเมตร อาจปลูกโดยวิธีปักดำหรือหว่าน  เช่น พันธุ์ข้าว กข. 1 เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
transplanting rice cultivationการทำนาดำ, การปลูกข้าวแบบปักดำ โดยเอาต้นกล้าอายุประมาณ 25-30 วันไปปลูก ได้ผลผลิตสูงกว่าการปลูกแบบหว่าน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
ช้ากว่านี้[chā kwā nī] (x) EN: more slowly  FR: plus lentement
การกว้านตลาด[kān kwān talāt] (n, exp) FR: accaparement [ m ]
คว้าน[khwān] (v) EN: core ; extract  FR: extraire ; évider
คว้าน[khwān] (v) EN: enlarge ; bore with a reamer  FR: élargir
คว้านไส้[khwān sai] (v, exp) EN: eviscerate ; disembowel ; gut  FR: éviscérer
คว้านท้อง[khwān thøng] (v, exp) EN: eviscerate ; disembowel ; gut  FR: éviscérer
ว่าน[kwān] (n) EN: bureaucrat ; lord ;, peer ; nobility
กว้าน[kwān] (n) EN: capstan ; windlass ; winch  FR: cabestan [ m ] ; treuil [ m ]
กว้าน[kwān] (v) EN: haul up ; wind
กว๊านพะเยา[Kwān Phayao] (n, prop) EN: Phayao Lake
กว้านซื้อ[kwān seū] (v) EN: corner ; buy up ; make a rush-purchase of  FR: acheter en masse
กว้านตลาด[kwān talāt] (v, exp) FR: accaparer
เหล็กสว่าน[lek sawān] (n, exp) EN: auger
นักกว้านตลาด[nak kwān talāt] (n, exp) FR: accapareur [ m ]
ว่าน[sawān] (n) EN: drill ; auger ; gimlet ; wimble  FR: perceuse [ f ] ; foreuse [ f ] ; tarière [ f ] ; vrille [ f ] ; foret [ m ] ; mèche [ f ]
ว่านลม[sawān lom] (n, exp) EN: air drill
ว่านมือหมุน[sawān meū mun] (n, exp) EN: hand drill  FR: chignole [ f ] ; perceuse à main [ f ] ; vilebrequin [ m ]
ว่าน[wān] (n) EN: general name for sedges, flags, orchids, hemp, and herbs  FR: amome [ m ]
ว่าน[wān] (v) EN: sow ; seed ; broadcast sowing  FR: semer ; ensemencer
ว่าน[wān] (v) EN: scatter ; spread ; sprinkle ; broadcast ; distribute  FR: répandre
ว่านปุ๋ย[wān pui] (n, exp) EN: spread manure
ว่านหางจระเข้[wān hāng jørakhē] (n, exp) EN: aloe  FR: aloès [ m ]
ว่านกำบัง[wān kambang] (n, exp) EN: name of Thai plants
ว่านกีบม้า[wānkīpmā] (n) EN: Angiopteris evecta
ว่านกีบแรด[wānkīpraēt] (n) EN: Angiopteris evecta
ว่านเกลือ[wān kleūa] (v, exp) EN: sprinkle salt on meat  FR: saler la viande
ว่านมหากาฬ[wān mahākān] (n, exp) EN: ?  FR: ?
ว่านมหาลาภ[wān mahālāp] (n, exp) EN: ?  FR: ?
ว่านมหาเมฆ[wānmahāmēk] (n) EN: species of sedge
ว่านมหานิล[wānmahānin] (n) EN: kind of tuberous plant
ว่านอนสอนง่าย[wānønsønngāi] (v) EN: be obedient
ว่านเปราะหอม[wān prǿhøm] (n, exp) EN: Kaempferia galanga ; aromatic ginger ; sand ginger ; resurrection lily
ว่านแสงอาทิตย์[wān saēng āthit] (n, exp) EN: Blood flower ; Powder puff lily
ว่านเศรษฐีจีน[wān sētthī Jīn] (n, exp) EN: name of species of plant
ว่านอูด[wān ūt] (n, exp) EN: Kaempferia galanga ; aromatic ginger ; sand ginger ; resurrection lily
