ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: โหน, -โหน- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ โหน | (v) swing, See also: hang, dangle, cling, Example: คุณกลับไปกรุงเทพฯ ไปแย่งขึ้นรถเมล์ เรือด่วน โหนรถไฟของคุณเถอะ ผมขออยู่ที่นี่เพื่อรักษาสมดุลของชีวิตก็แล้วกัน, Thai Definition: เหนี่ยวห้อย, เอามือเหนี่ยวให้ตัวลอยขึ้นไป | โหนก | (adj) protuberant, See also: bulging, protruding, projecting, Syn. นูน, ยื่น, Example: หน้าผากโหนกของเธอทำให้หน้าของเธอดูเด่น, Thai Definition: นูนยื่นออกมา | ห้อยโหน | (v) swing, Example: ฝูงลิงต่างห้อยโหนกันไปตามกิ่งไม้ใหญ่, Thai Definition: อาการที่เกาะราวหรือห่วง แล้วโยนตัวไปมา | ห้อยโหน | (v) swing and hang, Example: ฝูงลิงต่างห้อยโหนกันไปตามกิ่งไม้ใหญ่, Thai Definition: อาการที่เกาะราวหรือห่วง แล้วโยนตัวไปมา | โหนกแก้ม | (n) cheekbone, Example: คนเป็นโรคไซนัสอักเสบจะมีอาการปวดบริเวณดั้งจมูกและโหนกแก้ม, Thai Definition: ส่วนของแก้มตรงที่มีกระดูกนูนออกมา | อีโหน่อีเหน่ | (n) matter, See also: affair, subject, Example: ความผิดพลาดที่ระบบกลไกของรถไฟอาจทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นกับผู้โดยสารที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย, Thai Definition: เรื่องราวที่เกิดขึ้น (มักใช้ในประโยคปฏิเสธ) | กระดูกโหนกแก้ม | (n) jugal bone, See also: malar bone, cheek bone, zygomatic bone |
| กระโหนด | (-โหฺนด) น. ตาล เช่น ย่านป่าขายพัดกระโหนดคันกลมคันแบนใหญ่น้อย (อธิบายแผนที่กรุงศรีอยุธยา). | น้อยโหน่ง | น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางชนิด Annona reticulata L. ในวงศ์ Annonaceae ดอกคล้ายดอกน้อยหน่า แต่ผลโตกว่า เปลือกบางแต่เหนียว ค่อนข้างเรียบ ไม่นูนเป็นตา ๆ สีเขียวจาง ๆ ปนสีแดงเรื่อ ๆ เนื้อในผลหนาขาว รสหวานไม่สนิทเหมือนน้อยหน่า มีเมล็ดมาก. | ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ | ก. ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น, นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น. | ห้อยโหน | ก. อาการที่เกาะราวหรือห่วงเป็นต้น แล้วโยนตัวไปมา. | โหน | (โหนฺ) ก. เหนี่ยวห้อย, เอามือเหนี่ยวให้ตัวลอยขึ้นไป | โหน | ประจบประแจง เช่น เขามีนิสัยชอบโหนผู้บังคับบัญชา. | โหนก | (โหฺนก) ว. นูนยื่นออกมา เช่น หน้าผากโหนก. | โหนกแก้ม | น. ส่วนของแก้มตรงที่มีกระดูกนูนออกมา. | โหน่ง | (โหฺน่ง) ว. มีเสียงอย่างเสียงตีฆ้องวง. | อีโหน่อีเหน่ | น. เรื่องราวที่เกิดขึ้น ใช้ในทางปฏิเสธในสำนวนว่า ไม่รู้อีโหน่อีเหน่. | กายกรรม | การดัดตนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง, การเล่นห้อยโหนโยนตัวเป็นต้น. | กาฮัง | น. ชื่อนกเงือกชนิด Buceros bicornis Linn. ในวงศ์ Bucerotidae เป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่นกเงือก โคนขากรรไกรบนมีโหนกแข็งขนาดใหญ่ คอสีขาว ปีกสีดำพาดเหลือง ปลายปีกขาว หางยาวสีขาวพาดดำ ตัวผู้ตาสีแดง ตัวเมียตาสีขาว กินผลไม้และสัตว์ขนาดเล็ก, กก หรือ กะวะ ก็เรียก. | แก๊ก | น. ชื่อนกเงือกชนิด Anthracoceros albirostris (Shaw) ในวงศ์ Bucerotidae เป็นนกเงือกขนาดเล็กที่สุดของไทย ปากและโหนกแข็งสีงาช้างคาดดำ ลำตัวสีดำ ท้องสีขาว ปีกสีดำขอบปีกสีขาว หางสีดำปลายหางด้านล่างสีขาว กินผลไม้และสัตว์ขนาดเล็ก, แกง ก็เรียก. | เงือก ๓ | น. ชื่อนกขนาดใหญ่หลายชนิด ในวงศ์ Bucerotidae ปากใหญ่ บนส่วนท้ายของขากรรไกรบนมีโหนกแข็ง ส่วนใหญ่ภายในโหนกแข็งกลวง ยกเว้นบางชนิดมีโหนกแข็งตัน เช่น นกชนหิน ส่วนใหญ่ลำตัวสีดำ นอกฤดูผสมพันธุ์อยู่รวมกันเป็นฝูง ขณะบินมีเสียงดัง ระยะเริ่มตกไข่ตัวเมียจะอยู่ในโพรงไม้ แล้วใช้เศษอาหาร ดิน และมูลปิดปากโพรงด้านใน ตัวผู้ใช้วัสดุเดียวกันปิดปากโพรงทางด้านนอก เหลือรูพอที่ตัวผู้จะหาอาหารมาป้อนให้ขณะที่ตัวเมียฟักไข่และเลี้ยงลูกได้ ร้องเสียงดังมาก กินผลไม้และสัตว์ขนาดเล็ก เช่น เงือกกรามช้าง [ Rhyticeros undulatus (Shaw) ] เงือกหัวแรด ( Buceros rhinoceros Linn.) เงือกสีน้ำตาล [ Ptilolaemus tickelli (Blyth) ] เงือกดำ [ Anthracoceros malayanus (Raffles) ]. | จลนี ๒ | (จะ-) น. ชะนี เช่น จลนีหวนโหนปลายทูม (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). | ชนหิน | น. ชื่อนกเงือกขนาดใหญ่ชนิด Rhinoplax vigil (Forster) ในวงศ์ Bucerotidae ปากใหญ่สีเหลือง บนส่วนท้ายของขากรรไกรบนมีโหนกแข็งสีแดง ส่วนด้านหน้าตัน คอสีน้ำตาลแดง ลำตัวและปีกสีดำ ขอบปีกสีขาว หางสีขาวมีคาดสีดำ ขนหางตอนกลางยื่นยาวเป็นคู่ออกไปมีสีขาวตอนปลายคาดดำ พบทางภาคใต้. | ชะนี ๑ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Hylobatidae แขนยาวมาก ไม่มีหาง ขนยาวนุ่ม เดินตัวตั้งตรงได้ ห้อยโหนอยู่ตามต้นไม้สูง ๆ ร้องเสียงดัง แสดงถึงอาณาเขตของแต่ละคู่ แต่ละชนิดมีเสียงร้องไม่เหมือนกัน กินผลไม้และใบไม้ ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ ชะนีมือขาว [ Hylobates lar (Linn.) ] ขนลำตัวสีดำหรือนํ้าตาล ชะนีหัวมงกุฎหรือชะนีมงกุฎ ( H. pileatusGray) ขนตัวผู้สีดำ ตัวเมียสีเทา และชะนีมือดำหรือชะนีคิ้วขาว ( H. agilisF. Cuvier) ขนลำตัวสีดำ นํ้าตาล หรือเทา. | ช้างเอเชีย | น. ชื่อช้างชนิด Elephas maximus (Linn.) หัวโต เห็นเป็นโหนก ๒ โหนก เรียก ตะพอง ปลายงวงด้านบนมีจะงอย ๑ จะงอย ใบหูเล็กรูปสามเหลี่ยม หลังเรียบหรือโค้งเล็กน้อย ผิวหนังค่อนข้างละเอียดนุ่ม มีขนสีดำทั่วตัวแต่ที่เห็นได้ชัดบริเวณตา ปลายหาง โหนกหัวและมุมปาก หางยาวเกือบถึงพื้น ขาหน้ามีเล็บข้างละ ๕ เล็บ ขาหลังมีเล็บข้างละ ๔ หรือ ๕ เล็บ ตัวผู้มีงายาว เรียก ช้างพลาย ไม่มีงาหรืองาสั้น เรียก ช้างสีดอ ตัวเมีย เรียก ช้างพัง ส่วนใหญ่ไม่มีงาหรือมีงาสั้น งาของตัวเมีย เรียก ขนาย. | ตะโหงก ๒ | สิ่งที่นูนโหนกขึ้นจากพื้นราบ เช่น หัวตะโหงกตอไม้ | นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น | ก. ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น, ไม่รู้อีโหน่อีเหน่. | มด ๑ | น. ชื่อแมลงหลายชนิดในวงศ์ Formicidae ส่วนท้องปล้องที่ ๑ หรือปล้องที่ ๑ และปล้องที่ ๒ ที่ติดกับอกคอดกิ่ว ด้านหลังส่วนที่คอดมีโหนกนูน ลักษณะนี้ทำให้มดแตกต่างไปจากต่อ แตน และปลวก มีรูปร่าง ลักษณะ สี และกลิ่นแตกต่างกันตามชนิด เดินกันเป็นทางเพื่อขนอาหาร หรือย้ายรัง เป็นแมลงสังคม ทำรังอยู่เป็นกลุ่ม แบ่งชั้นวรรณะเป็นมดนางพญา มดผู้ และมดงาน มดงานเป็นมดเพศเมียที่เป็นหมันทำหน้าที่สร้างรัง เลี้ยงดูตัวอ่อน และหาอาหาร