Search result for

*เล็ง*

   
Languages
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: เล็ง, -เล็ง-
Some results are hidden.
configure
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
เล็งเห็น(vt) Foresee, See also: S. anticipate, envision

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
เล็ง(v) stare, See also: aim, Example: ดวงเมืองเริ่มทะมึนมืดด้วยพลังดาวอังคารเล็งมาที่ดาวเสาร์อย่างรุนแรง, Thai Definition: อาการที่ดาวพระเคราะห์ดวงหนึ่งอยู่ในเรือนตรงกันข้ามกับดาวพระเคราะห์อีกดวงหนึ่งซึ่งอยู่ในเรือนที่ 7 นับจากเรือนที่ตนอยู่, Notes: (โหราศาสตร์)
เล็ง(v) aim at, See also: point, level, Syn. เพ่งมอง, หมาย, หมายเฉพาะ, Example: เขาเล็งที่ตรงนี้เอาไว้แล้วมันเหมาะที่จะทำเป็นห้างสรรพสินค้า, Thai Definition: มองจ้องตรงไปอย่างมีจุดหมาย

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
กะเล็งน. แขกกลิงค์. (ดู กลิงค์).
เพ่งเล็งก. มุ่งจะเอา, มุ่งจะติโทษ, มุ่งถึง.
ล้งเล้งก. ต่อว่าหรือดุว่าด้วยเสียงเอ็ดอึง เช่น ฉันทำแก้วแตกเขามาล้งเล้งเอากับฉันใหญ่.
ล้งเล้งว. อาการที่ส่งเสียงเอ็ดอึงราวกับทะเลาะวิวาทกัน เช่น พูดกันล้งเล้ง.
เล็งก. เพ่งมอง, จ้องตรงไป, หมาย, หมายเฉพาะ
เล็งอาการที่ดาวพระเคราะห์ดวงหนึ่งอยู่ในเรือนตรงกันข้ามกับดาวพระเคราะห์อีกดวงหนึ่งซึ่งอยู่ในเรือนที่ ๗ นับจากเรือนที่ตนอยู่.
เล็งญาณก. พิจารณาเห็นแจ้งด้วยปัญญาที่เกิดจากสมาธิ.
เล็งปืนก. ใช้สายตากำหนดเป้าหมายที่จะยิงเพื่อให้แม่น.
เล็งผลเลิศก. คาดหวังเฉพาะผลได้หรือผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม.
เล็งระดับก. ใช้เครื่องมือวัดหาความเที่ยงและความเสมอกันทั้งทางนอนและทางดิ่ง.
เล็งลัคน์น. การที่ดาวพระเคราะห์ดวงใดอยู่ในเรือนที่ ๗ นับจากเรือนลัคน์.
เล้งก. ขึ้นเสียงดัง เช่น เมื่อเช้าถูกเจ้านายเล้ง.
เล่งฮื้อน. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Hypophthalmichthys molitrix (Valenciennes) ในวงศ์ Cyprinidae ลำตัวป้อม ท้องเป็นสันแหลม ตาอยู่ค่อนไปทางจะงอยปากแต่ต่ำกว่าแนวแกนลำตัว เกล็ดเล็กในแนวเส้นข้างตัวมี ๑๐๗-๑๑๕ เกล็ด เป็นปลาที่ชาวจีนนำมาเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่น ๆ ในบ่อเดียวกัน ขนาดยาวได้ถึง ๑ เมตร.
กระทำโดยเจตนาก. กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น.
กล้องวัดมุมน. กล้องสำรวจชนิดหนึ่ง สำหรับวัดมุมแนวนอนและแนวยืนได้ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าที่หมายเล็งจะอยู่บนพื้นดินหรือในท้องฟ้าก็ตาม ประกอบด้วยจานองศาแนวนอนกับแนวยืนเพื่อใช้วัดมุม.
กลิงค์(กะลิง) น. เรียกชาวอินเดียใต้พวกหนึ่งที่มีผิวดำ ว่า แขกกลิงค์, กลึงค์ หรือ กะเล็ง ก็ว่า.
จ้อง ๒ก. เพ่งตาดูหรือมุ่งมองดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น จ้องหน้า, มุ่งคอยจนกว่าจะได้ช่อง, คอยที, เช่น จ้องจับผิด จ้องจะทำร้าย จ้องจะแทง, กิริยาที่เอาปืนหรืออาวุธเล็งมุ่งตรงไปยังสิ่งใดสิ่งหนึ่ง.
ชมเชยแสดงกิริยาเสน่หา เช่น จักปราไสสอง ทรามรัก เล็งพระภักตร์แล้วชมเชย (ม. คำหลวง หิมพานต์).
ชลาสินธุ์น. ห้วงน้ำ เช่น ข้าเป็นไรแทรกขนสุบรรณบิน เร็วรีบยิ่งมหาวายุพัด กวักกวัดปีกข้ามชลาสินธุ์ (กากี), สายน้ำ เช่น พระเหลือบเล็งชลาสินธุ์ ในวารินทะเลวน ก็เห็นรูปอสุรกล ซึ่งกลายแกล้งเป็นสีดา (พากย์นางลอย).
ไตร ๑(ไตฺร) ว. ไกร, ยิ่ง, เช่น ปางนั้นพระพลเทพก็เล็งศัตรูไตร สว่างไสวไหว พลพีริยโจษจรร (อนิรุทธ์).
ทักข์ ๒ก. ดู, แล, เห็น, เช่น เล็งทักข์อาทรเธอ เท่าฟ้า, เล็งทักข์ทุรเวทแล้ว เล็งดอย ดงนา (ลำนํ้าน้อย).
ปลาจีนน. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดใหญ่หลายชนิดในวงศ์ Cyprinidae มีประวัติว่าชาวจีนได้นำเข้ามาเลี้ยงจากประเทศจีนเพื่อใช้เป็นอาหาร เช่น เฉาฮื้อหรือปลาเฉา [ Ctenopharyngodon idellus (Cuvier) ] เล่งฮื้อหรือปลาเล่ง [ Hypophthalmichthys molitrix (Cuvier) ] ซ่งฮื้อหรือปลาซ่ง ( H. nobilisRichardson) ทั้งยังอาจหมายถึงปลาหลีฮื้อหรือปลาไน [ Cyprinus carpio (Linn.) ] ด้วย.
เป้า ๑โดยปริยายหมายความว่า เป็นที่เพ่งเล็ง เช่น เป็นเป้าสายตา.
เป้าสายตาน. บุคคลหรือสิ่งที่เป็นที่เพ่งเล็งหรือสนใจของผู้อื่น เช่น คนงามย่อมเป็นเป้าสายตาของใคร ๆ.
เพ่งก. จ้องดู, เล็งดู, (ใช้แก่ตา) เช่น เพ่งสายตา เพ่งหนังสือ
มอระกู่น. เครื่องสูบยาของชาวอาหรับ ลักษณะเป็นขวดทรงสูงหรือหม้อมีขาหยั่ง ด้านบนมีถ้วยสำหรับใส่ยาเส้นผสมเครื่องเทศ เครื่องหอม หรือผลไม้ มีฝาปิด มีท่อต่อจากถ้วยยาลงมาถึงก้นขวดที่มีน้ำหล่ออยู่ เมื่อดูดจะทำให้ควันผ่านน้ำขึ้นมา, เขียนเป็น มรกู่ มระกู่ มะระกู่ หรือ มาระกู่ ก็มี เช่น ออกจากเก๋งเล็งแลเห็นแต่แขก ด้วยแปลงแปลกปลอมปนคนทั้งหลาย มีตุ้งก่ามาระกู่เหมือนผู้ชาย พระมุ่งหมายมองตามดูทรามเชย (อภัย) (ช.).
มุมกดลงน. มุมระหว่างเส้นตรงที่ลากจากจุดเล็งไปยังวัตถุกับเส้นตรงแนวระดับที่ลากผ่านจุดเล็งในเมื่อวัตถุนั้นอยู่ตํ่ากว่าจุดเล็ง, มุมก้ม ก็เรียก.
มุมยกขึ้นน. มุมระหว่างเส้นตรงที่ลากจากจุดเล็งไปยังวัตถุกับเส้นตรงแนวระดับที่ลากผ่านจุดเล็งในเมื่อวัตถุนั้นอยู่สูงกว่าจุดเล็ง, มุมเงย ก็เรียก.
ยานเกราะน. พาหนะล้อหรือสายพานที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันตนเองจากอาวุธยิงเล็งตรงหรืออาวุธยิงเล็งจำลอง และป้องกันอันตรายจากวัตถุระเบิดหรือป้องกันอันตรายจากนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี ในระดับหนึ่ง.
สมผุส(-ผุด) น. การคำนวณชนิดหนึ่งเกี่ยวกับโลกและดาวพระเคราะห์เล็งร่วมกัน.
ส่องเพ่งมอง เช่น ส่องกล้อง, เล็ง เช่น ส่องปืน
หยั่งทราบ, หยั่งรู้ก. เล็งรู้ความจริง, ค้นหาเพื่อให้รู้ความจริง.
หลิ่วตาก. หรี่ตาลงข้างหนึ่ง เพื่อเล็งดูด้วยตาอีกข้างหนึ่ง, โดยปริยายหมายถึงให้สัญญาณด้วยอาการเช่นนั้นเพื่อให้ลงมือทำการหรือไม่ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเพื่อแสดงอาการล้อเลียนหยอกล้อ.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
seekเพ่งเล็ง, ค้นหา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
antipodal pointsจุดคู่เล็งยัน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
New Diplomacyการทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต]
Open and Caring Societiesสังคมเปิดและเอื้ออาทร เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์อาเซียนปี พ.ศ. 2563 ที่ได้เล็งเห็นว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวมในปีดังกล่าวจะมีสังคมเปิดที่ประชาชน ยึดมั่นในเอกสักษณ์แห่งชาติของตนและเข้าถึงโอกาสของการพัฒนาความเป็นมนุษย์ อย่างสมบูรณ์ได้อย่างเท่าเทียมกัน และจะเป็นสังคมเอื้ออาทรที่ความหิวโหยทุกข์โภชนาการ การสูญเสียและความยากจนจะไม่ใช่ปัญหาพื้นฐาน และเป็นสังคมที่มีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
alidadealidade, บรรทัดเล็ง [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
view finderตัวเล็งภาพ, ส่วนประกอบของกล้องถ่ายรูป  ทำให้มองเห็นขอบเขตของภาพที่ต้องการบันทึกบนฟิล์ม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
จุดเล็ง[jut leng] (n, exp) EN: target
การเล็งกำไร[kān leng kamrai] (n, exp) EN: speculation
เล็ง[leng] (v) EN: aim ; take a bead on ; stair ; point ; level ; target  FR: viser ; pointer
เล็งปืนใส่[leng peūn sai] (v, exp) EN: aim a gun at  FR: pointer une arme dans la direction de
เพ่งเล็ง[phengleng] (v) EN: have an eye on ; aim at ; concentrate on ; give particular attention to ; watch ; mark  FR: viser ; scruter ; chercher à
ปวยเล้ง[pūaylēng] (n) EN: Spinach

