ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*สุนทรพจน์*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: สุนทรพจน์, -สุนทรพจน์-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
สุนทรพจน์(n) speech, See also: address, harangue, oration, Syn. คำปราศรัย, Example: เขาได้รับรางวัลที่ 1 ในการพูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษซึ่งจัดโดยศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมปลาย, Thai Definition: คำพูดที่ประธานหรือบุคคลสำคัญเป็นต้นกล่าวในพิธีการหรือในโอกาสสำคัญต่างๆ
กล่าวสุนทรพจน์(v) deliver a speech, See also: make a speech, Example: ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
สุนทรพจน์(สุนทอนระ-, สุนทอระ-) น. คำพูดที่ประธานหรือบุคคลสำคัญเป็นต้นกล่าวในพิธีการหรือในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ.
กล่าวแต่งงาน เช่น ฝรั่งกล่าวแหม่ม. (ประเพณีของชาวคริสเตียน), คำนี้ใช้เป็นปรกติในภาษาเขียน แต่ใช้เป็นภาษาพูดก็มีในบางลักษณะ เช่น กล่าวสุนทรพจน์.
สมาส(สะหฺมาด) น. การเอาศัพท์ตั้งแต่ ๒ ศัพท์ขึ้นไปมาต่อกันเป็นศัพท์เดียวตามหลักที่ได้มาจากไวยากรณ์บาลีและสันสกฤต เช่น สุนทร + พจน์ เป็น สุนทรพจน์ รัฐ + ศาสตร์ เป็น รัฐศาสตร์ อุดม + การณ์ เป็น อุดมการณ์.
สุนทร, สุนทร-(-ทอน, -ทอนระ-, -ทอระ-) ว. งาม, ดี, ไพเราะ, เช่น วรรณคดีเป็นสิ่งสุนทร, มักใช้เข้าสมาสกับคำอื่น เช่น สุนทรพจน์ สุนทรโวหาร.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
speech of acceptance; speech, acceptanceสุนทรพจน์ตอบรับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
speech, acceptance; speech of acceptanceสุนทรพจน์ตอบรับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
speech, keynoteสุนทรพจน์หลัก [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
acceptance speech; acceptance, speech ofสุนทรพจน์ตอบรับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
acceptance, speech of; acceptance speechสุนทรพจน์ตอบรับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
keynote speechสุนทรพจน์หลัก [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Baccalaureate addressสุนทรพจน์ในวันรับปริญญา [TU Subject Heading]
Occasional speechesสุนทรพจน์ในโอกาสต่าง ๆ [TU Subject Heading]
Speeches in Congressสุนทรพจน์ในรัฐสภา [TU Subject Heading]
Speeches, addresses, etc.สุนทรพจน์ [TU Subject Heading]
Speeches, addresses, etc., Americanสุนทรพจน์อเมริกัน [TU Subject Heading]
Speeches, addresses, etc., Chineseสุนทรพจน์จีน [TU Subject Heading]
Speeches, addresses, etc., Englishสุนทรพจน์อังกฤษ [TU Subject Heading]
Speeches, addresses, etc., Thaiสุนทรพจน์ไทย [TU Subject Heading]
Consular office Declared ?Non grata?เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต]
Marshall Planแผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Parliamentary Diplomacyการทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Forgot my speech notes.พ่อลืมสุนทรพจน์ Jumanji (1995)
He's not an officer, for all his voice and his linear belt.สำหรับเสียงของเขาและเข็มขัด เชิงเส้นของเขา ดังนั้นเขาไม่อาจทำให้การกล่าว สุนทรพจน์ How I Won the War (1967)
Noon! I'd better rehearse my speech!เที่ยง งั้นผมรีบซ้อมสุนทรพจน์ก่อน Blazing Saddles (1974)
Do you know she was picked to give the graduation speech?หนูรู้เกี่ยบกับเรื่องที่ แม่ของหนูพูดสุนทรพจน์ตอนเรียนจบนั่นหรือเปล่า? X-Ray (2001)
The Torch prints the graduation speech every year, right?ทอร์ชของเธอเก็บบันทึกสุนทรพจน์ไว้ทุกปีใช่ไหม? X-Ray (2001)
Maybe I could track something down for you. Do you know who gave this speech?บางทีฉันอาจจะหาข้อมูลให้เธอได้นะ เธอรู้ไหมว่าใครเป็นคนกล่าวสุนทรพจน์นี้? X-Ray (2001)
Tried to find your graduation speech, but they didn't print it.หนูพยายามหาคำพูดสุนทรพจน์ของแม่ แต่มันกลับไม่เคยถูกพิมพ์ไว้เลย X-Ray (2001)
As principal of Smallville High, I would like to introduce the valedictorian of the class of 1977, Miss Laura Potter.ในฐานะที่เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสมอลวิลล์ ฉันอยากจะขอแนะนำ.. ผู้นำกล่าวคำสุนทรพจน์ประจำปี 1977 มิสลอร์ร่า พอตเตอร์ X-Ray (2001)
You know when I come here most is when I have to make a speech... and I get nervous.รู้ไหม ผมมาที่นี่บ่อยสุด เวลาผมต้องกล่างสุนทรพจน์... ...แล้วรู้สึกเกร็ง Maid in Manhattan (2002)
Yeah, a smooth, and I'd like to think a... very... compelling speech.ใช่ ความลื่นไหล ฉันอยากจะคิด... สุนทรพจน์ที่โน้มน้าวใจคน Maid in Manhattan (2002)
And this guy calls up, and he's talking about his senior quote and DJ Justice says, "What was great about your quote?"และมีคนนึงโทรมา เขาพูดเรื่อง สุนทรพจน์ของเขา... แล้วดีเจจัสติสบอกว่า สุนทรพจน์ของคุณมีอะไรดี? Punch-Drunk Love (2002)
I postponed yearbook. I gotta work on my speech.ผมเลื่อนงานเรื่องหนังสือรุ่นหน่ะครับ กะจะซ้อมเรื่องสุนทรพจน์ซะหน่อยครับ The Girl Next Door (2004)
- What's the speech you're working on?ครับ มันเยี่ยมมาก -ซ้อมสุนทรพจน์อะไรอยู่หล่ะ? The Girl Next Door (2004)
I mean, there's some stiff competition, and they only pick one of us so I'll just have to blow them away with my speech.แบบว่า มีการแข่งขันด้วยหน่ะครับ คัดเอาแค่คนเดียวด้วย หมายถึงว่าผมต้องทำให้เขาชอบสุนทรพจน์ของผมให้ได้ The Girl Next Door (2004)
That's your speech?นั่นเหรอ สุนทรพจน์ของนาย? The Girl Next Door (2004)
It's really kicking in right now.-อย่าพยายามพูดมาก เข้าใจ? -พูดมากนี่นะ? ฉันกำลังจะไปกล่าวสุนทรพจน์นะ The Girl Next Door (2004)
- Wait, wait. In a few minutes, we'll begin the speeches, and we hope...อีกไม่กี่อึดใจ เราจะเริ่ม การกล่าวสุนทรพจน์ และเราหวังว่า... The Girl Next Door (2004)