ยิ่งกว่านั้น[ying kwā nan] (conj) EN: more than that ; moreover ; furthermore  FR: en outre ; de plus ; en plus de cela
ยิ่งไปกว่านั้น[ying pai kwā nan] (conj) EN: more than that ; moreover ; in addition ; besides  FR: en plus de cela

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
agave(n) ต้นหางจระเข้, See also: ว่านหางจระเข้
aloe(n) ว่านหางจระเข้, See also: ต้นไม้ชนิดหนึ่งวุ้นของใบใช้รักษาแผลไหม้ได้และนำมาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางค์ด้วย, Syn. aloe vera
aloe vera(n) ว่านหางจระเข้, See also: ต้นไม้ชนิดหนึ่งวุ้นของใบใช้รักษาแผลไหม้ได้และนำมาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางค์ด้วย, Syn. aloe
also(adv) ยิ่งกว่านั้น, See also: ยิ่งไปกว่านั้น, Syn. besides, in addition
and(conj) และ, See also: ยิ่งไปกว่านั้น, มากไปกว่านั้น, Syn. also, moreover
and then some(idm) มากกว่านั้น (คำไม่เป็นทางการ), See also: มากกว่าที่กล่าวมา
besides(adv) นอกจากนี้, See also: ยิ่งไปกว่านี้
bit(n) ดอกสว่าน
captivate(vt) หว่านเสน่ห์, See also: ทำให้หลงใหล, Syn. charm, fascinate
corkscrew(n) สว่านเปิดจุกขวด, Syn. bottle screw
catch napping(idm) พบว่านอนหลับ
distribute over(phrv) กระจายไปทั่ว, See also: หว่านไปทั่ว
drill into(phrv) เจาะรูด้วยเครื่องมือ (เช่นสว่าน)
dissemination(n) การแพร่กระจาย, See also: การหว่าน, Syn. circulate
docile(adj) เชื่อง, See also: ว่านอนสอนง่าย, Syn. feeble, weak, weak-willed, obedient, Ant. strong-willed, strong
docilely(adv) อย่างว่านอนสอนง่าย
docility(n) การว่านอนสอนง่าย, See also: เชื่อง, Syn. obedience, compliance
drill(n) สว่านไฟฟ้า, See also: เครื่องเจาะ
drill(n) เครื่องหว่านเมล็ดพืช
drill(n) ร่องที่ใช้หว่านพืช
drill(vt) หว่านพืช
easily(adv) อย่างน้อย, See also: ที่ไม่น้อยไปกว่านี้
even(adv) ยิ่งไปกว่านั้น, Syn. furthermore, moreover, still
fan(n) เครื่องหว่านข้าว
furthermore(adv) นอกจากนี้, See also: ยิ่งกว่านี้, มากไปกว่านี้, Syn. besides, in addition, moreover
go farther(phrv) เดินทางไปไกลกว่านี้, See also: ไปไกลกว่านี้
go further(phrv) เดินทางไปไกลกว่านี้, See also: ไปไกลกว่านี้
gimlet(n) สว่านเจาะรู
hawk(n) ผู้สนับสนุนนโยบายทางการทหารเพื่อแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากกว่านโยบายทางการทูต, See also: ผู้ใฝ่สงคราม
hawkish(adj) ซึ่งชอบที่จะใช้นโยบายทางการทหารเข้าแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากกว่านโยบายทางการทูต, See also: ซึ่งกระหายสงคราม, Ant. dovish
herb(n) สมุนไพร, See also: ว่าน
new one on(idm) สิ่งที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน (และไม่คิดว่าน่าเชื่อถือ) (someone มักใช้แทนด้วย me) (คำไม่เป็นทางการ)
in addition(adv) ยิ่งไปกว่านั้น, See also: นอกจากนั้น, Syn. additionally, furthermore, moreover
likewise(adv) นอกจากนั้น, See also: ยิ่งกว่านั้น, ด้วย, Syn. moreover, also, too, in addition
moreover(adv) ยิ่งกว่านั้น, See also: จากนั้น, Syn. also furthermore, further, in addition, besides