English-Thai: Longdo Dictionary
receive(vi, vt) รับ, ได้รับ, รับรู้, ประสบ, ค้ำจุน, กำจัดวง, บรรจุ, ระงับ, ทักทาย, ต้อนรับ, เล็งเห็น, Syn. get

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
aim(n) การเล็ง
aim(vi) ตั้งเป้า, See also: เล็งเป้าหมาย, มุ่งเป้า
aim(n) ทักษะการเล็ง
aim at(phrv) เล็ง (ปืน) ไปที่, Syn. shoot at, take at
aim for(phrv) เล็ง (ปืน) ไปที่, Syn. shoot at, take at
concentrate at(phrv) มุ่งไปที่, See also: เพ่งเล็งไปที่
fire at(phrv) ยิงไปที่, See also: เล็งไปที่, มุ่งไปที่
farseeing(adj) ซึ่งมองการณ์ไกล, See also: เล็งเห็นการณ์ไกล, มีสายตายาว, Syn. farsighted
farsighted(adj) ซึ่งมองการณ์ไกล, See also: เล็งเห็นการณ์ไกล, มีสายตายาว, Syn. farseeing, longsighted, Ant. nearsighted
farsightedness(n) การมีสายตายาวไกล, See also: การมองการไกล, การมีเล็งเห็นการณ์ไกล, Syn. acumen, vision
focus(vt) ปรับ (ภาพ) ให้เห็นชัดเจน, See also: เพ่ง, เล็ง, โฟกัส, Syn. zoom in, centre
have something lined up in one's sights(idm) มองเห็นชัดจากการเล็งปืน
home in on(phrv) มุ่งไปที่, See also: เล็งไปที่, พุ่งเป้าไปที่, Syn. range in, zero in on
home onto(phrv) มุ่งไปที่, See also: เล็งไปที่, พุ่งเป้าไปยัง, Syn. range in, zero in on
gunpoint(n) ปากกระบอกปืน, See also: การเล็งปืน
level at(phrv) เล็งไปที่ (การมองหรือการใช้อาวุธ), See also: มองไปที่, จ้องไปที่
mark down(phrv) เล็ง, See also: หมายตา, เพ่งเล็ง, เลือก, ทำให้เป็นรอย, Syn. mark out
mark for(phrv) เพ่งเล็ง, See also: มุ่งหมาย, มุ่งความสนใจที่
pointer(n) พลปืนทำหน้าที่เล็งปืน
point at(phrv) เล็งไปทาง, See also: นำไปทาง
present at(phrv) จ่อ (อาวุธ) ไปที่, See also: จ้องไปที่, เล็ง
see(vt) เข้าใจ, See also: เล็งเห็น, ตระหนัก, ประจักษ์แจ้ง
see(vi) เข้าใจ, See also: เล็งเห็น, ตระหนัก, ประจักษ์แจ้ง, Syn. comprehend, understand, perceive
sight(vi) เล็ง, See also: เล็งวัด, ส่อง
sight(vt) เล็ง, See also: เล็งวัด, ส่อง
stare(vi) จ้องมอง, See also: เพ่งมอง, เพ่ง, เล็ง
stare(vt) จ้องมอง, See also: เพ่งมอง, เพ่ง, เล็ง
see beyond(phrv) เล็งเห็น, See also: มองเห็น, เข้าใจ, Syn. look beyond
target(vt) ตั้งเป้าหมาย, See also: เล็ง, Syn. aim, direct, point
zero in(idm) เล็งปืนไปยัง
zero in on(phrv) เล็งปืนไปยัง, Syn. home in on, range on

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
aim(เอม) vt., vi., n. เล็ง, เข้าหา, มุ่งหมาย, จุดประสงค์, ความมุ่งหมาย, การเล็งเป้า. -aimer n. -aimful adj -aimless adj. -aimlessness n., Syn. mark, goal, aspiration
bombsightn. เครื่องเล็งเป้าการยิงหรือทิ้งระเบิด
collimate(คอล'ละเมท) { collimated, collimating, collimates } vt. ปรับเข้าให้ตรง, เล็งให้ตรง, ทำให้ขนาน, ปรับสภาพให้ชัด., See also: collimation n. ดูcollimate
concentrate(คอน'เซินเทรท) { concentrated, concentrating, concentrates } vt., vt. รวม, เพ่งเล็ง, รวมศูนย์, รวมกำลัง, อัดแน่น, ทำให้แน่น, ตั้งอกตั้งใจ, สำรวมความคิด. n. สิ่งที่อัดแน่น, สิ่งที่เข้มข้น, See also: concentrative adj. ดูconcentrate concentrator n. ดูconcent
cross hairsn. เส้นไขว้กล้องสำหรับหมายวัตถุที่ส่องดู, เส้นกากบาทในกล้องปืนเล็งเป้า + <เครื่องหมาย>เป็นรูปลักษณ์ของตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) แบบหนึ่ง ที่แตกต่างกันออกไปในบางโปรแกรม เช่น ในโปรแกรมการวาดภาพในระบบวินโดว์ มักมีลักษณะเป็นเส้นตัดกัน (+) แทนที่จะเห็นเป็นลูกศรตามปกติ
direct(ดิเรคทฺ', ไดเรคทฺ') v. ชี้ทาง, นำทาง, ชี้แนว, แนะแนว, ควบคุม, อำนวยการ, บัญชาการ, จ่าหน้าซอง, มุ่งส่ง, เล็ง, บ่าย adj., adv. โดยตรง, เปิดเผย, แน่นอน, เด็ดขาด, See also: directness n., Syn. control, straight, candid
direction(ดิเรค'เชิน, ไดเรค'เชิน) n.การชี้ทาง, ทิศทาง, การบัญชา, การควบคุม, การเล็ง, การจ่าหน้าซอง, การมุ่งหมาย, ชื่อและตำบลที่อยู่ของผู้รับ, Syn. way, aim
eye(อาย) n. ตา, นัยน์ตา, จักษุ, สายตา, การดู, การจ้อง, ความตั้งใจ, ความคิด, ข้อคิด, ทัศนะ, ช่อง, รู, ทิศทางลม, ตาของหน่อพืช, จุดของแสง, หลอดไฟที่มีแสง, สิ่งที่มีรูปคล้ายตา. -Phr. (keep an eye on เฝ้าดู, ดูแล, เพ่งเล็ง) -pl. eyes, eyen, Syn. observe, wa
lay(เล) { laid, laid, laying, lays } vt. วาง, ปู, พาด, ลาด, ปู, ปล่อย, ทา, ตีแผ่น, เผยแพร่, นำเสนอ, ฝัง, ลงราก, กำหนด, ตั้ง, วางแผน, วางโครง, ออกไข่, ทิ้งระเบิด, กำหนดโทษ, วางเดิมพัน, พนัน, กะ, วัด, กด, ระงับ, บรรเทา, มุ่งหมาย, เล็งปืน vi. วางไข่, ออกไข่, พนัน, วางเดิมพัน, ขันต่อ, วางโครงการ, นอ
lead(ลีด) { led, led, leading, leads } vt. นำ, พา, จูง, ชักจูง, จูงให้, ทำให้เกิดขึ้น, ล่อให้เกิดขึ้น, นำหน้า, พูดนำ, สั่ง, บัญชา, เป็นหัวหน้า, เล็ง vi. เป็นตัวนำ, นำไปสู่, นำหน้า, นำทาง, โจมตี, เล่นก่อน n. ตำแหน่งนำ, การนำ, ผู้นำ, สิ่งนำ, สำคัญที่สุด, ชั้นนำ, ตะกั่ว:Pb; -S...conduct, guide