It's funny, I have this whole speech prepared and I've been practicing for weeks but you know what?ฟังดูตลกๆนะ ผมเตรียมสุนทรพจน์... ใช้เวลาซ้อมเป็นอาทิตย์ แต่รู้ไรไหม? The Girl Next Door (2004)
Is this where you give me the "Be a good soldier" speech?นี่คือสิ่งที่คุณ ให้ฉันเหรอ สุนทรพจน์ "เป็นทหาร ที่ดีนะ" Pilot (2004)
No, this is ere I give you the speech about how you're my best field scientist and Tom is my best lead investigator, ไม่ ฉันเองที่จะให้ สุนทรพจน์ ว่าคุณคือ นักวิทยาศาสตร์ที่ดี่ที่สุดของฉัน และทอมเป็นหัวหน้า สืบสวนที่ดีที่สุด Pilot (2004)
Have I missed all the boring speeches?ผมพลาดสุนทรพจน์น่าเบื่อไปรึยัง Goal! The Dream Begins (2005)
I'm making one of the "boring" speeches. This distraction is not welcome.ผมนี่ละคนกล่าวสุนทรพจน์ "น่าเบื่อ" ที่นี่ไม่ต้อนรับคนก่อกวน Goal! The Dream Begins (2005)
Tomorrow Goodchild will be preparing his address to the councilพรุ่งนี้กู๊ดชายลด์จะเตรียม สุนทรพจน์ต่อสภา Æon Flux (2005)
- Trevor, your speech.- เทรเวอร์ สุนทรพจน์ของคุณ Æon Flux (2005)
Preparing his speech.ระหว่างเตรียมสุนทรพจน์ Æon Flux (2005)
Some say the reason it's taken him this long to get married is his fear... of making just this speech, but he's making it now!บ้างก็ว่าที่เจ้าบ่าวเราโอ้เอ้ ไม่ยอมแต่งซะที เพราะกลัวครับ กลัวต้องกล่าวสุนทรพจน์ อันที่กำลังจะต้องกล่าวตอนนี้ Imagine Me & You (2005)
"ln her acceptance speech, the distinguished scientist..."ตอนกล่าวสุนทรพจน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง..." Imagine Me & You (2005)
You gave a speech at the entrance ceremony of college.คุณกล่าวสุนทรพจน์ในงานต้อนรับเข้ามหาลัย Death Note: The Last Name (2006)
Next, a few words from our freshman class representative.รายการต่อไปนี้ เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ จากตัวแทนน้องใหม่ Crows Zero (2007)
-...is set to arrive in Los Angeles to deliver a speech before the security league.- ... เดินทางมาถึงในวันนี้... เพื่อกล่าวสุนทรพจน์ ต่อหน้าสมัชชาความมั่นคง... Pilot (2007)
As muchas I love the speech about not needingmaterial things from a guy who hasthat much product in his hair, this party is about excess, not exposition.ฉันรักสุนทรพจน์นี้มากพอๆกับที่ ฉันไม่ต้องการสิ่งของนอกกายนั่นแหละ จากผู้ชายที่มี สิ่งนั้นอยู่ในผมเค้าเลยนะ this party is about excess, not exposition. Bad News Blair (2007)
It's not like I'll give a speech at UN or something.มันคงไม่เหมือนกับว่าฉันกำลังกล่าวสุนทรพจน์ หรืออะไรใช่ไม๊ Unstoppable Marriage (2007)
A speech wouldn't be a problem.สุนทรพจน์ไม่น่าจะมีปัญหา Unstoppable Marriage (2007)
I'm better at digging holes in the ground than making speeches.ผมถนัดขุดหลุมมากกว่า กล่าวสุนทรพจน์ There Will Be Blood (2007)
I'm thinking about what I didn't say in the speech.ผมลืมกล่าวอะไรไปบ้างหรือเปล่า ในสุนทรพจน์ Mr. Brooks (2007)
In Kolkotta you say, Ami tumake bhalo bhashi! (Bengali words)ในกัลกัตต้า คุณเคย กล่าวสุนทรพจน์ว่า เพื่อนคือเครื่องหมายการค้า Heyy Babyy (2007)
Like those speeches Castro used to make.เหมือนคาสโตรอ่านสุนทรพจน์เลย The Mist (2007)
Is that where you were during bree's acceptance speech--ใช่ตอนที่บรีกำลังกล่าวสุนทรพจน์อยู่รึป่าว Hello, Little Girl (2008)
I have a speech tonight.คืนนี้ผมต้องกล่าวสุนทรพจน์ด้วย I Don't Wanna Know (2008)
That speech was boring.สุนทรพจน์นั่นน่าเบื่อ Lucky Thirteen (2008)
Well, do we want to lift some quotes from the "stand up and be counted" speech in 1970?เราต้องการคัดเลือกบางข้อความ ตั้งแต่เริ่มต้นและจนถึง\ นับรวมสุนทรพจน์ในปี 1970 ด้วยมั้ย Frost/Nixon (2008)
You don't give this big speech at graduation, you don't exist.ถ้านายไม่บอกเธอ ตอนนายกล่าวสุนทรพจน์ นายแย่แน่ I Love You, Beth Cooper (2009)
Patty asked me to organize the speeches.แพตตี้ขอให้ฉันแต่งสุนทรพจน์ I Agree, It Wasn't Funny (2009)
My fellow Americans this will be the last time I address you.พี่น้องชาวอเมริกัน นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผม จะกล่าวสุนทรพจน์ 2012 (2009)
I should make some kind of speech.ฉันควรต้องพูดสุนทรพจน์ซักหน่อยนะ Look Into Their Eyes and You See What They Know (2009)
[ whispering ]: Not in those exact words.นั่นไม่ใช่สุนทรพจน์นะ Air: Part 1 (2009)
It will take more than speeches and guided missiles.มันต้องใช้อะไรมากกว่าแค่สุนทรพจน์ และมิสไซล์ติดตาม Introduction to Film (2009)
I am talking about your speechesผมกำลังพูดถึงสุนทรพจน์ของคุณ Introduction to Film (2009)
How many of these speeches do you think have been given since the blackout?จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ กันสักอีกกี่หน ที่จะต้องเกิดภายหลัง เหตุการณ์หมดสติ 137 Sekunden (2009)
It was worth taking military transport from Washington for that little speech.มันคุ้มค่าทีเดียว ในการพูดคุยเรื่อง โยธาธิการของกองทัพ จากวอร์ชิงตัน สำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ เสียเล็กน้อยก่อน White to Play (2009)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
แสดงสุนทรพจน์[sadaēng suntharaphot] (v, exp) EN: make a speech  FR: faire un discours
สุนทรพจน์[suntharaphot] (n) EN: speech ; address ; harangue ; oration  FR: discours [ m ] ; allocution [ f ]
สุนทรพจน์อำลา[suntharaphot amlā] (n, exp) EN: farewell speech  FR: discours d'adieu [ m ]
สุนทรพจน์ต้อนรับ[suntharaphot tønrap] (n, exp) EN: welcome speech  FR: discours de bienvenue [ m ] ; allocution de bienvenue [ f ]