only(adv) เท่านั้น, See also: ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้, Syn. merely, simply
planter(n) เครื่องหว่านเมล็ด, See also: เครื่องปลูกพืช, Syn. drill
plus(conj) ด้วย, See also: และ, ยิ่งไปกว่านั้น, Syn. also, and, furthermore
roll(n) การบินควงสว่าน
cozzie(sl) เครื่องแต่งกายชุดว่าน้
scatter(vt) ทำให้กระจาย, See also: โปรย, โรย, หว่าน, Syn. diverge, disperse, Ant. assemble, collect, gather
scatter(n) การทำให้กระจาย, See also: การโปรย, การหว่าน
seed(vt) หว่านเมล็ด, See also: เพาะเมล็ด, โปรยเมล็ด, ปลูกด้วยเมล็ด, เพาะพันธุ์, Syn. scatter the seed, sow
seed(vi) หว่านเมล็ด, See also: เมล็ดร่วงหล่น, กระจายเมล็ดพันธุ์, Syn. plant, reproduce
seedbed(n) แปลงหว่านเมล็ด, See also: แปลงเพาะ, แหล่งกำเนิด, สถานที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต, ที่เพาะเมล็ด, Syn. breeding place, nursery
seeder(n) เครื่องหว่านเมล็ด, See also: ผู้หว่านพืช, พืชที่ให้เมล็ดมาก, เครื่องมือคว้านเมล็ดออก, เครื่องแกะเมล็ด, Syn. distributor, drill
seedtime(n) ฤดูหว่านเมล็ด, See also: ฤดูเพาะปลูก, ระยะเวลาเจริญเติบโต
sow(vi) หว่านเมล็ดพืช, Syn. seed, plant, disseminate
sow(vt) หว่านเมล็ดพืช, Syn. seed, plant, disseminate
sower(n) เครื่องหว่านเมล็ด, Syn. distributor

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
amaryllis(แอมมะริล ' ลิส) n. พืชไม้ดอกจำพวกว่าน Amaryllis Belladonna, หญิงบ้านนอก, สาวงาม
auger(ออ'เกอะ) n. สว่าน
bar code optical scannerเครื่องกราดตรวจรหัสแท่งด้วยแสง <คำแปล>เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายปากกาแสง (light pen) ใช้ฉายแสงลงไปที่รหัสแท่งที่ต้องการอ่าน เครื่องจะรายงานบนจอภาพในขณะเดียวกันก็ส่งข้อมูลนั้นไปบันทึกในหน่วยความจำ การทำงานจะอยุ่ในราว 100 ตัวอักษรต่อวินาที หรืออาจเร็วกว่านั้น
bit(บิท) 1. n. ดอกสว่าน, สิ่งค้ำ, ของเล็ก ๆ น้อย ๆ , ครู่เดียว, การกระทำ, บทบาทเล็กน้อย, เหรียญเล็ก ๆ , หน่วย, กริยาช่อง 2 และ 3 ของ bite, บิต, 2. ในระบบเลขฐาน 2 หมายถึงตัวเลข 0 และ 1, หน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุด โดยที่หนึ่งบิตจะต้องเพียงพอต่อการบอกความแตกต่างระหว่างข้อมูลประเภท "ใช้" ในปัจจุบันมักใช้บิตเป็นหน่วยวัดตัวประมวลผล (microprocessor) ของไมโครคอมพิวเตอร์ ว่าเป็นขนาด 8 บิต 16 บิต หรือ 32 บิต ถ้าจัดบิตเป็นชุดที่เรียกว่าไบต์ (byte) ซึ่งปกติจะมี 8 บิต จะใช้เป็นรหัสเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข ตัวอักษร ฯ ดู byte ประกอบ
bodkin(บอด'คิน) n. เครื่องเจาะรู, สว่าน, เข็มใหญ่, คีมหนีบ, กิ๊บผมที่ยาว, เครื่องคล้ายเข็มสำหรับสอดรู, กริชเล่มเล็ก
borer(บอ'เรอ) n. สิ่งที่เจาะรู, ผู้เจาะรู, เครื่องเจาะรู, สว่าน, แมลงที่เจาะรูต้นไม้หรือผลไม้, หนอนเจาะรู
broadcast/broadcasted }(บรอด'คาสทฺ) v. กระจายเสียง, กระจายข่าว, เผยแพร่, หว่านพืช. -Conf. forecast
burr drilln. สว่านเจาะ, เครื่องเจาะฟัน