level(เลฟ'เวิล) { leveled, leveling, levels } adj. ราบ, เรียบ, เป็นแนวนอน, เท่ากัน, ระดับเดียวกัน, สุขุม, รอบคอบ. vt. ทำให้ราบ, ทำให้เรียบ, ทำให้ได้ระดับ, ยกหรือลดระดับ, ทำให้ล้มลงสู่แนวพื้นดิน, ชกล้มลง, ทำให้เสมอภาคกัน, ทำให้เข้ากัน (สี) , เล็งเป้า, หันตาไปทางทิศใดทิศหนึ่ง vi. ทำให้ราบ, เล็ง, ใช้เครื่องวัดระดับ, บินขนานกับพื้น, บอกความจริง, adv. โดยแนวราบ, เป็นเส้นแนวนอน -Phr. (on the level ซื่อสัตย์ จริงใจ)
mark(มาร์ค) n. คะแนน, เครื่องหมาย, หมาย, แกงได, รอย, จุด, แต้ม, เป้า, เป้าหมาย, สัญลักษณ์, มาตรฐาน, ความสำคัญ, ชื่อเสียง, เส้นเริ่มออกวิ่ง, พรมแดน, หน่วยเงินตราของเยอรมน vt. ทำเครื่องหมาย, ทำรอย, ทำให้เป็นแผลเป็น, เป็นมลทิน, ทำให้เป็นจุด, ชัด, กะ, แสดงให้ปรากฎชัด, เพ่งเล็ง, มุ่งหมาย, บันทึก, ระวัง, สังเกต
point(พอยทฺ) n. จุด, จุดประสงค์, จุดเครื่องหมาย, จุดทศนิยม, สิ่งที่มีปลายแหลม, สถานที่, ตำแหน่ง, ทิศทาง, ขั้น, ตอน, สิ่งที่สำคัญที่เข้าใจ, ประเด็น, จุดสำคัญ, เอกลักษณ์, ข้อแนะ, ข้อคำขำ, หน่วย, หน่วยวัด, ขีด, คะแนน, การชี้, vt., vi. ชี้, เล็ง, แจ้ง, ทำให้แหลม, เสริม, ใส่จุดทศนิยม -Phr. (inpoint เข้าประเด็น ทำได้, เกี่ยวข้อง)
present(เพรส'เซินทฺ) adj. มีอยู่, ปรากฎอยู่, ปัจจุบัน, เดี๋ยวนี้, ต่อหน้า, เข้าร่วม n. เวลาปัจจุบัน, ขณะนี้, กริยาปัจจุบัน vt. เสนอ, ให้, ยื่น, มอบ, แนะนำ, นำเข้าพบ, บรรยาย, แสดงให้เห็น, เล็ง (ปืน) , ฟ้องร้อง n. ของขวัญ, See also: presents n. เอกสารปัจจุบัน -Phr. at pres
sight(ไซทฺ) n. สายตา, การเห็น, กำลังสายตา, ความสามารถในการเห็น, ภาพ, ทิวทัศน์, ขอบข่ายในการเห็น, การพิจารณา, การสังเกต, สิ่งที่เห็น, สิ่งที่เห็นแล้วทำให้สะดุ้งตกใจหรือเศร้าสลด, จำนวนมาก, ปริมาณมาก, vt. เห็น, มองเห็น, สังเกต, ทอด สายตา, ปรับภาพ, เล็ง. vi. ส่อง, เล็ง, เล็งวัด
spot(สพอท) n. จุด, แต้ม, ดวง, หยด, จุดด่าง, จุดดำ, มลทิน, สถานที่, ตำแหน่ง, เงินสด, จำนวนเล็กน้อย, ปริมาณที่ดื่ม, ไฟจ้าสำหรับส่องให้สว่างมาก, ไนท์คลับ, บาร์, สินค้าที่อยู่ vt. ทำให้เป็นจุด, ทำให้เปื้อนเปรอะ, จำได้, กำหนดตำแหน่ง, ทำให้กระจาย, เล็งเป้า, เปื้อน, เปรอะ. adj. ทันที, ฉับพลัน
traverse(แทรฟ'เวิร์ส) vt. เดินข้าม, ขวาง, ขัดขวาง, ตัดผ่าน, ตัดทะลุ, กระโดดเชือก, เดินขึ้นลงข้ามเขา, ทำให้เดินขวาง, สำรวจ, พิจารณาอย่างละเอียด, ตรวจตรา, ต้าน, ปฎิเสธ, หันและเล็งปืนไปยัง. vi. เดินข้าม, ผ่าน, หันกระบอกปลายปืนไปยัง, ปืนเขาในรูปตัวZ, การเดินข้าม, การเดินผ่าน, การขวาง
vane(เวน) n. ใบกังหันบอกทิศทางลม, ใบจักร, ใบพัด, แผ่นใบดังกล่าว, แพนขนนก, ผิวระนาบด้านนอกของจรวด, ขนนก, เครื่องเล็ง.
watchful(วอทชฺ'ฟูล) adj. ระมัดระวัง, คอยเฝ้าดู, เพ่งเล็ง, ตื่นตัว, รู้สึกตัว, See also: watchfully adv. watchfulness n., Syn. alert
zero(เซีย'โร) n., adj. ศูนย์, เครื่องหมายศูนย์, เลขศูนย์ (0) vi. ปรับให้เป็นศูนย์, ทำให้กลายเป็นศูนย์, เล็งปืน, -Phr. (zero in เล็กปืน เล็งเป้า)