English-Thai: Longdo Dictionary
SONA(n) ย่อมาจาก State of Nation Address สุนทรพจน์ที่ผู้นำกล่าวสรุปสถานการณ์ของประเทศ

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
address(n) คำปราศรัย, See also: สุนทรพจน์, กระแสพระราชดำรัส, Syn. oration, speech
barnstorm(vi) ตระเวณไปที่ต่างๆ เพื่อแสดงละครหรือแสดงสุนทรพจน์
discourse on(phrv) กล่าวสุนทรพจน์เรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
discourse upon(phrv) กล่าวสุนทรพจน์เรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
declaim(vt) แสดงสุนทรพจน์อย่างฉะฉาน, See also: อ่านบทกวีอย่างฉะฉานจริงจัง, Syn. recite
declaim(vi) อ่าน, See also: ท่อง บทกวี, สุนทรพจน์ ฯลฯ, อย่างมีอรรถรส, Syn. recite
declamation(n) การแสดงสุนทรพจน์อย่างฉะฉาน, See also: การพูดหรืออ่านอย่างฉะฉาน
deliver(vt) พูดสุนทรพจน์, See also: แสดงการบรรยาย, ปาฐกถา, Syn. tell, recite
discourse(n) การบรรยายที่เคร่งเครียด, See also: การสนทนา, การปาฐกถา, การกล่าวสุนทรพจน์, Syn. speech, verbalization, address, monoloque
maiden speech(idm) สุนทรพจน์ครั้งแรก
inauguration(n) พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง (ทางการเมือง), See also: สุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง, Syn. coronation, enthronement
orate(vt) กล่าวสุนทรพจน์ (โดยเฉพาะในที่สาธารณะ), See also: ปราศรัย, กล่าวอย่างเป็นทางการ, Syn. address, speak, declaim
oration(n) การพูดปราศรัยในที่สาธารณะ, See also: การกล่าวสุนทรพจน์, Syn. address, speech
oratorical(adj) เกี่ยวกับศิลปะในการพูดสุนทรพจน์
oratory(n) ศิลปะในการพูดสุนทรพจน์, See also: ศิลปะในการแสดงคำปราศรัย, Syn. rhetoric, eloquence
speakership(n) การแสดงสุนทรพจน์
speech(n) คำพูด, See also: ถ้อยคำ, คำบรรยาย, คำปราศรัย, สุนทรพจน์, Syn. talk, utterance
speechify(vi) กล่าวสุนทรพจน์
speechmaker(n) ผู้กล่าวคำปราศัย, See also: ผู้กล่าวสุนทรพจน์, Syn. speaker, talker
speechwriter(n) ผู้เขียนคำสุนทรพจน์
valedictorian(n) ผู้แทนผู้เรียนที่กล่าวสุนทรพจน์ในวันรับประกาศนียบัตร, See also: ตัวแทนนักเรียนหรือนักศึกษาที่กล่าวคำอำลา
valedictory(n) สุนทรพจน์กล่าวอำลา, Syn. address, lecture, speech
words(n) สุนทรพจน์, See also: การพูด, Syn. speech, talk