bytes per inchไบต์ต่อนิ้วใช้ตัวย่อว่า BPI เป็นหน่วยวัดความจุของตัวอักขระในเทปหรือแถบบันทึก (tape) หมายความว่า ขนาดความยาวของแถบบันทึก 1 นิ้ว จะบรรจุตัวอักขระได้เท่าใดอาจต่างกันได้ตั้งแต่ 200 ถึง 1600 ไบต์ต่อนิ้ว และอาจมีการปรับให้มากหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ (บางทีใช้กับความยาวของแทร็กของพื้นผิวของจานบันทึก (disk) ด้วย
cast(คาสทฺ) { cast, cast, casting, casts } v., n. (การ) ขว้าง, ทิ้ง, เหวี่ยง, โยน, หว่าน, เปลื้อง, ปลด, ลอก (คราบ) , ทอด (แสง, เงา, สายตา) , ปลด, ลง, หย่อน, ทำนาย, หล่อ, ให้กำเนิด, ปฎิเสธ, ไล่ออก, ให้, จัดการ, เลือก (คนแสดง) , คำนวณ, วางแผน, ข้าง, หล่อแบบ, คำนวณ, บวก, ทำนาย, ตรวจหา คำศัพท์ย่อย:
centrifugationn. การหมุนเหวี่ยงให้ตะกอนหรือส่วนที่หนักกว่านอนก้น
chipper(ชิพ'เพอะ) { chippered, chippering, chippers } adj. ร่างเริง, อารมณ์ดี, เป็นสุข vi. พูดสอด, พูดแทรก, คุย, ส่งเสียงร้องจ๊อก ๆ , พูดจ้อ n. เครื่องตัด, เครื่องสกัดสว่าน
chuck(ชัค) { chucked, chucking, chucks } vi., n. (การ) ตบเบา ๆ , แตะ, เชย, เชย (คาง) โยน, ทอย, เหวี่ยง, ทิ้ง, ไล่ออก, ลาออก, เลิกล้ม, ร้องเสียงกุ๊ก ๆ (ไก่) , ไม้รอง, ไม้หมอน, ตัวหนีบ, เครื่องจับดอกสว่าน, เสียงร้องดังกล่าว, เสบียงอาหาร, Syn. pat, tap
color monitorจอสีหมายถึง อุปกรณ์แสดงผลชนิดจอภาพที่แสดงภาพเป็นสีต่าง ๆ ได้หลายสี (จอภาพ ที่แสดงได้สีเดียว เรียกว่า monochrome) จอสีนั้นมีความแตก ต่างกันในเรื่องการแสดงจำนวนสี บางประ เภทแสดงได้ 16สี บางประเภทแสดงได้ถึง 256 สี หรือกว่านั้นก็มี ทั้งยังมีคุณภาพต่างกันในเรื่องของความคมชัด ดู CGA, VGA และ SVGA ประกอบ
concurrence(คันเคอ'เรินซฺ) n. การบังเกิดขึ้นพร้อมกัน, การประจวบกัน, การเห็นด้วย, การเห็นพ้อง, การให้ความร่วมมือ, การสนับสนุน, จุดบนเส้น 'เส้นหรือมากกว่านั้น, อำนาจร่วมหรือเท่ากัน, Syn. agreement
corkscrew(คอค'สครู) n. สว่านเปิดจุกขวด vt., vi. ควงสว่าน, เคลื่อนวกเวียน, ไขเอาความลับออกมา, Syn. spiral
ctrl+alt+del(เริ่มเครื่องใหม่) <ความหมาย>แป้น CTRL, ALT, DEL ล้วนเป็นแป้นพิมพ์พิเศษของเครื่องคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็ม หรือ เครื่องที่ทำเลียนแบบไอบีเอ็ม เมื่อกดทั้งสามแป้นนี้พร้อมกันแล้ว จะเท่ากับสั่งให้คอมพิวเตอร์เริ่มต้น การทำเช่นนี้เรียกว่า "warm boot" จะเหมือนกับการปิดแล้วเปิดสวิตซ์ที่เครื่องใหม่ (cold boot) ในกรณีเช่นที่ว่านี้ ถ้ามีแฟ้มข้อมูลที่กำลังทำอยู่ ข้อมูลจะหายไปหมด เพราะไม่ได้สั่งเก็บหรือบันทึก
docile(คอส'ซัล, โด'ไซล์) adj. เชื่อง, ว่านอนสอนง่าย, อ่อนน้อม., See also: docility n.
drill(ดรีล) { drilled, drilling, drills } n. สว่าน, เครื่องเจาะ vt., vi. เจาะไซ, ยิงทะลุ, ฝึกฝน. vi. เจาะรู, ฝึกฝน, See also: drillable adj. ดูdrill driller n., Syn. exercise, practice, bore, tteach
edlin(เอ็ดลิน) เป็นชื่อโปรแกรมประเภท line editor ที่รวมอยู่ในโปรแกรมระบบดอส รุ่น 5.0 หรือรุ่นต่ำกว่านี้ ถ้าเป็นรุ่น 6.0 จะไม่มีโปรแกรมนี้แล้ว (ปัจจุบันไม่มีใครใช้แล้ว) ดู editor ประกอบ