English-Thai: Nontri Dictionary
aim(n) การเล็ง, จุดประสงค์, จุดมุ่งหมาย
aim(vi) เล็ง, เพ่ง, มุ่งหมาย
appreciate(vt) เห็นคุณค่า, เล็งเห็น, ยกย่อง, ชมเชย, สำนึกบุญคุณ, ซาบซึ้ง
direct(vt) มุ่ง, นำ, ชี้ทาง, ชี้แนว, เพ่งเล็ง, บัญชา, สั่ง, ควบคุม, บ่าย
lead(n) ตะกั่ว, ลูกปืน, ตัวอย่าง, การนำ, การเล็งปืน, การโจมตี
level(vt) ทำให้ได้ระดับ, เล็งปืน, เพ่งเล็ง, ปรับให้เสมอ
mark(vt) ทำเครื่องหมาย, สังเกต, เพ่งเล็ง, บันทึก
point(vt) ชี้, แสดงให้เห็น, เล็ง, แจ้ง, เสี้ยม, ใส่จุดทศนิยม
sight(n) สายตา, การเห็น, ภาพ, สิ่งที่เห็น, การเล็ง, การสังเกต
sight(vt) ส่อง, เห็น, เล็ง, สังเกต, ทอดสายตา
train(vi, vt) ฝึกฝน, อบรม, สั่งสอน, ดัด, เล็ง, จัดการ, ฝึกหัด
vane(n) ใบจักร, ใบพัด, เครื่องเล็ง, ขนนก