บางชนิดเมื่อถูกรบกวนจะป้องกันตัวโดยใช้อวัยวะต่อยปล่อยกรดหรือกัดให้เกิดแผลและปล่อยกรดออกมาทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือทำให้เจ็บปวดได้. | แรด ๒ | น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Osphronemus gouramy Lacepède ในวงศ์ Osphronemidae ลำตัวแบนข้างหนา ปากเชิด ปลายครีบท้องยื่นยาวเป็นเส้น มีลายแถบสีเข้มพาดขวางลำตัวเห็นได้ชัดโดยเฉพาะปลาขนาดเล็ก ปลาตัวผู้ขนาดใหญ่มีโหนกที่สันหัวคล้ายนอและมีสีส้ม พื้นลำตัวและครีบสีนํ้าตาล ขนาดยาวได้ถึง ๗๐ เซนติเมตร. | โล้ชิงช้า | ก. ยืนบนชิงช้าแล้วใช้มือโหนเชือกโยกตัวให้ชิงช้าแกว่งโยนไปมา. | สะใจ | ว. หนำใจ, สาแก่ใจ, สมใจอยาก, เช่น อยากกินหูฉลามมานานแล้ว วันนี้ต้องกินให้สะใจเสียที เขาโมโหน้องมาก เลยตีเสียสะใจ. | หัวตะโหงก | (-โหฺงก) น. สิ่งที่นูนโหนกขึ้นมาจากพื้นราบ เช่น หัวตะโหงกตอไม้. | โหร | (โหน) น. ผู้พยากรณ์โดยอาศัยการโคจรของดวงดาวเป็นหลัก |
|
| parietal tuber; eminence, parietal | โหนกข้างขม่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | parietal eminence; tuber, parietal | โหนกข้างขม่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | supraciliary arch; arch, superciliary; arch, supraorbital | โหนกคิ้ว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | subjugal | ใต้กระดูกโหนกแก้ม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | superciliary arch; arch, supraciliary; arch, supraorbital | โหนกคิ้ว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | supraorbital arch; arch, superciliary; arch, supraciliary | โหนกคิ้ว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | subzygomatic | ใต้โค้งกระดูกโหนกแก้ม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | arch, superciliary; arch, supraciliary; arch, supraorbital | โหนกคิ้ว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | arch, supraciliary; arch, superciliary; arch, supraorbital | โหนกคิ้ว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | arch, supraorbital; arch, superciliary; arch, supraciliary | โหนกคิ้ว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | arch, zygomatic | โค้งกระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๒ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | jugum; bone, cheek; bone, zygomatic; mala | กระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๓ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | bone, zygomatic; bone, cheek; jugum; mala | กระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๓ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | bone, zygomatic process of temporal | ส่วนยื่นกระดูกขมับจดกระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | bone, cheek; bone, zygomatic; jugum; mala | กระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๓ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | mastoid cavity | โพรงโหนกกกหู [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | mala; bone, cheek; bone, zygomatic; jugum | กระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๓ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | cavity, mastoid | โพรงโหนกกกหู [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | cheek bone; bone, zygomatic; jugum; mala | กระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๓ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | frontal tuber; eminence, frontal | โหนกหน้าผาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | frontal eminence; tuber, frontal | โหนกหน้าผาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | eminence | โหนก, เนิน, ปุ่ม, ส่วนยื่น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | eminence, frontal; tuber, frontal | โหนกหน้าผาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | eminence, parietal; tuber, parietal | โหนกข้างขม่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | inion | โหนกท้ายทอย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | zygoma | ๑. ส่วนยื่นกระดูกขมับจดกระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ bone, zygomatic process of temporal ]๒. โค้งกระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ arch, zygomatic ]๓. กระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ bone, cheek; bone, zygomatic; jugum; mala ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | zygomatic arch | โค้งกระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๒ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | zygomatic bone; bone, cheek; jugum; mala | กระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๓ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | zygomatic process of maxilla | ส่วนยื่นขากรรไกรบนจดกระดูกโหนกแก้ม [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | zygomatic process of temporal bone | ส่วนยื่นกระดูกขมับจดกระดูกโหนกแก้ม [ มีความหมายเหมือนกับ zygoma ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | tuber, parietal; eminence, parietal | โหนกข้างขม่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | tuber, frontal; eminence, frontal | โหนกหน้าผาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| | I ain't never been mad. | ฉันไม่เคยโมโหนาย Of Mice and Men (1992) | Hunt backed up against the air-lock door, his hand groping for the lever. | ฮันท์ถอยหลัง แล้วโหนตัวกับคาน The Cement Garden (1993) | His own fingers locked around the lever of the air-tight door. | เขาพยายามโหนคานนั่นไว้ The Cement Garden (1993) | So does he have a hump and a hair piece? | เขามีโหนกไหม โหนกที่มีขนเพียบด้วย The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | as far as it takes us. | - ต้องโหนรถบัสไปอีกไกลมั้ย? - ไปไกลเท่าที่จะไปได้ Spies Like Us (1985) | Give me cheekbones, or give me death! | ทำให้ฉันเห็นโหนกแก้มพวกเธอหน่อยสิ เอาแบบสุดๆเลยนะ Mannequin: On the Move (1991) | I was dumped by someone I love That's why I had a little tantrum. | ผมถูกคนที่ผมรักทิ้ง มันทำให้ผมโมโหนิดหน่อย Romance of Their Own (2004) | Oh, I could hang here, I could