even(อี'เวิน) adj. เรียบ, ราบ, สม่ำเสมอ, ซึ่งหารด้วยเลข2ได้ลงตัว, ได้สมดุล, ยุติธรรม, พอดี, ไม่ขาดไม่เกิน, เงียบสงบ -adv. อย่างราบเรียบ, ยังคง, ยิ่งกว่านั้น, แม้ว่า n. ตอนเย็น vt. ทำให้ราบ, ทำให้เรียบ, ทำให้สมดุล, ทำให้เท่ากัน. vt. กลายเป็นเท่ากัน. -Id. (be (get) even wi
file nameชื่อแฟ้ม (ข้อมูล) แฟ้มข้อมูลก็ดี โปรแกรมหรือชุดคำสั่งก็ดี จะต้องมีชื่อที่ ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้ผู้ใช้ติดต่อสั่งงานกับคอมพิวเตอร์ได้เมื่อ ต้องการ เรียกใช้ระบบปฏิบัติการแต่ละระบบ จะมีข้อกำหนด กฎเกณฑ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูลไว้ เป็นต้นว่า ระบบดอสและวินโดว์ มีข้อกำหนดว่า ชื่อของแฟ้ม ข้อมูล จะต้องยาวไม่เกิน 8 ตัวอักขระ (ตัวอักษรหรือตัวเลข) ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ต้องไม่มีช่องว่าง ฯ และที่สำคัญที่สุด คือตั้งชื่อเป็นภาษาไทยไม่ได้โดยเด็ดขาด นอกจากนั้น อาจจะต้องมีนามสกุล (filetype) ซึ่งต้องประกอบด้วย 3 ตัวอักษร ส่วนระบบของแมคอินทอช มีข้อจำกัดน้อยกว่านั้น มาก เช่น จะใช้ภาษาไทยก็ได้
finder(ไฟ'เดอะ) n. ผู้ค้นหา, สิ่งที่ใช้ค้นหา, กล้องโทรทรรศน์, กล้องส่องทางไกล, กล้องดูภาพ, เครื่องวัด, เครื่องตรวจสอบ ตัวหาเป็นชื่อโปรแกรมที่อยู่ในระบบปฏิบัติการของเครื่องแมคอินทอช (ดูใน System Folder) ที่ทำหน้าที่จัดการ ในเรื่องสัญรูป (icon) การแสดงรายการต่าง ๆ ตลอดถึงการแสดงวินโดว์ การคัดลอก การย้าย และการลบแฟ้มข้อมูล หากไม่มี โปรแกรมนี้ การทำงานจะช้ากว่านี้ มาก เครื่องแมคอินทอช รุ่นใหม่ ๆ จะแสดงเป็นเมนูดัง ที่เห็นในภาพข้าง ๆ
furthermoreadj. นอกจากนี้, มากกว่านี้, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง, Syn. further
gimlet(จิม'เลท) n. สว่านมือ, บิดหล่าชนิดเล็ก vt. เจาะรูด้วยสว่านมือ adj. ซึ่งเจาะรูได้, See also: gimlety adj.
hand drillว่านมือ
heart rateอัตาการเต้นของหัวใจมีค่าประมาณ 70 ครั้ง/นาที เด็กเล็กมีอัตราการเต้นเร็วกว่านี้คือประมาณ 130 ครั้ง/นาที
inseminate(อินเซม'มะเนท) vt. หว่านเมล็ด, เพาะเชื้อ, ฉีดน้ำกามเข้าในช่องคลอด, ทำให้ตั้งครรภ์, ทำให้มีลูก., See also: insemination n.
jumper(จัม'เพอะ) n. ผู้กระโดด, สิ่งที่กระโดด, เครื่องเจาะ, รูที่เด้งขึ้น, สว่านยาว, เสื้อเสวตเตอร์ไร้แขน
lean(ลีน) { leaned/leant, leaned/leant, leaning, leans } vi. เอียง, เอน, ลาด, โน้มเอียง, พาดพิง, พึ่งพา. vt. เอียง, เอน, ทำให้เอียง, ทำให้เอน n. การเอียง, การเอน, ส่วนของเนื้อที่มีเนื้อมากกว่ามัน, ส่วนที่ผอม, ส่วนที่ไม่ค่อยมีเนื้อ adj. ผอม, ไม่ค่อยมีเนื้อ, ไม่ค่อยเต็ม, ไม่อุดมสมบูรณ์, ขาดแคลน, ซึ่งมีสารมีสีมากกว่าน้ำมัน
magnetic ink character reเครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็กใช้ตัวย่อว่า MICR (อ่านว่า เอ็มไอซีอาร์) หมายถึง เครื่องอ่านตัวอักขระที่พิมพ์ด้วยหมึกแม่เหล็ก การอ่านหมึกแม่เหล็กที่ว่านี้ ใช้วิธีอ่านด้วยแสง ซึ่งจะทำให้คอมพิวเตอร์นำข้อมูลที่อ่านไปเก็บในหน่วยความจำแล้วประมวลผลให้ เหมือนกับการป้อนข้อมูลทางแป้น ส่วนมากใช้อ่านในกิจการของธนาคาร เช่น อ่านเลขที่บัญชีของลูกค้าในสมุดเช็ค เป็นต้น