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
rear sight(n) ศูนย์ (เล็ง) หลัง
united arab emirates[ยูไน้ถิด อาหรับ เอมิเร็ทสฺ] สหอาหรับเอมิเรตส์ (ไม่มีคำว่า "รัฐ" เพราะไม่เน้นที่ States แต่เน้นที่ คนอาหรับ เขาก่อร่างสร้างประเทศเขาตั้งใจมองไปที่คนเล็กคนน้อย เขาเล็งไปที่ "ชาวอาหรับ" ที่เป็นประชาชนในอาณาบริเวณของเขา เขาจึงใช้ชื่อประเทศว่า United Arab Emirates: ภาษาอาหรับก็บอกชัดเจนอ่านจากคำขวาก่อนคือ อิมิเรต หากดูตรงกลางพบคำว่า "อาระบียะห์" ซึ่งหมายถึงคนอาหรับ และคำสุดท้ายแปลว่ามารวมกัน الإمارات العربيّة المتّحدة‎ )

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
狙う[ねらう, nerau] TH: เล็ง  EN: to aim at
見当[けんとう, kentou] TH: เล็ง

add this word


You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit


Are you satisfied with the result?



Discussions

About our ads
We know you don’t love ads. But we need ads to keep Longdo Dictionary FREE for users. Thanks for your understanding! Click here to find out more.
Go to Top