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
allocution(แอลโลคิว' เชิน) n. การแสดงสุนทรพจน์ (formal speech)
declamation(เดคคละเม'เชิน) n. การแสดงสุนทรพจน์แบบโผงผาง, พูดชุมชน, การพูดที่ครึกโครม, การคุยโว, การท่องออกเสียง, See also: declamatory adj. ดูdeclamation
delivery(ดิลิฟ'เวอรี) n. การส่ง, การนำส่ง, การกล่าว, การกล่าวสุนทรพจน์, การโยน (ลูกบอล) , สิ่งที่นำส่ง, การคลอดบุตร, การส่งสินค้าจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ, Syn. transfer
orate(โอเรท', ออเรท', ออ'เรท) vi., vt. กล่าวคำปราศรัย, กล่าวคำโวหาร, แสดงสุนทรพจน์
oration(โอเร'เชิน) n. คำโวหาร, คำปราศรัย, คำสุนทรพจน์, การแสดงสุนทรพจน์, ศิลปะแห่งการพูด, Syn. address
oratory(ออ'ระโทรี) n. ศิลปะการแสดงสุนทรพจน์, คำสุนทรพจน์, คำโวหาร, คำปราศรัย
speech(สพีชฺ) n. การพูด, วิธีการพูด, คำพูด, คำบรรยาย, คำสุนทรพจน์, วิชาเกี่ยวกับการพูด, ข่าวลือ, ภาษาชนชาติ, ภาษา., Syn. utterance
speechless(สพีชฺ'ลิส) adj. เงียบอึ้ง, ไม่พูด, พูดไม่ออก, เป็นใบ้, ไม่มีถ้อยคำ, ไม่มีการกล่าวสุนทรพจน์, ไม่สามารถจะถ่ายทอดเป็นคำพูดได้., See also: speechlessness n.
tribune(ทริบ'บิวน์) n. ผู้พิทักษ์สิทธิของประชาชน, เจ้าหน้าที่คุ้มครองประชาชน, เวทีแสดงสุนทรพจน์, เวทีอภิปราย, ยกพื้นสำหรับการแสดงสุนทรพจน์, See also: tribuneship n.

English-Thai: Nontri Dictionary
address(n) คำปราศรัย, สุนทรพจน์, การจ่าหน้าซอง, ที่อยู่
declaim(vi) พูดในที่ชุมนุมชน, แสดงปาฐกถา, แสดงสุนทรพจน์
declamation(n) การพูดในที่ชุมนุมชน, ปาฐกถา, การแสดงสุนทรพจน์
delivery(n) การพูดจา, การกล่าวสุนทรพจน์, การส่งมอบ, การคลอดลูก
oration(n) การกล่าวปราศรัย, การแสดงสุนทรพจน์, โวหาร
orator(n) ผู้ปราศรัย, ผู้แสดงสุนทรพจน์, นักพูด, นักโต้วาที, โจทก์
oratorical(adj) ในเชิงโวหาร, เกี่ยวกับการแสดงสุนทรพจน์
oratory(n) คำปราศรัย, สุนทรพจน์, วาทศิลป์
speaker(n) ผู้พูด, โฆษก, พิธีกร, ผู้บรรยาย, ลำโพงวิทยุ, ประธาน, การแสดงสุนทรพจน์
speaking(n) การแสดงสุนทรพจน์, การพูด, การบรรยาย, การแสดงปาฐกถา
speech(n) สุนทรพจน์, คำพูด, คำปราศรัย, คำบรรยาย, วาทะ

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
panegyric(n) บทสดุดี คือสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการหรือต่อมาเป็นบทเขียนที่ใช้ในการสรรเสริญบุคคลหรือสิ่งของ เป็นคำที่มาจากภาษากรีกที่หมายถึงสุนทรพจน์ที่เหมาะแก่ที่ประชุม (panegyris) ในเอเธนส์การกล่าวบทสดุดีจะทำกันในเทศกาลระดับชาติหรือในการแข่งขันกีฬาโดยมีจุดประสงค์ในการเร้าใจผู้ที่มาร่วมเพื่อให้ปฏิบัติตนเช่นตัวอย่างอันดีของบรรพบุรุษ (Source:wikipedia.org), See also: eulogy

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
台詞[せりふ, serifu] (n) (สพีชฺ) n. การพูด, วิธีการพูด, คำพูด, คำบรรยาย, คำสุนทรพจน์, วิชาเกี่ยวกับการพูด, ข่าวลือ, ภาษาชนชาติ, ภาษา., S. utterance

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
発言[はつげん, hatsugen] TH: คำกล่าวสุนทรพจน์  EN: speech

German-Thai: Longdo Dictionary
Rede(n) |die| คำกล่าว, สุนทรพจน์

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top