margin(มาร์'จิน) n. ขอบ, ริม, ข้าง, ขอบเขต, ช่องว่าง, จำนวนที่เผื่อเหลือเผื่อขาด, เงินทดรองความสูญเสีย, ค่าแตกต่างระหว่างราคาทุนกับราคาขาย, จุดรายได้ต่ำสุดซึ่งถ้าต่ำกว่านี้แล้วการผลิตจะขาดทุน, ร่อแร่, เกือบขาดทุน. vt. ใส่ขอบ, ทำให้มีริมหรือข้าง, วางเงินทดรอง
modular programmingการเขียนโปรแกรมส่วนจำเพาะหมายถึง การแยกเขียนโปรแกรมเป็นส่วน ๆ ทำให้แก้ไขง่าย และใช้คนเขียนหลายคนได้ ข้อดียิ่งไปกว่านั้นก็คือ สามารถจัดการเกี่ยวกับหน่วยความจำได้ดีขึ้นด้วย
pipelineการทำงานแบบสายท่อหมายถึง วิธีการเชื่อมโยงสองโปรแกรมหรือกว่านั้นเข้าด้วยกัน โดยกำหนดให้ผลที่เกิดจากการประมวลผลในโปรแกรมแรก เป็นตัวกำหนดเรียกโปรแกรมที่สอง (หมายความว่า โปรแกรมที่สองจะเป็นโปรแกรมใด ขึ้นกับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลในโปรแกรมแรก) การประมวลผลในโปรแกรมที่สองก็จะเรียกโปรแกรมต่อไป วิธีการนี้ใช้ในระบบยูนิกซ์ (UNIX) และ ดอส (DOS)
protect modeภาวะอารักขาหมายถึง แนวกั้น หรือแนวอารักขาในส่วนของแรม (RAM) ที่เป็น 386 หรือสูงกว่านั้น เพื่อไม่ให้มีการสับสนกัน เมื่อมีการปฏิบัติการมากกว่าสองโปรแกรมในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โปรแกรมระบบดอส (DOS) และวินโดว์ (Windows) ยังไม่สามารถใช้ภาวะอารักขานี้ได้ แต่จะใช้ได้ใน Windows NT และ OS/2
saccharin(แซค'คะริน) n. สารรสหวานกว่าน้ำตาลถึงหลายร้อยเท่าใช้แทนน้ำตาลสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
santa claus(แซน'ทะ คลอซ) n. นักบุญ Saint Nicholaus ที่เล่าลือว่านำของขวัญมาให้เด็ก ๆ ในเทศกาลคริสต์มาส
scatter(สแคท'เทอะ) vt., vi., n. (การ, ทำให้) กระจัดกระจาย, ทำให้กระเจิง, สาด, โปรย, หว่าน, ทำให้แสงหรือรังสีหักเห, สิ่งที่กระจัดกระจาย, See also: scatterable adj. scatterer n.
seed(ซีด) n. เมล็ด, เมล็ดพืช, เชื้อ, พันธุ์, ลูกหลาน, น้ำเชื้อ, น้ำกาม, ไข่ของสัตว์บางชนิด (เช่นของกุ้ง) , ผู้ได้รับการคัดเลือกแล้ว, ฟองน้ำในกระจก, สิ่งที่มีลักษณะคล้ายเมล็ด vt. หว่านเมล็ด, เร่งการเจริญเติบโต, เร่งเมฆให้กลายเป็นฝน, คลายเมล็ดออก, จัดคู่แข่งขัน (ไม่ให้คู่แข่งขั
seedbedn. แปลงสำหรับหว่านเมล็ด, แปลงเพาะ, แหล่งกำเนิด
seeded(ซีด'ดิด) adj. หว่านเมล็ดไว้แล้ว, (ผลไม้) มีเมล็ด, (ผลไม้) สุก, ซึ่งเอาเมล็ดออกแล้ว, (นักกีฬา) ถูกจัดให้เป็นผู้แข่งขันชั้นนำ
seeder(ซีด'เดอะ) n. ผู้หว่านเมล็ด, ผู้หว่านพืช, เครื่องหว่านเมล็ด, พืชที่ให้เมล็ดมาก, เครื่องมือคว้านเมล็ดออก (เช่นจากผลองุ่น)
seedsman(ซีดซ'เมิน) n.ผู้หว่านเมล็ด, พ่อค้าขายเมล็ดพืช, Syn. seedman
seedtime(ซีด'ไทมฺ) n. ฤดูหว่านเมล็ด
semination(เซมมะเน'เชิน) n. การหว่านเมล็ด, การปล่อยน้ำกามเข้าไปในช่องคลอดระหว่างการสังวาสหรือโดยเครื่องมือ -Phr. (artificial semination n. การปล่อยน้ำกามเข้าไปในช่อง คลอดโดยเครื่องมือ)
sleeve(สลีฟว) n.แขนเสื้อ, ข้อมือเสื้อ, ชุดสวมแผ่นเสียง, จำปาจับดอกสว่าน, ปลอกหุ้ม, กระบอกสวม vt. จัดให้มีแขนเสื้อ, See also: sleeved มีแขนเสื้อ
sow(โซ) { sowed, sown/sowed, sowing, sows } vt., vi. หว่าน, หว่านเมล็ด, เพาะเมล็ด, ทำให้กระจาย .n. สุกรตัวเมีย, แม่สุกรตัวใหญ่, ร่องไหลของเหล็กหลอม, เหล็กหลอมที่แข็งตัวในร่องรวม, See also: sowable adj. sower n., Syn. plant
sprinkle(สพริง'เคิล) vt., vi., n. (การ) พรม, โปรย, โรย, หว่าน, (ฝน) ลงประปราย, ฉีดให้เปียก., สิ่งที่ใช้พรม (โรย, โปรย) , การหว่าน, ฝนที่ลงประปราย, จำนวนเล็กน้อย
strew(สทรู) vt. โปรย, หว่าน, โรย, พรม, แผ่, กระจาย., See also: strewer n., Syn. sprinkle, sow
tap drilln. สว่านสำหรับเจาะรูเป็นเกลียว

English-Thai: Nontri Dictionary
auger(n) สว่าน, เครื่องเจาะ
awl(n) สว่าน, เหล็กหมาด
bestrew(vt) โปรย, หว่าน, โรย, ทำให้เกลื่อนกลาด
borer(n) เครื่องเจาะรู, สว่าน
broach(n) สว่าน, เครื่องกว้าน, เครื่องเจาะ, เข็มกลัด
cast(vt) โยน, เหวี่ยง, ขว้าง, หว่าน, หล่อ, เลือก(ผู้แสดง), ปลด, ไล่ออก
deem(vi) เชื่อว่า, เห็นว่า, ถือว่า, รู้สึกว่า, คิดว่า, เข้าใจว่า, ลงความเห็นว่าน
docile(adj) ว่านอนสอนง่าย, ไม่ดื้อ, เชื่อง, อ่อนน้อม
docility(n) ความว่านอนสอนง่าย, ความเชื่อง
drill(n) การฝึกฝน, สิ่ว, สว่าน, เครื่องเจาะ, เครื่องไข, ช่องว่างในเมล็ด
even(adv) แม้แต่, แม้ว่า, ยิ่งกว่านั้น
furthermore(adv) ยิ่งกว่านั้น, ใช่แต่เท่านั้น, นอกจากนี้, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
gimlet(n) สว่าน
manure(vt) หว่านปุ๋ย, ใส่ปุ๋ย, ใช้ปุ๋ย
moreover(adv) ยิ่งกว่านั้น, นอกจากนั้น, อนึ่ง, นอกเหนือจากนั้น
reamer(n) เครื่องคว้าน, สว่าน
scatter(vt) ทำให้กระจาย, โปรย, หว่าน, สาด, ทำให้แตกกระเจิง
seed(vt) เอาเมล็ดออก, หว่านเมล็ด, เร่งการเจริญเติบโต
seedsman(n) คนหว่านเมล็ด, คนขายเมล็ดพันธุ์
sow(vt) เพาะเมล็ด, หว่าน, ทำให้กระจาย
sprinkle(n) การพรม, จำนวนน้อย, การโปรย, การหว่าน, ฝนโปรยปราย
sprinkle(vt) โปรย, พรม, ตกปรอยๆ, โรย, หว่าน
strew(vt) หว่าน, โปรย, พรม, โรย, แผ่
wimble(n) สว่าน

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
best of all[bes of all] ยิ่งไปกว่านั้น, ที่่ดีไปกว่านั้น, ที่ดีกว่าอะไรทั้งนั้น
drill bit(n) ดอกสว่าน
give a heads up(phrase) ให้ข้อมูล หรือ เตือนล่วงหน้า เช่น Do you want to give me a heads up on this? จะบอกฉันหน่อยไหมว่านี่มันเรื่องอะไรยังไง
I'll say(phrase) อย่างว่านั้นแหละ (จริงอย่างที่พูด)
Magnetic resonance cholangiopancreatography (MRCP)เป็นเทคนิคการถ่ายภาพทางการแพทย์ที่ใช้การถ่ายภาพสะท้อนแบบแม่เหล็กเพื่อแสดงให้เห็นถึงน้ำดีและท่อตับอ่อนในลักษณะที่ไม่รุกราน ขั้นตอนนี้สามารถใช้ในการตรวจสอบว่านิ่วในท่อที่อยู่รอบถุงน้ำดีหรือไม่
nucker(slang) เป็นคำว่าใช้เหยียดสีผิว (มาจากคำว่านิโกร รวมกับ ฟัคเกอร์) ( * w *m Power by iiiita also RYUTAZA)
Patmose[พัท มอส] (n) Patmos เป็นชื่อเกาะขนาดเล็กใน(เป็นภาษากริก) Aegean ทะเลและสามารถพบได้ระหว่างเกาะ Leros และ Ikaria. ... ประมงประวัติของพิพิธภัณฑ์เป็นนักท่องเที่ยว Philoproodos กล่าวกันว่านักบุญจอห์นอีแวนเจลลิสเป็นคนคนเดียวกับ “นักบุญอัครสาวก” ... (ดูเพิ่ม นักบุญจอห์นเพรสไบเตอร์ (John the Presbyter) และ นักบุญจอห์นแห่งพัทโมส (John of Patmos) ...ได้เห็นนิมิตที่พระเจ้าททรงประทานให้พ่านทูตสวรรค์ และยอห์นเขียนขึ้นมาเป็นเล่มเรียกชื่อว่า "พระธรรมวิวรณ์"