hang here. | โอ้ ฉันสามารถโหนตรงนี้, ฉันโหนตรงนี้ Madagascar (2005) | Once again, you shouldn't mumble. It's starting to bum me out. | เอาอีกแล้วอย่าพูดงึมงึมซิ ทำให้โมโหนะ Charlie and the Chocolate Factory (2005) | - I'm cursed. | อย่าให้ฉันโมโหนะ Golden Door (2006) | A little angry? | โมโหนิดหน่อย? Chapter Two 'Don't Look Back' (2006) | A little angry. | โมโหนิดหน่อย Chapter Two 'Don't Look Back' (2006) | Why does she get so mad? | ทำไมยัยนั่นถึงทำให้ฉันโมโหนะ? Boys Over Flowers (2005) | Oh, She's Just Mad 'Cause Her Husband's In Love With Me. | อ้อ.. ก็แค่โมโหน่ะ ที่สามีมารักฉัน Something's Coming (2007) | And who knows how many more innocent people after that. | ใครจะรู้ว่าจะมี คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกมากแค่ไหน Bad Day at Black Rock (2007) | "I'm moving gently forward, over the wild and beautiful, unexplored world below me. | เชือกมันเก่าแล้ว ชั้นไม่กล้าโหนหรอก. เอาน่าโหนกันเถอะ. Bridge to Terabithia (2007) | Above me, there's nothing but shimmery light, the place where I've come from, and will go back to when I am done here. | ก็โหนเชือกไง ว้าวว.. สนุกมากเลยเธอลองดูซิ Bridge to Terabithia (2007) | As I swim through the water, bubbles burst from me, wobbling like little jellyfish as they rise. | ไม่รู้ซิ แล้วไงล่ะ. โอเคงั้น ถ้าเกิดทำสิ่งที่จะเข้าอณาจักรได้ ก็คือการโหนเชือกมนตรานี้. เชือกมนตราเหรอ. Bridge to Terabithia (2007) | [ Leslie ] Some neighbor heard them yelling so loud, they called the police. | เมื่อเช้านี้เธอจมน้ำในลำธาร ดูเหมือนเธอพยามจะโหนเชือกแต่เชือกขาด. Bridge to Terabithia (2007) | - Don't jack with me. | -อย่ากวนน้ำโหนะ No Country for Old Men (2007) | We'll suspend it a few metres above the water. | เราจะโหนตัวห่างจากผิวน้ำเล็กน้อย Rogue (2007) | -l want it. -l can't hang like this all day. | ฉันทำได้\ ฉันโหนอย่างนี้ทั้งวันไม่ไหวนะ Alvin and the Chipmunks (2007) | - for a little bit. | นิดโหน่ย The Fourth Man in the Fire (2008) | Oh, you mean that bump? | โอ้ว, คุณหมายถึงโหนกนี่นะเหรอ Meet the Spartans (2008) | Cause pain to an innocent woman. | ทำให้ผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องเจ็บปวด Go Your Own Way (2008) | Bet your mom freaked out, huh? | แม่เธอคงโมโหน่าดู Brothers of Nablus (2008) | That funny swing the monkey goes on. | ว่าลิงมันห้อยโหนได้ตลกแค่ไหน A Vision's Just a Vision (2008) | I was hoping you wanted to see me. I did. | ฉันอยากเจอค่ะ คนไข้โพรงจมูกแตกละเอียด โหนกแก้มและขากรรไกรล่างซ้ายแตก Rise Up (2008) | Look at you go. | เวลาแกโมโหนี่น่ากลัวเหมือนกันนะ The Dark Knight (2008) | So she doesn't know anything about what happened? | เธอก็เลยไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลย Body of Lies (2008) | Right over there. Look, look. To me, that looks like a camel. | น้าว่ามันเหมือนอูฐเลย นั่นโหนกมัน Bedtime Stories (2008) | Your cheekbones. | โหนกแก้มของเธอ Episode #1.5 (2009) | No, we have a lot to be pissed about. | พวกเราต่างหาก มีเรื่องเยอะแยะให้โมโหน่ะ Sigh (2009) | Jason's great, plus an evening out doesn't involve me on his handlebars and the Taco Bell drive-thru. | เจสันเป็นคนที่เยี่ยมมาก เขาไม่เคยให้ฉันต้องไปโหนรถ และไม่ต้องไปกินฟาสฟู๊ด Chuck Versus the Best Friend (2009) | I've been riding on those handlebars for years. | ผมก็เคยโหนรถมาเป็นปีเหมือนกัน Chuck Versus the Best Friend (2009) | I'm about to bleed and drink an innocent woman | จะให้ฉันฆ่าหญิงสาวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ Lucifer Rising (2009) | I forgot why I was mad at you. | ฉันลืมไปแล้ว ว่าทำไมฉันโมโหนาย Chuck Versus the Broken Heart (2009) | I've spent the last year of my life being tortured, dangled off of skyscrapers, bathed in sewage. | ผมสละเวลาปีที่แล้วของชีวิต ถูกทรมาน, ห้อยโหนตามตึกระฟ้า เปียกชุ่มด้วยน้ำโสโครก Chuck Versus the First Kill (2009) | Enticing innocent guys with money and involving them in crime... | ล่อลวงเด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ด้วยเงิน ชักนำเขาสู้อาชยากร Gokusen: The Movie (2009) | Gomez hit the kid's old man so hard, his cheekbone broke, pushing his eyeball up and out of his face. | โกเมซตีพ่อของเด็ก อย่างแรง โหนกแก้มเขาแตก ดันลูกตาขึ้น และออกมาจากหน้าเขาเลย Living the Dream (2009) | Anything I can do to keep that Irish off your ass, let me know. | อะไรก็ตามที่ฉันจะกัน ไอ้หนุ่มไอริชขี้โมโหนั่น ออกจากนายได้ บอกให้ฉันรู้ละกัน Living the Dream (2009) | That girl can make a mean lanyard. | เธอผ่านเชือกโหนได้ New History (2009) | At the nasal and the zygomatic. | ที่จมูก และโหนกแก้ม The Dwarf in the Dirt (2009) | It's simply the duty of the elite to protect the ignorant masses. | หน้าที่ของฉันคือการปกป้องประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพราะฉันคือสุดยอดนักบิน Evangelion: 2.0 You Can (Not) Advance (2009) | We can think about making the wedding a little bigger. | ฉันบอกแล้วให้ระวัง [ รู้สึกเสียใจกับแขนขวาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ] Our Family Wedding (2010) | No. No, we can't afford that. | อา มันเจ็บมากเลย [ รู้สึกเสียใจกับแขนขวาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ] Our Family Wedding (2010) | I can't even do a pull-up. | ฉันโหนบาร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ Frozen (2010) | You never even tried to do a fucking pull-up. | เธอไม่เคยพยายามจะโหนไอ้บาร์นั่นต่างหาก Frozen (2010) | She could do a fucking pull-up. | หล่อนโหนบาร์ได้เว้ย Frozen (2010) | No one hanging from a pole should know your name. | ไม่ควรมีสาวโหนบาร์คนไหนรู้จักชื่อคุณนะ You Gotta Get a Gimmick (2010) |