pimiento(n) พริกฝรั่ง เม็ดใหญ่กลมคล้ายมะเขือเทศ, เครื่องเทศชนิดหนึ่งทำจากพริกที่ว่านี้

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
それに[それに, soreni] (n) ยิ่งไปกว่านั้น, นอกเหนือไปจากนั้น
又は[または, mataha] นอกจากนั้น ยิ่งกว่านั้น

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
生意気[なまいき, namaiki] (adv) อย่างไม่อาย, อย่างหน้าด้านๆ, อย่างใจกล้าหน้าด้าน, อย่างไร้ยางอาย<BR> <BR> Eg.<BR> 彼の生意気態度は我慢できない。<BR> ทนลักษณะท่าทางหน้าด้านของเขาไม่ได้แล้ว<BR> <BR> 生意気を言うようですが、そうしない方がいいでしょう。<BR> ดูเหมือนว่าจะพูดอย่างไม่อายเลยนะ ไม่ทำแบบนั้นน่าจะดีกว่านะ<BR>
更に[さらに, sarani] อีกครั้ง , อีก , เพิ่มขึ้น , ไม่...เลย , ยิ่งไปกว่านั้น , นอกจากนั้น
而も[しかも, shikamo] (adj) [ ADV ] ยิ่งกว่านั้น, See also: จากนั้น, Syn. also furthermore

German-Thai: Longdo Dictionary
zudemมากไปกว่านั้น, ยิ่งกว่านั้น
abwarten(vt) คอยต่อไป, คอยดูต่อ เช่น Warte mal ab, bis der Preis der Kamera runtergesetzt ist. คอยดูกันต่อไปจนกว่าราคาของกล้องต่ำกว่านี้นะจ๊ะ
überreden(vt) |überredete, hat überredet| พูดจาหว่านล้อม เช่น Mein Kind hat mich dazu überredet, ihm ein Spielzeug zu kaufen. ลูกของผมหว่านล้อมให้ผมซื้อของเล่นให้เขา, See also: die Überedung
schweigen(vi) |schwieg, hat geschwiegen| นิ่งเงียบ และ ไม่แสดงความคิดเห็น หรือ ไม่เปิดเผยในสิ่งที่รู้ หรือ ไม่ตอบ ก็เป็นได้ นะเนี่ย ตัวอย่างการใช้ คำ 1° Du solltest auf all seine Fragen schweigen! = เธออย่าได้ตอบคำถามของเขาเชียวนะ แม้จะคำถามเดียวก็เหอะ (นั่น เป็นงั้นไปได้, ยังกะในละคร แนะ ) 2° Darüber sollten wir lieber schweigen. = ผมเห็นว่า พวกเราน่าจะนิ่งเฉยกับเรื่องนี้เอาไว้ดีกว่านะ ( เพิ่มเติม, ผู้พูดแนะนำให้ทำ ดังนั้นเขาจึง ใช้กริยาเป็น sollten เช่น solltest ในตัวอย่างที่ 1 ด้วยเหมือนกัน ) 3° Sebastian, er steht schweigend vor seinen Eltern. = เซบาสเทียน, เขายืนนิ่ง ไม่พูดอะไรสักคำต่อหน้าพ่อแม่ของเขา ( กริยา Infinitiv เติมด้วย d จะทำหน้าที่เป็น Adjektiv หรือ Adverb เช่นคำว่า schweigend ในประโยค ตัวอย่าง ), See also: verheimlichen, A. verraten, antworten, sagen, Syn. still sein
abmachen(vt) |machte ab, hat abgemacht, etw. mit jmdm.| ตกลงว่านัดเจอ, กำหนดการนัดพบ เช่น Um wieviel Uhr treffen wir uns? Wann habt Ihr abgemacht? เราเจอกันกี่โมงจ๊ะ พวกเธอตกลงนัดกันไว้เมื่อไหร่, See also: festlegen, Syn. vereinbaren
mit anderen Worten(phrase) อีกนัยหนึ่ง(ที่พูดได้เข้าใจง่ายกว่านั้นอีก), Syn. anders gesagt
brav(adj) ที่เชื่อฟังและว่านอนสอนง่าย

French-Thai: Longdo Dictionary
polygamie(n) la, = ความสัมพันธ์แบบที่ไม่ใช่แบบผัวเดียวเมียเดียว เช่น ชายหนึ่งหญิงสอง หรือ หญิงหนึ่งชายสอง (มากกว่านี้ก็รวมอยู่ด้วย), Ant. la monogamie

French-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
be supposed toน่าจะ, ควรจะ, เป็นการแสดงความคาดหวังของผู้พูดต่อประธานในประโยคว่าน่าจะทำกริยาที่ระบุไว้

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top