| ห้อยโหน | [høihōn] (v) EN: swing ; swing and hang ; do acrobatics FR: se balancer suspendu | โหน | [hōn] (v) EN: swing ; hang ; dangle ; cling FR: se balancer ; être suspendu | กระดูกโหนกแก้ม | [kradūk nōk kaēm] (n, exp) EN: zygomatic bone FR: arcade zygomatique [ f ] | งูกินทากหัวโหนก | [ngū kin thāk hūa nōk] (n, exp) EN: Blunt-headed Slug Snake ; Blunt-headed Tree Snake | โหนก | [nōk] (adj) EN: protuberant ; bulging ; protruding ; projecting | โหนกหลัง | [nōklang] (n) EN: hump FR: bosse [ f ] |
| | brain damaged | ใช้การไม่ได้ไร้สมองหมายถึง อะไรก็ตามที่ภายนอกดูดี แต่ข้างในจริง ๆ นั้นแย่มาก ๆ เข้าทำนอง "ข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ่งโหน่ง" สำนวนภาษาไทย อีกสำนวนหนึ่งที่มีความหมายคล้ายกันก็คือ "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ถ้าใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็หมายถึงเครื่องที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพเหมือนกับที่โฆษณาเอาไว้ | bump | (บัมพฺ) { bumped, bumping, bumps } vt. ชนกระทบ, กระทบ, จับชน, ทำให้ชน, ชนล้ม, ไล่ออกจากงาน, ยก vi. กระทบ, สัมผัส, เอาตะโพกชน, พบโดย บังเอิญ, ประสบ, วิ่งโคลงเคลง -Id. (bump off ฆ่า) n. การชน, การกระแทก, หัวโหนก, ส่วนนูน, การเอาก้นชน | crest | (เครสทฺ) { crested, cresting, crests } n. หงอน, หงอนไก่, ยอด, สิ่งประดับบนยอด, ยอดเขา, ยอดคลื่น, ยอดหมวก, ขนแผงคอม้าหรือสิงโต, โหนก, ส้น, ลายประดับ, ตราประจำตระกูล vi. เกิดเป็นยอด, บรรลุถึงจุดสุดยอด. -Phr. (on the crest of the wave ในสมัยรุ่งเรืองที่สุด) คำศัพท์ย่อย: | humpback | n. หลังโกง, หลังค่อม, ปลาวาฬ ที่มีตะโหนกบนหลัง | humpbacked | adj. ซึ่งมีตะโหนก, บนหลัง, หลังโกง, หลังค่อม, Syn. hunchbacked | hunch | (ฮันชฺ) vt. ทำให้โค้ง, ทำให้โก่ง, ทำให้ค่อม vi. ผลัก, ดัน, ยืน, นั่งหรือเดินหลังโค้ง. -n. โหนก, ตะโหนก, เนื้อหนอก, เนื้อตะโพก, การรู้สึกล่วงหน้า, การผลัก | mons | (มอนซฺ) n. ส่วนนูน, ปุ่มตุ่ม, โหนก pl. montes | prominence | (พรอม'มะเนินซฺ) n. การนูนออก, การโผล่ออก, โหนก, ปุ่ม, เนิน, โคก., Syn. prominency | promontory | (พรอม'มันโทรี, -ทอรี) n. แหลม, ส่วนของแผ่นดินสูงที่ยื่นออกไปในทะเล, โหนก, ส่วนนูน, Syn. headland | protrusion | (โพรทรู'เ?ิน) n. การยื่นออก, การถลน, การโผล่ออก, สิ่งที่โผล่ออก, ส่วนนูน, โหนก, See also: protrusive adj. protrusiveness n., Syn. projection | protuberance | (โพรทู'เบอเรินซฺ) n. การยื่นออก, การโผล่ออก, การนูน, การโปน, ส่วนที่ยื่นออก, ส่วนที่นูน, โหนก, ปุ่ม., See also: protuberential adj., Syn. swelling, bump, bulge | protuberant | (โพรทฺ'เบอเรินทฺ) adj. ยื่นออกมา, เป็นนูนออกมา, เป็นปุ่ม, เป็นโหนก. | yoke bone | n. กระดูกโหนกแก้ม | zebu | (ซี'บิว) n. วัวเอเชียชนิดหนึ่งที่มีโหนกหลังสูงและมีเหนียงคอยา ว |
| boss | (n) นายจ้าง, เจ้านาย, หัวหน้า, ลายสลักปุ่ม, โหนก | crest | (n) ยอด, ปลาย, หงอน, โหนก, ตราประจำตระกูล | dangle | (vi) แกว่ง, ห้อย, โหน, ติด(ผู้หญิง) | hang | (vt) แขวน, ห้อย, โหน, เกาะ, จับ, เหนี่ยว | hunch | (n) หนอก, ตะโหงก, โหนก | promontory | (n) คาบสมุทร, แหลม, โหนก, ส่วนนูน | protrusion | (n) การถลน, การโปน, โหนก, การแลบออก | protuberance | (n) โหนก, ปุ่ม, ปม, การบวม | withers | (n) โหนกคอสัตว์, ตะโหงกม้า |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |